ไมโครโฟนไร้สาย คงเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับช่วงเทศกาลงานรื่นเริงต่างๆ โดยเฉพาะปาร์ตี้ปีใหม่ที่จะมาถึงเร็วๆ นี้ ไม่ว่าบ้านไหนก็คงต้องมี ไมค์ร้องคาราโอเกะ นี้ติดบ้านไว้เพื่อสร้างสีสันให้กับทุกคนในงาน ไว้ผลัดกันร้องโชว์พลังเสียงกันให้เต็มที่ แล้ววันนี้
HomeGuru จะพาทุกคนมารู้จักกับ ไมโครโฟนไร้สาย กันว่าคืออะไร? และมีข้อดีข้อเสียอะไรบ้าง? เพื่อเป็นการประกอบการตัดสินใจในการซื้อว่าเป็นของที่ควรต้องมีติดบ้านหรือไม่ครับ
● ทำความรู้จัก ไมโครโฟนไร้สาย
1. ไมโครโฟนมีกี่ชนิด 2. ประเภทของไมโครโฟน 3. ไมโครโฟนไร้สาย คืออะไร 4. การทำงานของ ไมโครโฟนไร้สาย 5. มีข้อดี ข้อเสีย มีอะไรบ้าง 6. แนะนำไมโครโฟนมีสาย และ ไมโครโฟนไร้สาย ที่น่าสนใจ ● ไมโครโฟนมีกี่ชนิด
ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักไมโครโฟนกันสักนิดให้อ่านกันแบบเพลินๆ ก่อนนะครับ สำหรับไมโครโฟนจะมีด้วยกันทั้งหมด 5 ชนิด จะมีการใช้งานในความเหมาะสมที่แตกต่างกันไป ดังนี้ 1. ไมโครโฟนแบบมีสาย ตามที่ใช้กันทั่วไปในสมัยก่อน ให้เสียงที่นุ่มนวล มีความทนทานสูง สามารถป้องกันคลื่นเสียงรบกวนจากด้านอื่นได้ดี
2. ไมโครโฟนไร้สาย หรือไมค์ลอย ใช้กันทั่วไปในการร้องเพลง พูดบรรยาย รายงานข่าว พกพาสะดวก และน้ำหนักเบา
3. ไมโครโฟนก้านยาวหรือไมค์คอห่าน ที่เราเคยเห็นกันในจุดประชาสัมพันธ์ต่างๆ ของห้างสรรพสินค้า โรงพยาบาล โรงเรียน ห้องประชุม และห้องสัมนา เป็นไมค์ที่สามารถบิดปรับโค้งงอไปตามทิศทางที่เราต้องการได้ 4. ไมโครโฟนวางบนโต๊ะ เป็นไมค์ที่ใช้สำหรับวางบนโต๊ะในห้องประชุมขนาดเล็กทั่วไป 5. ไมโครโฟนสตูดิโอ ใช้สำหรับร้องและบันทึกเสียงในห้องสตูดิโอ จะเป็นไมค์เฉพาะที่สามารถเก็บรายละเอียดเสียงต่างๆ ได้ดี
● ประเภทของไมโครโฟน
มีด้วยกัน 2 ประเภทหลักๆ ที่นิยมใช้งานกันในปัจจุบัน ดังนี้
1. ไมโครโฟนชนิดไดนามิค
เป็นไมโครโฟนที่นิยมใช้มากที่สุด หลักการทำงานของไมค์ชนิดนี้จะเป็นการทำงานเชิงกลเกี่ยวกับการเคลื่อนที่ของเสียง ที่ส่งไปกระทบกับตัวรับสัญญาณ จนเกิดการสั่นสะเทือนของขดลวดผ่านสนามของแม่เหล็กและเกิดสัญญาณไฟฟ้าขึ้น
เหมาะกับงานทุกประเภท เช่น งานทัวร์คอนเสิร์ต งานอีเว้นท์ทั่วไป งานห้องประชุม กิจกรรมต่างๆ เพราะจะครอบคลุมทุกคลื่นความถี่และให้ความหนักแน่นของเสียงอีกทั้งยังมีความแข็งแรงคงทนสูง
2. ไมโครโฟนชนิดคอนเดนเซอร์ ( Condenser Microphone )
ไมโครโฟนชนิดคอนเดนเซอร์ มีหลักการทำงานคือ การปล่อยกระแสไฟฟ้าสายตรง ไหลไปยังตัวไมค์ซึ่งมีแผ่นโลหะบางๆ ตรวจจับการสั่นสะเทือนของอากาศ แล้วเปิด-ปิดทางเดินของวงจรไฟฟ้าไมโครโฟนชนิดนี้จะมีความไวในการรับเสียงสูง เสียงกลาง เสียงต่ำ เหมาะกับการใช้งาน ในด้านของเสียงสตูดิโอ ที่มีการเก็บเสียงร้องเพลง หรือเสียงพูด หรือใช้เพื่องานเก็บทุกรายละเอียดเสียง เช่นเสียง ลม เสียงการเล่นดนตรีเป็นต้น
● ไมโครโฟนไร้สาย คืออะไร
ในส่วนนี้อาจจะไม่ได้ขยายความหรืออธิบายมากนัก เพราะเชื่อว่าหลายๆ คนคงจะรู้จัก ไมโครโฟนไร้สาย กันอยู่บ้างแล้ว แต่หากพูดสั้นๆ ก็คือเป็นอุปกรณ์ที่ช่วยขยายเสียง/บันทึกเสียง แบบพกพาที่นิยมใช้กันทั่วไปในงานประชุม งานสัมนาต่างๆ
ในรายการวิทยุ/โทรทัศน์
ในงานอีเว้นท์ และในหลายๆ บ้าน ที่เราคุ้นเคยก็จะมีไว้สำหรับใช้เป็น ไมค์ร้องคาราโอเกะ เวลามีงานปาร์ตี้กันที่บ้าน
● การทำงานของ ไมโครโฟนไร้สาย
ในส่วนของการทำงานไมโครโฟนนี้จะทำหน้าที่เปลี่ยนสัญญาคลื่นเสียงจากต้นกำเนิดเสียงจากการพูด การร้อง เมื่อเสียงกระทบตัวรับในไมโครโฟน จะทำให้ขดลวดสั่นสะเทือนตัดกับสนามแม่เหล็ก จึงทำให้เกิดสัญญาณไฟฟ้า ส่งผ่านความถี่คลื่นวิทยุ ไปยังลำโพงหรือเครื่องขยายเสียงอีกที โดยไม่ต้องมีสายมาเกี่ยวข้องในการรับ - ส่ง
โดยมีการแบ่งย่านความถี่คลื่นวิทยุที่ใช้ ดังนี้ 1. ย่านความถี่ VHF (Very High Frequency) ช่วงย่านความถี่ 30 – 300 MHz 2. ย่านความถี่ UHF (Ultra High Frequency) ช่วงย่านความถี่ 300 – 3000 MHz แต่ในปัจจุบัน สำนักงาน กสทช. ได้ปรับปรุงการใช้คลื่นความถี่สำหรับไมโครโฟนไร้สาย ย่านความถี่ UHF จากเดิมที่ใช้คลื่นความถี่ 794-806 MHz เป็น 803-806 MHz 3. ย่านความถี่ดิจิตอล 2.4 GHz ISM Band (Industrial Sciences Medicine) เป็นย่านความถี่ที่ถูกพัฒนาให้สามารถใช้งานได้เลย ไม่ต้องขออนุญาตเพราะเป็นคลื่นความถี่สาธารณะ
● ไมโครโฟนไร้สาย มีข้อดี ข้อเสีย อะไรบ้าง
ได้เวลาของการรู้ถึง ข้อดี และ ข้อเสีย ของ ไมโครโฟนไร้สาย กันแล้ว มีอะไรบ้างมาดูกันเลยครับ
ข้อดีของ ไมโครโฟนไร้สาย
1. มีหลากหลายราคาให้เลือกตามคุณภาพของเสียงที่จะใช้งาน 2. ไม่มีสายมาเกะกะระหว่างการใช้งาน สามารถเดินไปพูดไปได้อย่างคล่องตัว ไม่ต้องกังวลเรื่องเดินเตะสาย หรือเรื่องสายหลุด สายด้านในขาด จึงทำให้ไม่ต้องคอยเปลี่ยนสาย หรือซ่อมสายใดๆ 3. ใช้งานได้ทั้งระยะใกล้ - ไกล ตั้งแต่ 50 - 150
เมตร ในกรณีที่อยู่ในสถานที่โล่แจ้งประสิทธิภาพการส่งสัญญาณจะดีกว่าสถานที่ที่มีสิ่งบดบัง เช่น กำแพง หรือสิ่งกีดขวางต่างๆ 4. เป็นที่นิยมใช้กันแพร่หลายทั้งในร้านอาหาร ห้องคาราโอเกะก็จะมี ไมค์ร้องคาราโอเกะ ไว้ให้บริการ เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน
5. มีให้เลือกใช้งานหลากหลายแบบ ทั้งไมค์ถือแบบเดี่ยว คู่ หรือแบบ 4 ตัว, แบบหนีบปกเสื้อ, แบบคล้องหูและคาดศรีษะ 6. สำหรับในบางรุ่น หรือบางยี่ห้อ สามารถหมุนเปลี่ยนหัวไมค์เพื่อได้ตามลูกเล่นของรุ่นนั้นๆ 7. ทำให้ผู้ที่ใช้งานดูมีความทันสมัย และมีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น
8. สามารถปรับเปลี่ยนชาแนล เพิ่มลดระดับเสียง และเอฟเฟคต่างๆ
ได้มากมาย
9. ใช้งานง่ายมีได้ทุกบ้านเรียกได้ว่าเป็น ไมค์ร้องคาราโอเกะ สามัญประจำบ้านได้เลยทีเดียว 10. เหมาะแก่การพกพาไปได้ทุกที่
ข้อเสียของ ไมโครโฟนไร้สาย
1. มีอุปกรณ์หลายชิ้น หากยังไม่คุ้นเคยกับการใช้งาน อาจจะทำให้การเซ็ทอัพใช้เวลามากพอสมควร 2. อาจจะเกิดปัญหาในเรื่องของคลื่นรบกวนที่ทำให้สัญญาณขาดหายได้
3. ต้องขออนุญาติการนำเข้าให้ถูกต้องจาก กสทช. (สำหรับผู้นำเข้า) 4. ราคาอาจจะมีความสูงกว่าไมค์แบบมีสาย
5. จำเป็นต้องใช้ถ่าน/แบตเตอรี่ ในการใช้งาน
จะเห็นว่าเมื่อเปรียบเทียบข้อดีและข้อเสียกันแล้ว น้ำหนักข้อดีสำหรับการใช้งานมีมากกว่า และข้อเสียที่เจอก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคมากเกินไปในการจะเลือกใช้ ไมโครโฟนไร้สาย แต่อย่างใด สำหรับผู้ที่จำเป็นต้องใช้งาน หากมีติดไว้ย่อมดีและสะดวกกว่าครับ
● แนะนำไมโครโฟนมีสาย และ ไมโครโฟนไร้สาย ที่น่าสนใจ
เพื่อให้ทุกคนได้มีตัวเลือกในการซื้อไมโครโฟนที่หลากหลาย จึงจะขอแนะนำทั้งแบบมีสาย และแบบไร้สายให้เป็นตัวเลือก สำหรับคนที่กำลังมองหา ไมค์ร้องคาราโอเกะ ดีๆ สักตัว มาเริ่มจากไมโครโฟนแบบมีสายกันก่อน จะขอแนะนำเป็น 2 รุ่นนี้ครับ
1. ไมโครโฟน SHURE SHURE SM58S
● ตอบสนองความถี่ปรับให้เหมาะสมกับนักร้อง โดยมีเสียงระดับเสียงกลาง และเบสเด่นมากขึ้น ● ทิศทางการรับเสียงแบบ Cardioid รับเสียงหลักจากด้านหน้าได้ดีที่สุด ● ระบบ Pneumatic Shock-Mount ลดเสียงรบกวนรอบข้าง ● การตอบสนองความถี่ : 50 ถึง 15,000 Hz ● Replacement cartridge: R59
2. ไมโครโฟน SHURE SHURE PGA48-QTR
● ไมโครโฟนชนิด Dynamic ถูกออกแบบมาเพื่อให้เสียงที่ชัดเจน ตอบสนองต่อความถี่เสียงได้ดีเยี่ยม ● ระบบการรับเสียงแบบ Cardioid ที่รับเฉพาะเสียงจากด้านหน้า ลดการสะท้อนของเสียง และเสียงรบกวน ● ดีไซน์โดดเด่นด้วยรูปลักษณ์สีดำเมทัลลิค และตะแกรงรับเสียงสีเงินสุดคลาสสิค ● มีสวิตช์เปิด-ปิด สำหรับควบคุมไมโครโฟน ● ออกแบบมาเพื่อคุณภาพเสียงยอดเยี่ยม และสุดยอดในทุก ๆ สภาพแวดล้อม
มาถึงตรงนี้สำหรับคนที่กำลังสนใจและอยากรู้ว่าถ้าจะซื้อ ไมโครโฟนไร้สาย ไว้สำหรับใช้ในการทำงาน หรือใช้เป็น
ไมค์ร้องคาราโอเกะ ควรจะเป็นรุ่นและยี่ห้อไหนดี จะขอแนะนำเป็น 2 รุ่นนี้ ที่คุณภาพและราคามีความน่าสนใจและน่าใช้งานครับ
1. ไมโครโฟนไร้สาย PRISMA MC-06
● ไมโครโฟนไร้สาย 2 ตัว พร้อมชุด รับ-ส่ง สัญญาณ ● รับ-ส่ง สัญญาณได้ไกล ด้วยระยะการใช้งาน 100-150 เมตร ● ตอบสนองความถี่ UHF 50Hz-18KHz ให้คุณภาพเสียงที่ดีแบบมืออาชีพ
2. LEONA ULV300 ไมโครโฟนไร้สาย
● วัสดุผลิตจากเหล็กเกรดพรีเมียม มีความแข็งแรง ทนทาน ● ช่วงความถี่ของการใช้งาน 174 - 216 MHz ● การตอบสนองความถี่เสียง 80 Hz – 15 KHZ
หากใครพอจะตัดสินใจได้แล้วก็อย่าลืมรีบไปหาซื้อ ไมโครโฟนไร้สาย มาติดบ้านไว้นะครับ ยิ่งใกล้เทศกาลปีใหม่ด้วยแล้ว ไมค์ร้องคาราโอเกะ ก็เป็นของที่ควรต้องมีไว้เพื่อสร้างความสนุก และ
สีสันในทุกปาร์ตี้ ของเราจริงๆ แต่ทั้งนี้ไม่ว่าจะเลือกใช้เป็นไมโครโฟนชนิดไหน ก็ต้องขึ้นอยู่กับความชอบ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ และแต่ละสถานที่อีกที บทความต่อไปของ
HomeGuru จะเป็นอะไรฝากติดตามกันด้วยนะครับ รับรองว่ามีแต่สาระดีๆ มาให้อย่างแน่นอน
ไมโครโฟนไร้สาย รอให้คุณมาช้อปกันได้ที่โฮมโปรทุกสาขา หรือช้อปออนไลน์ง่าย ๆ ผ่านทาง
www.homepro.co.th และสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง Call Center โทร 1284 ครับ