11 เทคนิค เปิดแอร์ให้ประหยัดไฟ ลดค่าใช้จ่ายช่วง WFH ที่ใครก็ทำได้!
• เปิดแอร์ให้ประหยัดไฟ ลดค่าใช้จ่ายช่วง WFH
1. ติดตั้งคอมเพรสเซอร์ในที่ร่ม และอากาศถ่ายเท 2. ล้างแอร์อย่างสม่ำเสมอ 3. หลีกเลี่ยงการใช้แอร์ในพื้นที่เปิด 4. เปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทก่อนเปิดแอร์ 5. ปิดประตู หน้าต่าง และช่องระบายอากาศต่าง ๆ ให้สนิทเมื่อเปิดแอร์ 6. ตั้งอุณหภูมิแอร์ให้สูงกว่า 25 องศาเซลเซียส สักเล็กน้อย 7. เปิดพัดลมช่วยไปด้วยขณะเปิดแอร์ 8. หลีกเลี่ยงการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อนในขณะเปิดแอร์ 9. หลีกเลี่ยงการเพิ่มความชื้นในห้องแอร์ 10. ตั้งเวลาปิดแอร์ล่วงหน้าก่อนเลิกใช้งาน 11. เปิดใช้งานแอร์เท่าที่จำเป็น• เปิดแอร์ให้ประหยัดไฟ ลดค่าใช้จ่ายช่วง WFH
หลาย ๆ คนคงเคยมีปัญหากลุ้มอกกลุ้มใจ หรือต้องนั่งกุมขมับทุกสิ้นเดือนเวลาได้รับบิลค่าไฟ ซึ่งปัจจัยหลัก ๆ มาจากปัญหา แอร์กินไฟ ที่พยายามประหยัดสุด ๆ แล้วค่าไฟก็ยังแพงเกินรับไหวอยู่ดี ถ้าเป็นแบบนี้มาลองเช็คกันหน่อยดีกว่าครับว่าเราพลาดอะไรไปบ้าง และมีวิธี เปิดแอร์แบบประหยัด วิธีไหนบ้างที่ยังไม่ได้ลองทำ โดยเช็คได้จาก 11 เทคนิค เปิดแอร์ให้ประหยัดไฟ ดังนี้เลยครับ1. ติดตั้งคอมเพรสเซอร์ในที่ร่ม และอากาศถ่ายเท
สำหรับในกรณีที่กำลังจะติดตั้งแอร์ตัวใหม่ หรือรีโนเวทบ้านแล้วต้องการย้ายตำแหน่งการติดตั้งแอร์อยู่แล้วก็แนะนำให้ลองตรวจสอบดูเรื่องของการติดตั้งคอมเพรสเซอร์ว่ามีการติดตั้งในบริเวณที่เหมาะสมหรือไม่ โดยตำแหน่งที่เหมาะสมคือการติดตั้งในพื้นที่ที่เป็นที่ร่ม และอากาศถ่ายเทได้ดี เพราะคอมเพรสเซอร์มีหน้าที่ในการระบายความร้อนโดยตรง จึงไม่ควรติดตั้งในพื้นที่อับ อากาศไม่ค่อยถ่ายเท หรือพื้นที่ที่ได้รับแดดโดยตรง รวมถึงบริเวณดาดฟ้า หรือพื้นปูนที่ต้องตากแดดตากฝนอยู่เป็นประจำด้วยครับ2. ล้างแอร์อย่างสม่ำเสมอ
บ้านไหนที่ติดตั้งแอร์มาสักระยะแล้ว และได้มีการใช้งานแอร์อย่างต่อเนื่องมาสักพักก็อาจจะสังเกตได้ว่าแอร์ที่ใช้อยู่มีความสามารถในการทำความเย็นลดลง นั่นเพราะเมื่อใช้งานมาสักพักจะมีฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกต่าง ๆ เข้าไปสะสมในตัวแอร์ หากปล่อยให้สะสมไว้นาน ๆ ก็จะไปขัดขวางการทำงานของมอเตอร์แอร์ รวมถึงส่วนต่าง ๆ ถือเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของแอร์ที่ทำให้แอร์ต้องทำงานหนักกว่าเดิม ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในสาเหตุที่ทำให้ แอร์กินไฟ กว่าปกติครับ อีกทั้งหากฝุ่นละอองเข้าไปอุดตันในท่อน้ำแอร์ก็จะทำให้เกิดปัญหาน้ำหยดตามมาอีก โดยทั่วไปแล้วการล้างแอร์ควรจะทำอย่างสม่ำเสมอทุก ๆ 6 เดือนเป็นอย่างต่ำ แต่หากติดตั้งแอร์ในพื้นที่ที่เป็นปัจจัยให้แอร์ทำงานหนักกว่าปกติอย่างเป็นห้องที่ติดถนน มีฝุ่นควันฟุ้งกระจายเป็นประจำ หรือเป็นพื้นที่ที่อยู่ในเขตก่อสร้างก็อาจจะต้องล้างแอร์ให้ถี่ขึ้น ประมาณทุก 2 – 3 เดือนก็ได้ครับ แต่สำหรับใครที่ยังไม่อยากเสี่ยงให้ช่างแอร์เข้ามาล้างแอร์ในช่วงที่โควิด-19 ยังแพร่ระบาดอยู่ หากมีอุปกรณ์ล้างแอร์ก็สามารถจัดการล้างแอร์ด้วยตัวเองได้ครับ หรืออาจเลือกทำความสะอาดในเบื้องต้นด้วยการล้างแผ่นกรองหยาบที่ติดอยู่หน้าเครื่อง ซึ่งจะช่วยให้แอร์กลับมาทำงานได้เต็มประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นได้ครับ3. หลีกเลี่ยงการใช้แอร์ในพื้นที่เปิด
พื้นที่เปิดโล่งในบ้านอย่างโถงบันได หรือโถงทางเดินระหว่างห้องต่าง ๆ ที่ไม่มีประตูกั้น ถือเป็นพื้นที่ที่ไม่เหมาะกับการใช้งานแอร์เท่าไรนัก เพราะนอกจากแอร์ที่เปิดจะไม่ค่อยเย็นแล้วยังทำให้แอร์ทำงานหนัก เป็นการเปลืองพลังงาน และเป็นอีกหนึ่งสาเหตุของปัญหา แอร์กินไฟ ที่มีผลกระทบทำให้ค่าไฟพุ่งสูงขึ้นโดยไม่จำเป็นด้วยครับ ดังนั้น หากจำเป็นต้องใช้งานแอร์ในพื้นที่แบบนี้จริง ๆ ก็อาจต้องลงทุนกับการปรับพื้นที่ให้กลายเป็นพื้นที่ปิดมิดชิดเสียก่อน โดยการปรับพื้นที่ห้องให้มิดชิดอาจเลือกใช้ฉากกั้นห้อง PVC หรือใช้ผ้าม่านเนื้อหนาที่มีเส้นใยแบบถักทอแน่นมาช่วยปิดกั้นพื้นที่ที่ไม่จำเป็น รวมถึงการปิดม่านบริเวณหน้าต่างในห้องที่ใช้แอร์ด้วยครับ วิธีนี้นอกจากจะช่วยให้แอร์ทำงานหนักน้อยลง ความเย็นไม่ไหลออกนอกพื้นที่แล้ว ยังเป็นการช่วยลดการสะสมความร้อนภายในห้องจากแสงอาทิตย์ได้อีกทางหนึ่งด้วยครับ4. เปิดประตูหน้าต่างให้อากาศถ่ายเทก่อนเปิดแอร์
อีกหนึ่งวิธี เปิดแอร์แบบประหยัด ที่เชื่อว่าหลายคนไม่เคยรู้มาก่อน คือ การเปิดประตู หน้าต่าง หรือช่องลมต่าง ๆ ภายในห้องให้อากาศที่อับอยู่ภายในห้องถ่ายเทออกไปด้านนอก และเปิดรับอากาศบริสุทธิ์จากภายนอกให้หมุนเวียนเข้ามาภายในห้องแทน ซึ่งนอกจากวิธีนี้จะช่วยระบายกลิ่นอับต่าง ๆ ให้ออกจากห้องไปแล้วยังช่วยระบายความร้อนที่มีการสะสมอยู่ให้ออกไปด้วย ดังนั้น เมื่อเปิดใช้งานแอร์ก็จะช่วยให้แอร์ทำความเย็นได้เร็วขึ้น และไม่ทำงานหนักจนเกินไปนั่นเองครับ5. ปิดประตู หน้าต่าง และช่องระบายอากาศต่าง ๆ ให้สนิทเมื่อเปิดแอร์
หลังจากระบายอากาศที่อับอยู่ในห้อง รวมถึงความร้อนออกไปแล้ว ก่อนเปิดใช้งานแอร์อีกครั้งแนะนำให้ตรวจสอบละเอียดว่าได้ปิดประตู หน้าต่าง หรือช่องระบายอากาศต่าง ๆ ภายในห้องครบทุกจุด และปิดสนิทดีแล้ว เนื่องจากบางครั้งความร้อนจากอากาศภายนอกอาจลอดผ่านเข้ามาภายในห้องผ่านทางหน้าต่างบานเกล็ดที่ปิดไม่สนิท หรือช่องประตูบานเลื่อนต่าง ๆ ได้เช่นกัน และความร้อนที่เข้ามาภายในห้องนี่เองที่จะทำให้แอร์ทำงานหนักขึ้น เพราะต้องรักษาความเย็นในห้องให้ได้ตามอุณหภูมิที่ตั้งไว้ตลอดเวลา ซึ่งจะใช้พลังงานมากกว่าปกติ และมีผลต่อค่าไฟฟ้าที่เพิ่มสูงขึ้นในที่สุดครับ6. ตั้งอุณหภูมิแอร์ให้สูงกว่า 25 องศาเซลเซียส สักเล็กน้อย
เทคนิค เปิดแอร์แบบประหยัด ที่หลาย ๆ คนเข้าใจผิดกันมานานนั่นคือการเปิดแอร์ที่ 25 องศาเซลเซียส แต่แท้จริงแล้วอุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียสถือเป็นระดับอุณหภูมิที่ร่างกายมนุษย์รู้สึกสบายมากที่สุด จนมีการแนะนำกันให้เปิดแอร์ที่อุณหภูมิ 25 องศาเซลเซียส ดังนั้น หากลองปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้นสักหน่อยที่ประมาณ 26 – 28 องศาเซลเซียส แล้วรู้สึกว่ายังสบายตัวอยู่ก็แนะนำให้ใช้งานที่อุณหภูมินั้น ๆ แทนครับ เพราะยิ่งแอร์ถูกตั้งอุณหภูมิสูงเท่าไหร่ก็จะทำให้ แอร์กินไฟ น้อยลงเท่านั้นครับ7. เปิดพัดลมช่วยไปด้วยขณะเปิดแอร์
หนึ่งในเทคนิคง่าย ๆ ที่จะช่วยให้ แอร์กินไฟ น้อยลง คือ การเปิดพัดลมไปด้วยในขณะที่เปิดแอร์นั่นเองครับ เพราะการเปิดพัดลมก่อนการเปิดแอร์จะช่วยไล่ความร้อนภายในห้องให้หมดไปก่อน ทำให้แอร์ไม่ต้องทำงานหนักมาก และหากเปิดพัดลมไปด้วยในขณะเปิดแอร์จะช่วยให้ความเย็นจากแอร์กระจายไปทั่วถึงทุกมุมห้อง และรู้สึกเย็นสบายกว่าการเปิดใช้แอร์เพียงอย่างเดียวครับ8. หลีกเลี่ยงการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อนในขณะเปิดแอร์
เนื่องจากแอร์มีหน้าที่ทำความเย็น และรักษาความเย็นภายในห้องให้คงที่ การนำเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ให้ความร้อนไปใช้งานในห้องแอร์จึงทำให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้น เพื่อคงความเย็นไว้ให้มากที่สุด และส่งผลให้ค่าไฟฟ้าเพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น การรีดผ้าในห้องแอร์ หรือการทำอาหารจากกระทะไฟฟ้า หรือแม้แต่การใช้หม้อต้มน้ำเพื่อชงเครื่องดื่มในห้องแอร์จึงเป็นเรื่องที่ถ้าหลีกเลี่ยงได้ก็ควรทำครับ9. หลีกเลี่ยงการเพิ่มความชื้นในห้องแอร์
นอกจากความร้อนต่าง ๆ ที่ควรหลีกเลี่ยงไม่ให้เข้ามาในห้องแอร์แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ต้องหลีกเลี่ยงเช่นเดียวกัน คือ ความชื้นนั่นเองครับ โดยความชื้นที่ว่านี้อาจจะมาจากต้นไม้ภายในห้อง ภาชนะใส่น้ำต่าง ๆ เครื่องทำความชื้น หรือแม้แต่เสื้อผ้าเปียก ๆ ก็ถือเป็นแหล่งที่มาของความชื้นที่ทำให้แอร์ต้องทำงานหนักขึ้น นั่นเพราะตามหลักการทำงานของแอร์จะต้องใช้พลังงาน 30% ในการทำความเย็นตามอุณหภูมืที่ตั้งไว้ และพลังงานอีก 70% ก็ต้องใช้ไปกับการกำจัดความชื้นต่าง ๆ ให้อากาศในห้องแห้งที่สุดครับ ดังนั้น การที่มีแหล่งความชื้นในห้องมาก ๆ จึงส่งผลทำให้ แอร์กินไฟ ได้มากเช่นกัน ใครที่ตกแต่งห้องด้วยต้นไม้ เลี้ยงปลาในห้อง ปิดประตูห้องน้ำไม่สนิท หรือตากผ้าในห้องเป็นประจำ ก็ควรต้องปรับเปลี่ยนพื้นที่เหล่านี้ใหม่ครับ10. ตั้งเวลาปิดแอร์ล่วงหน้าก่อนเลิกใช้งาน
นอกจากเทคนิค เปิดแอร์ให้ประหยัดไฟ หลากหลายวิธีที่กล่าวมาแล้ว เทคนิคการปิดแอร์ก็เป็นส่วนหนึ่งที่จะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้เช่นกันครับ โดยเทคนิคง่าย ๆ ก็คือการวางแผนใช้งานแอร์ล่วงหน้า หรือการตั้งเวลาเปิด-ปิดแอร์นั่นเอง เช่น ก่อนตื่นนอน หรือก่อนออกจากห้องก็สามารถตั้งเวลาให้แอร์หยุดการทำงานก่อนเวลาสัก 30 นาที หรือ 1 ชั่วโมง ซึ่งเป็นเวลาที่มวลความเย็นยังคงกระจายตัวอยู่ภายในห้อง โดยอาจเปิดพัดลมเบา ๆ ช่วยกระจายความเย็นในระหว่างที่ปิดแอร์ไปแล้วแทนครับ11. เปิดใช้งานแอร์เท่าที่จำเป็น
ไม่ว่าจะใช้เทคนิค เปิดแอร์แบบประหยัด ขนาดไหน หรือดูแลรักษาแอร์ดีแค่ไหน แน่นอนว่าวิธีประหยัดค่าไฟฟ้าให้ได้มากที่สุดก็คือการเลือกเปิดใช้งานแอร์เท่าที่จำเป็น หรือใช้งานแบบพอดี ๆ นั่นเองครับ เพราะหลาย ๆ ครั้ง เหตุผลที่คนเราเปิดแอร์ไม่ได้มาจากความรู้สึกร้อน แต่มาจากความเคยชินที่ต้องเปิดแอร์ตลอดเวลา แม้ว่าอากาศจะไม่ได้ร้อนมากก็ตาม หรือรวมไปถึงการเปิดใช้งานแอร์ภายในบ้านหลาย ๆ ห้องพร้อม ๆ กันด้วยครับ ดังนั้น หากบริหารการใช้งานแอร์ให้ดี ๆ ให้สมาชิกภายในบ้านอยู่รวมกันในห้องเดียวเพื่อเปิดแอร์เครื่องเดียว หรือเลือกเปิดแอร์เฉพาะช่วงเวลากลางวันที่ร้อนจริง ๆ ก็จะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากเลยครับ ทั้งหมดนี้คือเทคนิค เปิดแอร์ให้ประหยัดไฟ แบบง่าย ๆ ที่ HomeGuru ได้รวบรวมมากฝากกัน เพื่อให้ทุกบ้านสามารถใช้งานแอร์ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันก็เป็นการใช้พลังงานอย่างคุ้มค่า และช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นไปด้วยพร้อม ๆ กัน ซึ่งใครสะดวกวิธีไหนก็สามารถนำไปทำตามกันได้เลย รับรองว่าสิ้นเดือนมา สบายใจ ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าไฟพุ่งแน่นอนครับสอบถามบริการล้างแอร์เพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Home Service by HomePro : m.me/Homeservicebyhomepro Line : https://lin.ee/uN8D4Zl หรือ @Homeproservice Call Center : 1284 Mobile app : https://bit.ly/372RTMT โปรโมชั่นเพิ่มเติมจาก Home Service : https://bit.ly/3Bj8Yzs