หญ้าเทียม อุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสวน ที่ช่วยจบทุกปัญหาจุกจิกกวนใจของคนรักบ้าน
ที่อยากให้บ้านมีบรรยากาศธรรมชาติๆ แต่มีข้อจำกัดสารพัดสิ่ง

ทั้งพื้นที่มีแสงแดดส่องไม่ทั่วถึงทำให้หญ้าตายเป็นหย่อม และปัญหาเจ้าของบ้านไม่อยู่บ้าน หรือเร่งรีบออกจากบ้าน ทำให้ไม่มีเวลาดูแลรดน้ำหญ้า
อีกทั้งยังต้องใช้งบประมาณค่อนข้างสูงในการดูแลรักษาหญ้าจริงให้ดูสวยงามตลอดเวลา หญ้าเทียมปูพื้นจึงเป็นตัวช่วยจบทุกปัญหาที่กล่าวมานี้
แถมยังคงความสวยเหมือนหญ้าจริงๆ ตอบโจทย์การตกแต่งบ้านและสวนของหลายๆ คนได้อย่างตรงจุด

• วัสดุโพลีเอทิลีน (PE) ผลิตด้วยแรงดันสูง ทำให้มีความเหนียวและมีความสามารถในการยืดหยุ่นดี ทนต่อการกรอบแตก เหมาะกับการใช้งานในพื้นที่ภายนอกบ้านที่ต้องเจอทั้ง สภาวะแดดและฝนอย่างยาวนาน
• วัสดุโพลีโพรไพลีน (PP) จะมีความแข็งแรงทนทานน้อยกว่า ทนความร้อนไม่ได้มาก แต่ขณะเดียวกันก็ทนสารเคมีได้ดี และเป็นหญ้าเทียมราคาถูกกว่าแบบ PE จึงนิยมนำมาใช้ ในพื้นที่ร่มมากกว่า

1. การใช้งาน
   • หญ้าเทียมเพื่อใช้งานภายในอาคาร - ควรเลือกปูหญ้าเทียมที่มีผิวสัมผัสอ่อนนุ่ม เส้นหญ้าเล็กยาวและมีความหนาแน่น
   • หญ้าเทียมเพื่อใช้งานภายนอกอาคารโดยเน้นเพื่อเล่นกีฬา
     • (1.) ประเภทฟุตบอล หรือฟุตซอล - ควรเลือกใช้หญ้าเทียมที่ทอแน่น ไม่หลุดลุ่ย และมีความยืดหยุ่น คืนรูปเร็ว ไม่บิดงอหรือฉีกขาดง่าย พื้นด้านหลังควรมีรูระบายน้ำได้ดี และ ควรเลือกใช้หญ้าเทียมที่มีการเคลือบสาร UV Resistance เพื่อป้องกันการเสียหายจากแสงแดด
     • (2.) กีฬาประเภทกอล์ฟ - ควรเลือกใช้หญ้าเทียมที่เส้นหญ้าค่อนข้างสั้นเพื่อไม่ให้ขัดขวางการเคลื่อนที่ของลูกกอล์ฟ และพื้นด้านหลังหญ้าเทียมควรมีรูระบายน้ำได้ดี ที่สำคัญ ตัวหญ้าเทียมควรมีการเคลือบสาร UV Resistance เพื่อป้องกันการเสียหายจากแสงแดด
   • เพื่อใช้สำหรับประดับตกแต่ง - ควรเลือกใช้หญ้าเทียมที่มีเส้นหญ้าแบบสั้นเตียน ไม่อมฝุ่น เพื่อให้สามารถทำความสะอาดหญ้าเทียมได้ง่าย
2. ขนาดพื้นที่ที่ต้องการติดตั้งหญ้าเทียม ต้องทราบขนาดพื้นที่ที่ต้องการติดตั้งหญ้าเทียมว่ามีกี่ตารางเมตร เพื่อให้สามารถเลือกซื้อหญ้าเทียมเหมาะสม หรือพอดีกับพื้นที่ที่ต้อง การติดตั้งหญ้าเทียม

1. มีส่วนผสมของสาร UV Resistance ช่วยให้ทนทานต่อแสงแดดได้ยาวนาน
2. ผลิตจากวัสดุ PE และ PP (เส้นด้ายตรงเป็นวัสดุ PE, เส้นด้ายขดเป็นวัสดุ PP)
3. วัสดุรองพื้นมีความแข็งแรง ทนทาน ไม่ฉีกขาดง่าย
4. มีรูระบายน้ำ ช่วยให้น้ำไม่ขังอยู่ภายในหญ้า (ด้านหลังวัสดุ PP และเคลือบยาง)

1. คลี่หญ้าเทียมออก แล้วแปรงด้วย คราดหรือไม้กวาดทางมะพร้าวเพื่อ
ให้ฟูขึ้น

2. ตัดแต่งหญ้าเทียมด้วยคัตเตอร์ โดยพลิกกรีดจากด้านหลังให้เท่า
ขนาดพื้นที่ที่ต้องการปู

3. กรณีต่อหญ้าเทียมให้พลิกขอบขึ้น นำแผ่นต่อวางระหว่างหญ้าเทียมให้
ขอบติดชิดพอดีกัน

4. นำกาวที่ผสมไว้ ทาบนแผ่นต่อ หญ้าเทียมจากนั้นใช้แปรงปาดกาวให้ทั่ว

5. วางหญ้าเทียมทั้ง 2 แผ่นลงบน แผ่นต่อหญ้าที่ทากาว

6. กดทับให้หญ้าเทียมติดกับกาว
ด้านล่างให้แน่น

7. ยึดขอบหญ้าเทียมกับพื้นคอนกรีต ด้วยกาว

8. กดทับให้แน่น รอให้กาวแห้ง ประมาณ 30-40 นาที

9. แปรงด้วยคราดหรือไม้กวาดทาง มะพร้าวเพื่อให้ฟูขึ้น

1. กำจัดวัชพืช ปรับพื้นดินให้เรียบ
ไม่ให้มีน้ำขัง โรยด้วยหินคลุก ทับด้วยทราย

2. พรมน้ำและบดอัดพื้นให้แน่น
พื้นผิวต้องสะอาดและแห้งสนิทก่อน การติดตั้ง

3. คลี่หญ้าเทียมออก แล้วแปรงด้วย คราดหรือไม้กวาดทางมะพร้าวเพื่อ
ให้ฟูขึ้น

4. ตัดแต่งหญ้าเทียมด้วยคัตเตอร์
โดยพลิกกรีดจากด้านหลังให้เท่าขนาด พื้นที่ที่ต้องการปู

5. วางหญ้าเทียม ทั้ง 2 แผ่น
ลงบน แผ่นต่อหญ้าที่ทากาว

6. กดทับให้หญ้าเทียมติดกับกาว
ด้านล่างให้แน่น

7. วางหญ้าเทียมลงบนแผ่นต่อหญ้า
ที่ทากาวให้ชิดพอดีกัน

8. กดทับให้แน่น

9. ยึดขอบหญ้าเทียมด้วยตะปูหัวแบน ตอกยึดกับพื้นดินให้สุด

10. แปรงด้วยคราดหรือไม้กวาดทาง มะพร้าวเพื่อให้ฟูขึ้น

• กรณีพื้นที่ภายใน/พื้นที่ในร่ม
  เมื่อมีเศษขยะ สามารถใช้ไม้กวาด กวาดทำความสะอาดได้ตามปกติ หรือใช้เครื่องดูดฝุ่นในการดูดสิ่งสกปรกออกได้
• กรณีพื้นที่ภายนอก
  ใช้ไม้กวาด หรือเครื่องดูดฝุ่นในการทำความสะอาด ถ้าในกรณีหญ้าเทียมเปื้อนเศษดิน คราบมันต่างๆ หรือมูลของสัตว์เลี้ยง สามารถใช้สายยางฉีดน้ำในการทำความสะอาด แล้วใช้แปรงพลาสติกในการขัดเบาๆ

• หลีกเลี่ยงการจัดวางสินค้าใกล้ความร้อน หรือเปลวไฟ
• ห้ามใช้น้ำยาที่มีความกัดกร่อน หรือสารเคมีเข้มข้น สัมผัสหรือเช็ดทำความสะอาดสินค้า
• ห้ามใช้แปรงที่มีขนหยาบ วัสดุที่มีผิวหยาบทำความสะอาด รวมทั้งห้ามใช้ของมีคมต่างๆ ขูดขีด
• ควรห่อหุ้มขาโต๊ะเก้าอี้ที่เป็นโลหะ เพื่อป้องกันไม่ให้สัมผัสโดนหญ้าโดยตรง กรณีขาโต๊ะเก้าอี้ปลายแหลมอาจขีดข่วนโดนหญ้าอาจเกิดความเสียหายได้

หญ้าเทียม Spring และ Me Living ผ่านการรับรองมาตรฐานสากล

• มาตรฐานการต้านไฟ
• ภาพผลงานการติดตั้ง