ย้ายตำแหน่งท่อน้ำทิ้ง เป็นเรื่องน่ากังวลไม่น้อยเลยใช่มั้ยครับ สำหรับบ้านที่เป็นกังวลเรื่องกลิ่นไม่พึงประสงค์ ที่จะไหลย้อนขึ้นมาโดยเฉพาะบริเวณ
ห้องน้ำ และ
ห้องครัว แต่ที่
HomeGuru พบปัญหาอยู่บ่อยครั้ง คงหนีไม่พ้น ระบบท่อน้ำทิ้ง ของห้องน้ำ ซึ่งการเดินระบบท่อน้ำทิ้งของห้องน้ำภายในบ้านระหว่างชั้นบน และชั้นล่าง จะมีความแตกต่างกัน จึงกลายเป็นเรื่องยุ่งยากเมื่อคิดที่จะย้ายตำแหน่งท่อน้ำทิ้ง แต่แท้จริงแล้วหากรู้วิธี และเลือกใช้ประเภทของท่อน้ำทิ้งที่เหมาะสมกับแต่ละห้องภายในบ้าน การย้ายตำแหน่งท่อน้ำทิ้งจะเป็นเรื่องง่ายที่ทุกบ้านสามารถทำได้ด้วยตนเองนะครับ
รู้จักประเภทของ “ท่อน้ำทิ้ง” ก่อน ย้ายตำแหน่งท่อน้ำทิ้ง
“ท่อน้ำทิ้ง” เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ช่วยให้การระบายน้ำ โดยเฉพาะของเสียภายในบ้านไหลเวียนสู่ภายนอกได้ดี เพื่อให้ภายในบ้านไม่มีกลิ่นพึงประสงค์ หรือแมลงต่าง ๆ เข้ามารบกวนการอยู่อาศัย ระบบท่อน้ำทิ้ง หรือกล่าวสั้น ๆ ว่า ท่อน้ำทิ้ง เป็นหนึ่งในองค์ประกอบของระบบท่อระบายน้ำนั่นเองครับ โดยทั่วไปแล้วนั้นท่อน้ำทิ้งถูกแบ่งออกเป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
Bottle Trap เป็นท่อน้ำทิ้งที่มีลักษณะเป็นท่อซ้อนท่อ มักนิยมติดตั้งกับ
อ่างล้างหน้า และ
โถปัสสาวะชาย หรือในพื้นที่ขนาดเล็กครับ ข้อดีของท่อน้ำทิ้งแบบ Bottle Trap คือ สามารถป้องกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ และแมลงต่าง ๆ ที่จะย้อนขึ้นมารบกวนได้โดยไม่เป็นกังวล เพราะการติดตั้งท่อชนิดนี้ รูน้ำทิ้งจะอยู่ต่ำกว่าระดับน้ำขังของท่ออีกฝั่งหนึ่ง และที่สำคัญยังสามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้ เมื่อมีสิ่งสกปรก ตะกอน หรือเศษผงชิ้นเล็ก ๆ ตกลงไปในถ้วยที่อยู่บริเวณปลาย
ท่อ เพื่อป้องกันปัญหาท่อน้ำอุดตัน น้ำระบายช้า แต่ข้อเสียของท่อ Bottle Trap คือ ไม่สามารถปรับระยะ และปรับระดับของท่อได้ และต้องติดตั้งให้ตรงกับรูเจาะผนัง ซึ่งต้องดูระยะในการติดตั้งให้ดีเสียก่อนเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาตามมาภายหลัง
P Trap หรือ U Trap เป็น
ท่อน้ำทิ้งที่มีลักษณะเป็นทรงโค้งงอคล้ายตัว P นิยมติดตั้งที่
อ่างล้างจาน อ่างอาบน้ำ อ่างล้างหน้า เพราะด้วยข้อดี ที่สามารถระบายน้ำได้เร็วกว่า และกันกลิ่นไม่พึงประสงค์ได้ดีแถมการติดตั้งยังสามารถปรับระดับ และปรับระยะได้ตามความเหมาะสมกับท่อที่เตรียมไว้ที่ผนังอีกด้วยครับ แต่ข้อเสียคือ พื้นที่ในการติดตั้งต้องมีขนาดกว้าง เพราะ ขนาดท่อน้ำทิ้ง มีขนาดที่ใหญ่กว่าท่อน้ำแบบ Bottle Trap และไม่สามารถถอดออกมาล้างทำความสะอาดได้ เมื่อมีเศษอาหาร ตกหล่นลงไป ดังนั้นจึงจำเป็นต้องกำจัดเศษอาหารก่อนการใช้อ่างล้างจานเพื่อป้องกันปัญหาท่อน้ำทิ้งอุดตันครับ
นอกจากท่อน้ำทิ้งแล้ว ส่วนประกอบหลักๆของ ระบบท่อระบายน้ำ ยังมีท่อชนิดอื่น ๆ เป็นส่วนประกอบได้แก่
ท่อดักน้ำเสีย ทำหน้าที่ดักน้ำเสีย และบำบัดน้ำเสียก่อนที่จะระบายลงสู่แหล่งน้ำ ซึ่งเป็นท่อที่เชื่อมระหว่าง
ท่อระบายน้ำฝน กับท่อน้ำเสียในระบบ
ท่อแรงดัน ทำหน้าที่ส่งน้ำเสียจากที่ต่ำไปยังที่สูง โดยท่อแรงดันต้องสามารถรับแรงดันที่เกิดจากการสูบน้ำของ
เครื่องสูบน้ำได้
ท่อแรงโน้มถ่วง เป็นท่อน้ำที่รับน้ำเสีย โดย ขนาดของท่อ นั้นจะขึ้นอยู่กับปริมาตรน้ำเสียที่ต้องรับ
รู้ขนาดของ “ท่อน้ำทิ้ง” ก่อน ย้ายตำแหน่งท่อน้ำทิ้ง
ขนาดของท่อ ที่แตกต่างกันส่งผลให้ความแข็งแรง และความทนทานในการรับแรงดันของน้ำแตกต่างกัน ความหนาของท่อโดยทั่วไปจะหนาประมาณ 5.5 – 8.5 นิ้ว ซึ่งแต่ละบ้านสามารถเลือกใช้ท่อที่มีความบาง และความหนาได้ตามประเภทการใช้งานนะครับ เช่น ท่อน้ำทิ้งบริเวณ
ชักโครก อ่างล้างหน้า และอ่างล้างจาน ขนาดของท่อ ควรมีความหนาที่ 8.5 นิ้วขึ้นไป แต่หากเป็นท่อที่ใช้ดักกลิ่นใน
ท่อน้ำ ควรเลือกท่อที่มีความหนาที่สามารถรับแรงดันของปั๊มน้ำได้ ความหนาของท่อส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 13.5 นิ้วขึ้นไปครับ
3 จุดของบ้านที่มีโอกาสย้ายตำแหน่งท่อน้ำทิ้ง
ท่อน้ำทิ้งในห้องน้ำ
พื้นที่ภายใต้อ่างอาบน้ำ หากมีการต่อเติม หรือซ่อมแซมอ่างอาบน้ำภายในบ้าน และจำเป็นต้อง ย้ายตำแหน่งท่อน้ำทิ้ง แนะนำให้ย้าย ระบบท่อน้ำทิ้ง (Floor Drain) ไว้ที่บริเวณมุมอ่างอาบน้ำ มากกว่าบริเวณตรงกลาง เพื่อให้อ่างอาบน้ำสวยงาม ง่ายต่อการปู
กระเบื้อง และสะดวกต่อการระบายน้ำ เพราะพื้นกระเบื้องจะลาดเอียงไปในทิศทางเดียว
ท่อน้ำทิ้งอ่างล้างหน้า มีให้เลือกใช้หลากหลายวัสดุทั้ง ท่อน้ำทิ้งอ่างล้างหน้า PVC หรือแบบสแตนเลส แต่ไม่ว่าจะผลิตด้วยวัสดุประเภทใด เมื่อใช้งานอ่างล้างหน้าไปสักระยะ แล้วรู้สึกว่าน้ำไหลไม่สะดวก แนะนำให้ทำความสะอาด ท่อน้ำทิ้งอ่างล้างหน้า ด้วยขั้นตอนง่าย ๆ ก่อนที่จะคิด ย้ายตำแหน่งท่อน้ำทิ้ง ครับ เพียงหมุนท่อน้ำทิ้งตามเข็มนาฬิกา เพื่อถอดออกมาทำความสะอาด โดยการเทน้ำที่ขังอยู่ในถ้วยออก แล้วล้างทำความสะอาด เมื่อสะอาดแล้วให้หมุนถ้วยทวนเข็มนาฬิกาปิดให้แน่น ที่สำคัญ ระหว่างถอดมาล้างอย่าลืมสังเกตตัว
ซีลยางว่าขาดหรือไม่ เพราะเมื่อใช้งานท่อน้ำทิ้งไปสักระยะซีลยางอาจเปื่อย จำเป็นต้องบำรุงรักษา
ท่อน้ำทิ้งในห้องครัว
ท่อน้ำทิ้งอ่างล้างจาน จะเป็น
ท่อน้ำทิ้งประเภท P-Trap ซึ่งควรเลือกท่อ P-Trap ที่มีช่องระบายเพื่อให้สะดวกในการทำความสะอาด ขนาดของท่อน้ำทิ้ง ควรมีเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 นิ้ว ในส่วนของการติดตั้ง หรือ ย้ายตำแหน่งท่อน้ำทิ้ง ก็ไม่ใช่เรื่องที่ต้องเป็นกังวล แต่ต้องดูโครงสร้าง และระบบทางเดินของน้ำภายในบ้านให้ดี และอย่าลืมติดตั้งถังดักไขมัน เพื่อช่วยลดปัญหาการอุดตันของท่อระบายน้ำ และไขมันปนเปื้อนด้วยนะครับ
ท่อน้ำทิ้งแอร์
สาเหตุหนึ่งของปัญหา แอร์น้ำหยด ที่หลายๆบ้านพบเจอคือ การติดตั้ง หรือ ย้ายตำแหน่งท่อน้ำทิ้ง ของ
แอร์ที่ไม่ระมัดระวัง ทำให้น้ำที่ระบายออกมาจากแอร์ไม่สามารถระบายได้อย่างเต็มที่ ทำให้มีน้ำทิ้งค้างอยู่ที่แอร์จนล้นออกมา จนสร้างความเสียหายให้กับตัวเครื่อง และ
เฟอร์นิเจอร์ภายในบ้าน โดยหลักการในการติดตั้ง ท่อน้ำทิ้งแอร์ คือ ระบบท่อน้ำทิ้ง ส่วนใหญ่จะเป็นท่อพีวีซี โดยจะต่อออกจากตัวเครื่องทำความเย็นด้านใน จึงแนะนำให้หุ้มฉนวน ท่อน้ำทิ้งแอร์ โดยเฉพาะถ้าจำเป็นต้องเดินท่อบนฝ้าเพดาน ควรหุ้มฉนวนตลอดทั้งแนว เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายของฝ้าเพดานในกรณีที่เกิดน้ำรั่วซึมครับ
แต่หากบ้านไหนที่ต่อ ท่อน้ำทิ้งแอร์ ลงท่อระบายน้ำ ควรเดินท่อให้โค้งคล้ายตัว n หรือทำ TRAP เพื่อขังน้ำไว้เล็กน้อย ป้องกันกลิ่นเหม็นย้อนขึ้นท่อ และแมลงรบกวน และอย่าลืมทดสอบท่อน้ำทิ้งทุกครั้งหลังการติดตั้งเสร็จ ว่ามีจุดไหนรั่วหรือไม่ ด้วยการราดน้ำลงในถาดน้ำทิ้งของชุดคอยล์เย็น เพื่อดูทางไหลของน้ำครับ
แม้ว่าการ
ย้ายตำแหน่งท่อน้ำทิ้ง ภายในบ้านฟังดูแล้วจะเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก เพราะเกี่ยวข้องกับ
ระบบน้ำ และ ระบบท่อน้ำทิ้ง แต่ถ้าทุกบ้านมีความรู้เบื้องต้นตามที่
HomeGuru กล่าวไว้ ก็จะช่วยให้การติดตั้ง หรือ ย้ายตำแหน่งท่อน้ำทิ้งเป็นเรื่องใกล้ตัวที่ง่ายขึ้นนะครับ ทั้งนี้ สิ่งสำคัญที่ควรคำนึงถึงไม่แพ้กันคือ ความแข็งแรง คงทนของวัสดุ เพื่อป้องกันการเกิดสนิม และแตกหักระหว่างการใช้งาน รวมถึงการเลือก ขนาดของ
ท่อ ให้เหมาะสมกับการใช้งาน หรือหากไม่มั่นใจในการติดตั้ง แนะนำให้หาผู้ช่วยที่เชี่ยวชาญมาคอยให้คำแนะนำ พร้อมติดตั้ง และย้ายตำแหน่งท่อน้ำทิ้ง เพื่อความมั่นใจ และป้องกันความเสียหายที่จะตามมาครับ
