เครื่องตัดหญ้าแบบไหนที่เหมาะกับเรา และทนต่อการใช้งาน |
การจัดสวนเป็นอีกหนึ่งอย่างที่คนรักบ้านต้องคำนึงถึง
โดยส่วนใหญ่แล้วเจ้าของบ้านจะเป็นคนจัดสวนเองตามสไตล์ของแต่ละบ้าน
แต่อุปสรรคสำคัญของคนจัดสวนที่ต้องหมั่นดูแลเอาใจใส่นั้นคือ หญ้าหน้าบ้าน หากเราปล่อยปะละเลย
หญ้าก็จะขึ้นสูงตามกาลเวลา ฉะนั้นจะต้องช่วยกันดูแล ตัดแต่ง ให้แลดูสวยงามเป็นระเบียบอยู่เสมอ
อย่างน้อยที่สุดควรมีการตัดหญ้าเดือนละ 1 ครั้ง และหากต้องการให้หญ้าเติบโตสวยแน่น
แนะนำให้ตัดแต่ง 2 สัปดาห์ครั้ง หากจะใช้กรรไกรตัดหญ้าอาจจะเสียทั้งแรงทั้งเวลา
แต่พระเอกที่จะช่วยให้เราเหนื่อยน้อยลงคือ เครื่องตัดหญ้า
ฉะนั้นเมื่อเราจะเลือกใช้เครื่องตัดหญ้า เราควรมาดูหลักในการซื้อ
เพื่อให้ได้เหมาะสมกับบ้านเราและมีประสิทธิภาพที่สุด
เครื่องตัดหญ้าแบบไหนที่จะเหมาะกับเรา
จะเลือกเครื่องตัดหญ้าทั้งทีจะเลือกแค่ว่าตัดได้ตัดเร็วอย่างเดียวไม่ได้
ต้องดูด้วยว่าเวลาใช้จริงกินแรงเรามากน้อยแค่ไหน ต้องดูแลอย่างไรหลังการใช้งาน
อันนี้ต้องเช็คให้ละเอียดเลยก่อนตัดสินใจ ซึ่งส่วนนี้สำคัญมากเพราะถ้าเป็นผู้หญิงใช้ด้วยแล้ว
หากซื้อมาแบบไม่มีความรู้ความเข้าใจ ก็อาจจะมาจอดทิ้งไว้ และใช้งานไม่ได้เป็นไปอย่างที่ตั้งใจ
|
เครื่องตัดหญ้าแบบใช้แรงคนเข็น
เป็นแบบที่ประหยัดที่สุดเพราะไม่ต้องใช้เชื้อเพลิง
แต่เป็นเครื่องที่ใช้คนเข็นแล้วมีใบมีดแบบโรตารี่ก็ทำการตัดหญ้าไปตามแรงเข็น
หรือบางคนก็นำมาต่อกับจักรยานปั่นตัดหญ้าไปรอบๆ สนาม ใช้งานได้ดีกับพื้นที่เล็กๆ ที่ราบเรียบ
เป็นหญ้าที่ปลูกเพื่อความสวยงาม แต่ใบมีดของเครื่องชนิดนี้จะสึกง่าย ลับคมไม่ได้
ถ้าจะเปลี่ยนอะไหล่ก็ราคาสูง อายุการใช้งานไม่ยาวนานนัก
|
|
เครื่องตัดหญ้าแบบสะพายบ่า
เหมาะสำหรับพื้นที่ที่มีต้นหญ้าขึ้นสูง หรือในจุดที่เข้าถึงยาก ส่วนใหญ่จะใช้สำหรับในสวน ไร่ นา
ที่มีหญ้าขึ้นรกสูง เช่น พวกหญ้าคา วัชพืชต่างๆ ใช้ได้ในพื้นที่ๆ ไม่เรียบ
ด้วยกำลังของเครื่องแบบ 2 จังหวะ และ 4 จังหวะ ใช้เชื้อเพลิงเป็นน้ำมัน
ใช้ได้กับการตัดหญ้าแทบทุกประเภท แต่ตัวเครื่องจะมีน้ำหนักมากและเสียงดัง
ใช้ยากกว่าแบบรถตัดหญ้า การใช้งานต้องมีความเชี่ยวชาญมากทีเดียว
หากใช้ไม่เป็นอาจทำให้เกิดอันตราย
จึงต้องมีอุปกรณ์เสริมอย่างแว่นนิรภัยไว้สวมใส่ระหว่างทำงานด้วย
|
|
เครื่องตัดหญ้าแบบรถเข็นไฟฟ้า
เป็นแบบที่นิยมใช้กันทั่วไป เพราะสะดวกทั้งเรื่องการใช้งาน เรื่องของพลังงานที่เป็นแบบไฟฟ้า
ไม่ยุ่งยากในการดูแลรักษา แค่เสียบปลั๊กก็พร้อมใช้งาน เสียงไม่ดังมาก
ผู้หญิงก็สามารถใช้งานได้สะดวก เวลาใช้งานเพื่อให้ตัดหญ้าได้เรียบและเบาแรง
ควรแบ่งการตัดออกเป็นสองระดับ จะช่วยให้ตัวเครื่องไม่ดับหรือน็อคเมื่อเจอหญ้าสูงและหนา
ข้อดีของเครื่องตัดหญ้าแบบไฟฟ้า คือ ใช้งานสะดวก
มีเสียงเบา ไม่เกิน 96 เดซิเบล ไม่มีมลพิษทางอากาศ ดูแลรักษาทำความสะอาดง่าย
เพียงล้างหญ้าที่ติดออกให้หมด ชโลมน้ำมันในส่วนที่เป็นโลหะ เช่น ใบมีด
เพื่อยืดอายุการใช้งานก่อนนำเข้าเก็บ
|
|
เครื่องตัดหญ้าแบบรถเข็นใช้น้ำมัน
ต้องบอกเลยว่าเป็นแบบที่นิยมกันมาก เพราะใช้งานได้สะดวกด้วยพลังการตัดหญ้าที่แรงกว่าแบบไฟฟ้า
สามารถตัดหญ้าที่มีความหนามากได้ รวมถึงใช้งานได้ในสนามที่มีความชื้นและเปียก
ตัดหญ้าในพื้นที่กว้างๆ ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องพักเครื่อง จนกว่าน้ำมันจะหมดถัง
ข้อดี ของเครื่องตัดหญ้าแบบใช้น้ำมัน คือ
เครื่องยนต์มีกำลังแรง ตัดหญ้าในสนามกว้างๆ ได้โดยไม่ต้องหยุดพัก ไม่ต้องกังวลเรื่องสายไฟ
มีอะไหล่ครบสำหรับการซ่อมแซมในส่วนต่างๆ อายุการใช้งานยาวนาน
|
|
เครื่องตัดหญ้าแบบเอ็น
เป็นเครื่องแบบมือถือที่ใช้พลังงานไฟฟ้า มีเส้นเอ็นเหวี่ยงรอบแกนของมอเตอร์เป็นตัวตัดหญ้า
กำลังการทำงานไม่แรงเท่ารถตัดหญ้าแบบไฟฟ้าหรือแบบใช้น้ำมัน
ไม่เหมาะกับการตัดหญ้าในสนามที่กว้างมาก
ใช้ได้กับการตัดหญ้าที่ปลูกเพื่อความสวยงามมากกว่าพวกวัชพืช สำหรับสนามขนาดย่อมๆ ไม่ใหญ่มากนัก
สามารถใช้เครื่องตัดหญ้าแบบนี้ได้สบายในการเล็มหญ้าบริเวณขอบปูน ขอบรั้ว ที่รถตัดหญ้าเข้าไม่ถึง
|
|
อย่าลืม!เรื่องถังเก็บหญ้า
เพราะหากเลือกเครื่องตัดหญ้าไม่มีถังเก็บก็จะต้องเสียเวลามากวาดเก็บหญ้าอีกรอบหนึ่งสำหรับสนามหญ้าที่มีความลาดเอียง ควรเลือกใช้ถังเก็บหญ้าที่เป็นไนล่อน มีน้ำหนักเบา
มองเห็นปริมาณของเศษหญ้าในถังเก็บได้ง่าย และระบายอากาศได้ดี
ส่วนพื้นที่ราบสามารถใช้ถังเก็บหญ้าแบบพลาสติก Polypropylene (PP) ซึ่งมีความคงทนแข็งแรง
ทำความสะอาดง่าย ยืดหยุ่น ทนทาน และน้ำหนักเบา ถอดล้างทำความสะอาดได้สะดวก
Tips : หลังการใช้งานเครื่องตัดหญ้า ควรทาน้ำมันในส่วนที่เป็นโลหะ
อย่างบริเวณใบมีดเพื่อยืดอายุการใช้งาน เช็ดปัดเศษหญ้าด้วยผ้าแห้งสะอาด
อย่าปล่อยให้หญ้าแห้งสะสมหนาจนเสียความคมของใบมีด และไม่ลืมม้วนเก็บสายไฟเข้าที่
ระวังอย่าให้สายหักงอเพราะลวดทองแดงข้างในอาจขาดได้
เครื่องตัดหญ้าแบบใช้น้ำมัน...ต้องหมั่นตรวจเช็คและเปลี่ยนถ่ายน้ำมันเครื่อง
ทำความสะอาดกรองอากาศด้วยการเป่าฝุ่น หรือล้างด้วยน้ำมันเชื้อเพลิงที่ใช้กับรถตัดหญ้า
ไม่ควรใช้น้ำเปล่าล้าง เพราะหากไม่แห้ง น้ำจะกระเด็นเข้าไปในเครื่องทำให้เครื่องเสียหาย
และควรทาน้ำมันในส่วนที่เป็นโลหะ และไม่ลืมเช็ดเศษหญ้า ไม่ให้สะสมจนหนาเกินไป
ที่สำคัญไม่ควรลืมถามเรื่องการดูแลหลังการขาย...ควรเลือกเครื่องตัดหญ้ายี่ห้อที่มี after sale
service มีการรับประกันตั้งแต่ 6 เดือน - 8 ปี แล้วแต่ยี่ห้อ
ในส่วนนี้ต้องไม่ลืมที่จะถามพนักงานเป็นคำถามสุดท้ายด้วย
|