ตู้เย็นแบบไหนที่ควรค่าแก่การครอบครอง |
อาจดูเป็นเรื่องธรรมดาทั่วไปกับการเลือกซื้อตู้เย็น แต่ที่จริงไม่ใช่แค่การเลือกแบบที่สวยเท่านั้น ก่อนตัดสินใจเลือกตู้เย็นสักหลัง ต้องมองให้ครอบคลุมทั้งคุณภาพและราคา ให้เหมาะสมในการตัดสินใจเป็นเจ้าของ โดยไม่ต้องมานั่งปวดหัวก่อนและหลังใช้ แต่ถ้าจะให้ดีจริง ๆ ควรพิจารณากันที่หลักการทำงาน ขนาด ราคา รูปแบบ ตู้เย็น 1 ประตู ตู้เย็น 2 ประตู หรืออื่น ๆ และการกินไฟมากกว่า เพราะข้อจำกัดเหล่านี้คือ วิธีการที่จะช่วยให้คุณตัดสินใจ ควรเลือกตู้เย็นที่ตอบโจทย์กับความต้องการ ลองมาดูกันเป็นข้อๆเลยว่า เราต้องควรพิจารณาอะไรกันบ้างในการเลือกซื้อตู้เย็นให้ทั้งดีไซน์สวย และใช้งานได้อย่างคุ้มค่า |
ความจุพอจำนวนคน ขนาดพอดีพื้นที่ตู้เย็นขนาดกี่คิว จึงจะพอดีไม่เล็กไม่ใหญ่เกินไป ให้เปลืองพื้นที่,เปลืองไฟ เปรียบเทียบอย่างง่ายๆ ตามจำนวนคนและพฤติกรรมการใช้งาน เช่น 2-3 คน ควรใช้ขนาด 6-10 คิว, 4-5 คน ควรใช้ขนาด 10-15 คิว หรือ 6 คนขึ้นไป ควรเลือกใช้ที่ขนาดไม่ต่ำกว่า 15 คิว และต้องไม่ลืมที่จะวัดขนาดของพื้นที่สำหรับวางตู้เย็น กว้างxลึกxสูง ประกอบด้วย รวมถึงความกว้างประตู บันได เพื่อตอนขนย้ายจะได้ไม่ติดปัญหา *ควรวัดหน่วยเป็นเซนติเมตรจะช่วยให้เปรียบเทียบง่ายขึ้น | |
เลือกที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5เหนือสิ่งอื่นใดในการเลือก เครื่องใช้ไฟฟ้า จะต้องคำนึงถึงการประหยัดไฟเป็นลำดับแรก ดังนั้นเราควรเลือกซื้อตู้เย็น ที่มีสติ๊กเกอร์ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 กำกับ เพราะจะช่วยให้ประหยัดไฟได้มากกว่า แต่ถ้าเป็นตู้เย็น ที่มีตัวเลขต่ำกว่า 5 ลงไปก็จะยิ่งกินไฟเยอะและมีคุณภาพที่ด้อยลงไป เช่น เบอร์ 1 คือระดับต่ำสุด เบอร์ 2 คือระดับพอใช้ เบอร์ 3 คือระดับปานกลาง เบอร์ 4 คือระดับดี และเบอร์ 5 คือระดับดีมาก ถ้าเปรียบเทียบเบอร์ฉลากกับค่าไฟที่ต้องเสียรายปีได้ ดังนี้
พิจารณาจากคุณสมบัติพื้นฐาน คุณสมบัติพื้นฐานที่ว่านี้คือ ดีไซน์ภายในตู้เย็นที่ต้องเลือกให้เหมาะสม ดูทันสมัย และจัดวางสิ่งของง่าย พิจารณาได้จากส่วนประกอบหลัก ๆ ดังนี้
ราคาตู้เย็นต้องคุ้มค่าราคาจะทำให้การตัดสินใจง่ายขึ้น หากมีการตั้งงบไว้แต่แรก โดยคำนวณราคากับอายุการใช้งานของแต่ละรุ่นที่เราเลือก เปรียบเทียบ ตัดสินใจว่ารุ่นไหนมีค่าใช้จ่ายต่ำสุด ด้วยการคำนวณง่ายๆ
| |
ดีไซน์สวย อยู่ได้นานเรื่องดีไซน์ตู้เย็นควรเลือกแบบที่สวย และใช้ได้นาน ดูไม่เชยเมื่อเวลาผ่านไปนานๆ ให้ง่ายที่สุด คือ การเลือกสีตู้เย็นที่เป็นสีพื้นๆ เช่น สีดำ สีเทา สีขาว สีน้ำเงิน เพื่อจะได้ดูเข้ากับทุกยุคทุกสมัย ดูไม่เก่าง่าย และไม่ลืมมองเรื่องความสะดวกในการใช้งาน เปิด-ปิดสะดวก มีช่องชั้นจัดเก็บของได้อย่างพอเหมาะ เพื่อทุกอย่างในตู้เย็นได้จัดอย่างเป็นระเบียบ | |
ตำแหน่งที่ตั้ง ต้องระบายความร้อนได้ดีที่สำคัญจะตั้งตู้เย็นตรงไหนต้องมองว่า บริเวณนั้นทึบเกินไปหรือไม่ ควรเว้นระยะห่างด้านหลังตู้เย็นกับผนังประมาณ 20 ซม. ด้านข้าง 20 ซม. ด้านบน 30 ซม. เพื่อให้มีระยะเปิด-ปิด และด้านหลังก็สามารถระบายความร้อนได้ดี ตรวจสอบสภาพโดยรอบ ก่อนเซ็นต์รับสินค้าเมื่อตกลงใจเลือกตู้เย็นที่เหมาะกับเราแล้ว ก่อนรับสินค้าต้องตรวจสอบสภาพโดยรอบ ว่าไม่มีรอยบุบ ขูดขีด สายไฟอยู่ในสภาพเรียบร้อย ไม่ชำรุดฉีกขาด การเปิด-ปิดเงียบสนิท ประตูและยางขอบตู้แน่นสนิท เพื่อให้แน่ใจว่าตู้เย็นใหม่พร้อมใช้งาน แต่แม้ว่าตู้เย็นจะมีไว้เพื่อเก็บรักษาอาหาร แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะเหมาะกับอาหารทุกชนิดหรือจำเป็นต้องนำอาหารที่ซื้อมาทุกอย่างแช่ตู้เย็นเสมอไป หากเป็นอาหารที่ซื้อมาเพื่อกินทันทีก็ไม่จำเป็นต้องแช่ ยกเว้นอาหารที่ซื้อมาไว้เก็บหลาย ๆ วันมากกว่า ส่วนจะนำไปเก็บตรงไหนถึงจะเหมาะ ก็ขึ้นอยู่กับชนิดของอาหารแต่ละประเภท ให้ดีที่สุดเราควรทำอาหารใหม่สดทุกวัน เพื่อสุขภาพของตัวเราด้วย |