ในบรรดา
เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านที่ได้รับความนิยมสูง เครื่องทำน้ำอุ่น ถือว่าเป็นหนึ่งในเครื่องใช้ไฟฟ้าที่แทบจะมีติดอยู่ทุกบ้านเลยทีเดียว ยิ่งเมื่อมีการเปลี่ยนขนาดเครื่องทำน้ำอุ่นด้วยแล้ว ปัญหาโลกแตกอย่าง
เบรกเกอร์ตัด ก็มีโอกาสเกิดขึ้นได้ง่ายมาก ๆ ซึ่งในวันนี้
HomeGuru จะพาคุณไปไขข้อข้องใจ ว่าจริง ๆ แล้วปัญหาการตัดไฟของ เบรกเกอร์ไฟฟ้า จากการเปลี่ยนขนาดเครื่องทำน้ำอุ่นนั้นมีสาเหตุมาจากอะไร แล้วท้ายที่สุดจำเป็นต้อง เปลี่ยนเบรกเกอร์ หรือไม่ การันตีได้เลยว่าปัญหาไฟตัดจะหมดไปจากบ้านคุณแน่นอน
หากบ้านคุณใช้เครื่องทำน้ำอุ่น แล้วอยากจะเปลี่ยนขนาดเครื่องทำน้ำอุ่น แต่ก็กลัวว่าไฟจะตัด จนไม่รู้ว่าจะทำยังไงดี มาลองดูทริคเด็ด ๆ จาก HomeGuru กันดีกว่า
1. ก่อนติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น ควรรู้ว่าแบบไหนดีใช้แล้วปลอดภัย 2. ไม่อยากให้ เบรกเกอร์ตัด อย่าลืมดูกำลังวัตต์ของเครื่องทำน้ำอุ่น 3. ขนาดที่เหมาะต่อการใช้งาน ไม่ต้องกังวลเรื่อง เบรกเกอร์ตัด 4. ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น ต้องเลือกเบรกเกอร์และสายไฟให้เหมาะ 5. ปัญหาเบรกเกอร์จะหมดไป ถ้าเลือกเครื่องทำน้ำอุ่นให้เป็น 
ก่อนติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น ควรรู้ว่าแบบไหนดีใช้แล้วปลอดภัย
การ
ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งครั้งแรก หรือเปลี่ยนขนาดของเครื่องทำน้ำอุ่น สิ่งที่ควรรู้เป็นอย่างแรกก็คือ ประเภทของเครื่องทำน้ำอุ่นมีกี่แบบกันแน่ เพื่อที่จะได้ป้องกัน เบรกเกอร์ไฟฟ้า มีปัญหาหรือไฟตัดภายในบ้านได้ ที่สำคัญคือ ช่วยให้ได้เครื่องทำน้ำอุ่นที่เหมาะกับการใช้งานภายในบ้าน ทั้งกับตัวน้ำที่ใช้ ไปจนถึงอายุการใช้งานตามความเหมาะสม
1. แบบขดลวดทองแดง
เครื่องทำน้ำอุ่นประเภทขดลวดทองแดงนี้ ค่อนข้างมีจุดเด่นตรงที่ ให้ความร้อนได้เร็วมาก ไร้กังวลเรื่องการรั่วซึมของหม้อต้ม แต่ข้อจำกัดที่เห็นได้ชัดเลยก็คือ ไม่สามารถถอดมาทำความสะอาดได้ แถมใช้กำลังไฟฟ้ามากกว่าชนิดอื่น ๆ พอสมควร เพราะฉะนั้น หากต้องการความรวดเร็วทันใจ ไม่มีปัญหาเรื่องค่าไฟ ประเภทขดลวดทองแดงจะตอบโจทย์ได้ดีที่สุด
2. แบบหม้อต้มทองแดง
นับเป็นหนึ่งใน
เครื่องทำน้ำอุ่น ที่ให้ความร้อนเร็วและคงที่มากที่สุด แถมมีอายุการใช้งานที่ค่อนข้างนาน แต่มีข้อเสียตรงที่ไม่สามารถถอดออก เพื่อเอามาทำความสะอาดได้ ยิ่งถ้าใช้กับน้ำที่ไม่มีคุณภาพ ก็จะทำให้เครื่องเสียและหม้อต้มรั่วซึมได้ง่าย เป็นอันตรายถึงชีวิตเลยทีเดียว
3. แบบหม้อต้มพลาสติก
สำหรับเครื่องทำน้ำอุ่นประเภทที่ใช้หม้อต้มพลาสติก นับว่าเป็นเครื่องทำน้ำอุ่นที่นิยมสูง เมื่อติดตั้งแล้วแทบจะไม่ต้องกังวลเรื่องไฟตัดหรือต้อง เปลี่ยน
เบรกเกอร์ ในอนาคตเลยทีเดียว เพราะใช้กำลังไฟต่ำ แถมมีราคาค่อนข้างถูก แต่มีข้อเสียตรงที่ให้ความร้อนได้ช้าและมีอายุการใช้งานที่สั้น ดังนั้น จึงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมหม้อต้มพลาสติก ถึงมีราคาค่อนข้างถูก หากเทียบกับหม้อต้มชนิดอื่น ๆ ที่วางจำหน่ายตามท้องตลาด
ไม่อยากให้ เบรกเกอร์ตัด อย่าลืมดูกำลังวัตต์ของเครื่องทำน้ำอุ่น
จริงอยู่ที่ว่า การเลือกเครื่องทำน้ำร้อนมาใช้งานนั้น ส่วนมากแล้วผู้ใช้จะเลือกซื้อจากยี่ห้อและราคาเป็นหลัก แต่จริง ๆ แล้ว หากไม่อยาก เปลี่ยนเบรกเกอร์ ก่อนติดตั้งเครื่องทำน้ำร้อน ควรศึกษาให้ละเอียดก่อนว่าตัวเครื่องมีกำลังวัตต์เท่าไหร่ เหมาะสมกับตัวมิเตอร์ไฟฟ้าที่ใช้อยู่หรือไม่ ซึ่งเครื่องทำน้ำอุ่นในปัจจุบัน จะมีอยู่ 3 ขนาดหลัก ๆ นั่นก็คือ 3,500 วัตต์, 4,500 วัตต์ และ 6,000 วัตต์ โดยทั้งสามแบบก็จะมีวิธีการติดตั้งเบรกเกอร์และ
สายไฟที่แตกต่างกันออกไปเช่นกัน นอกจากนี้ ถ้าอยากตัดปัญหาไฟตกหรือไฟตัดภายในบ้าน ลองคำนวณกระแสไฟฟ้าจาก
เครื่องใช้ไฟฟ้าทั้งหมดภายในบ้านแบบคร่าว ๆ ดูก่อนก็ได้ หากผลลัพธ์เกินขนาดของมิเตอร์ ก็ไม่ต้องสงสัยเลยว่าทำไมจึงเกิดปัญหาไฟตก เช่น กระแสไฟฟ้ารวมทั้งหมดเฉลี่ยอยู่ที่ 16 A แล้วใช้มิเตอร์ขนาด 5(15)A จะเห็นเลยว่ามิเตอร์ค่ากระแสไฟฟ้าที่รองรับน้อยกว่า เพราะฉะนั้น ถ้าใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกอย่างรวมกัน ก็จะทำให้ไฟตกได้นั่นเอง
ขนาดที่เหมาะต่อการใช้งาน ไม่ต้องกังวลเรื่อง เบรกเกอร์ตัด
ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นครั้งแรก หรือเปลี่ยนขนาดเครื่องทำน้ำอุ่น สิ่งที่ไม่ควรมองข้ามก็คือ การเลือกเครื่องทำน้ำอุ่นที่เหมาะสมและเพียงพอต่อการใช้งาน ทั้งต่อสมาชิกครอบครัวไปจนถึงสภาพภูมิอากาศ อย่างเช่น หากติดตั้งในประเทศไทยที่ไม่ได้มีอากาศหนาวเย็นทั้งปีเหมือนบางประเทศ การติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นที่มีกำลัง 3,500 วัตต์ หรือ 4,500 วัตต์ ก็ถือว่าเพียงพอต่อการใช้งานแล้ว แต่ถ้ามีกำลังมากถึง 6,000 วัตต์ จะเหมาะสมกับบ้านที่อยู่ในสภาพอากาศหนาวไปจนถึงหนาวมาก แต่อย่าลืมว่า ยิ่งมีกำลังวัตต์มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งใช้กำลังไฟฟ้ามากขึ้นเท่านั้น รวมไปถึงการเลือกใช้เบรกเกอร์และมิเตอร์ไฟฟ้า ที่สามารถรองรับการใช้กระแสไฟด้วยเช่นกัน
ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น ต้องเลือกเบรกเกอร์และสายไฟให้เหมาะ
การติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นในปัจจุบัน ถึงแม้จะไม่ใช่เรื่องยาก เพราะสามารถ
ติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้น มาดูกันว่าทริคที่ช่วยให้ติดตั้งได้อย่างปลอดภัยนั้นทำยังไงได้บ้าง
1. เครื่องทำน้ำอุ่นมีขนาดและมีแรงดันไฟฟ้าเท่าไหร่
ทุกครั้งที่จะติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น ก่อนอื่นต้องมาดูว่าเครื่องทำน้ำอุ่นที่ใช้มีขนาดกี่วัตต์และแรงดันไฟฟ้ากี่โวลต์ เพราะจะได้นำไปคำนวณดูกระแสไฟฟ้าว่ามีกี่แอมป์ ควรใช้ เบรกเกอร์ไฟฟ้า แบบไหน และสายไฟฟ้าต้องมีขนาดเท่าไหร่ โดยการคำนวณนั้น ให้นำกำลังไฟฟ้า(วัตต์) มาหารด้วยแรงดันไฟฟ้า(โวลต์) เช่น เครื่องทำน้ำอุ่นที่มีขนาด 4,500 วัตต์ แรงดัน 230 โวลต์ ก็จะได้ค่ากระแสไฟฟ้าอยู่ที่ 19.56 แอมป์
2. เลือกขนาดเบรกเกอร์แบบกันดูด
หลังจากที่ได้ค่ากระแสไฟฟ้าแล้ว ก็มาถึงขั้นตอนการเช็กว่าเบรกเกอร์ควรใช้ขนาดเท่าไหร่ แนะนำว่าให้เลือกใช้เบรกเกอร์แบบกันดูดที่มีคุณสมบัติป้องกันไฟดูดและไฟรั่วจะดีที่สุด สำหรับขนาดของเบรกเกอร์ควรจะมีค่ามากกว่าค่ากระแสไฟฟ้า อย่างในขั้นตอนแรกเราได้ค่ากระแสไฟฟ้าอยู่ที่ 19.56 แอมป์ นั่นหมายความว่า เบรกเกอร์ที่ใช้ควรอยู่ที่ 20 แอมป์ ขึ้นไป
3. เลือกขนาดของสายไฟ
เมื่อได้เบรกเกอร์ที่เหมาะสมกับเครื่องทำน้ำอุ่นแล้ว ทีนี้ก็มาถึงขั้นตอนการเลือกขนาดของสายไฟที่เหมาะสม โดยให้เลือกสายไฟฟ้าที่มีค่าการทนต่อกระแสไฟฟ้าที่มากกว่าเบรกเกอร์เสมอ เพราะไม่อย่างนั้นอาจเจอปัญหาสายไฟไหม้ได้ ซึ่งจากตัวอย่างเราได้เบรกเกอร์ที่มีค่าอยู่ที่ 20 แอมป์ ดังนั้นสายไฟก็อาจจะเลือกขนาด 4 Sq.mm ที่มีค่ากระแสไฟฟ้าอยู่ที่ 28 แอมป์
4. สายดิน
ลำดับสุดท้ายของการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นให้ปลอดภัยคือ การเลือกสายดิน เพราะอย่าลืมว่าหากจะใช้เครื่องทำน้ำอุ่นก็จะต้องติดตั้งสายดินทุกครั้ง โดยทริคการเลือกสายดินก็คือ ให้เลือกขนาดที่เล็กกว่าสายไฟ ซึ่งจากตัวอย่างเราได้ขนาด 4 Sq.mm กระแสไฟฟ้าอยู่ที่ 28 แอมป์ ดังนั้น สายดินที่เหมาะสมก็คือขนาด 2.5 Sq.mm 21 แอมป์ เพราะฉะนั้น การเปลี่ยนขนาดของเครื่องทำน้ำอุ่น อาจจะไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน เบรกเกอร์ไฟฟ้า และสายไฟเสมอไป หากค่ากระแสไฟฟ้าของเครื่องทำน้ำอุ่นไม่ได้มากกว่าเบรกเกอร์และสายไฟ
ปัญหาเบรกเกอร์จะหมดไป ถ้าเลือกเครื่องทำน้ำอุ่นให้เป็น
หลังจากที่ได้ทริคการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่น และได้คำตอบไปแล้วว่าต้อง เปลี่ยนเบรกเกอร์ และสายไฟทุกครั้งที่เปลี่ยนขนาดหรือไม่ HomeGuru จะพาคุณมาดูทริคง่ายๆ ของการเลือกเครื่องทำน้ำอุ่นให้ปลอดภัย เซฟได้ทั้งชีวิตและค่าใช้จ่ายกัน •
ต้องมีคุณภาพและได้มาตรฐาน ที่สำคัญต้องถูกต้องตามกฎหมายด้วยเช่นกัน อย่างน้อยต้องได้รับมาตรฐาน มอก. อย่ายึดแค่ว่ามีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ก็เพียงพอ •
เลือกชนิดที่มีเบรกเกอร์ในตัว เพราะหากมีไฟรั่วแม้แต่นิดเดียว เบรกเกอร์ที่อยู่ในเครื่องทำน้ำอุ่นก็จะทำการตัดไฟทันทีนั่นเอง •
กำลังไฟฟ้าต้องเหมาะสมกับมิเตอร์ที่มี อย่างเช่น หากเป็นมิเตอร์ทั่วไปขนาด 5(15)A ก็ควรใช้กำลังวัตต์อยู่ที่ 3,500 วัตต์ แต่ถ้าจะเปลี่ยนเป็นขนาด 4,500 วัตต์ ก็ควรใช้มิเตอร์ที่มีขนาด 15(45)A ถึงจะปลอดภัยที่สุด •
ใช้หม้อต้มที่ประหยัดไฟ ซึ่งก่อนที่จะเลือกเครื่องทำน้ำอุ่นก็ให้ดูว่าหม้อต้มแบบไหนที่เหมาะกับบ้านของคุณ อย่างเช่น หากไม่มั่นใจว่าระบบน้ำประปาที่บ้านสะอาดหรือไม่ ก็ไม่ควรใช้หม้อต้มทองแดง เป็นต้น •
เลือกแบรนด์และบริการหลังการขาย เพราะนอกจากจะช่วยการันตีเรื่องคุณภาพได้แล้ว ยังช่วยให้มั่นใจได้ว่าหากเกิดปัญหาก็จะได้รับการแก้ไขจากศูนย์บริการทันที
เป็นอย่างไรบ้าง กับการไขข้อข้องใจว่าถ้าจะเปลี่ยนขนาดของเครื่องทำน้ำอุ่นจะต้อง เปลี่ยนเบรกเกอร์ หรือไม่ ที่ทาง
HomeGuru นำมาฝาก บอกเลยว่าต่อให้ใช้เครื่องทำน้ำอุ่นแบบไหนก็หมดปัญหา เบรกเกอร์ตัด ไปได้เลย ส่วนใครที่อยากได้เครื่องใช้ไฟฟ้าดี ๆ หรือ เบรกเกอร์ไฟฟ้า ที่มีคุณภาพ ก็สามารถเข้าไปเลือกซื้อได้ที่
HomePro รับรองเลยว่าถูกใจแถมปลอดภัยแน่นอน หากคุณกำลังมองหาทีมงานการติดตั้งเครื่องทำน้ำอุ่นแบบครบวงจรวางใจให้ #HomeService ดูแล สนใจติดต่อสอบถามเกี่ยวกับบริการเพิ่มเติมได้ที่
Facebook : Home Service by HomePro : m.me/Homeservicebyhomepro Line : https://lin.ee/uN8D4Zl หรือ @Homeproservice
Call Center : 1284 Mobile app : https://bit.ly/372RTMT
