บ้านทิศไหนดีที่สุด เป็นคำถามที่เกิดขึ้นอันดับแรกๆ เมื่อต้องเลือกซื้อบ้านสำหรับอยู่อาศัย เพราะนอกจากเรื่องของสภาพแวดล้อมและทำเลของตัวบ้านแล้ว เรื่องทิศทางก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ต้องคำนึงถึง ซึ่งไม่เพียงแต่เป็นเรื่องความเชื่อทางฮวงจุ้ยเท่านั้น แต่ทิศทางของบ้านยังเป็นตัวกำหนดทิศทางของแสงจากดวงอาทิตย์ และทิศทางของลมในฤดูกาลต่างๆ ซึ่งส่งผลโดยตรงให้บ้านหลังนั้นๆ อยู่ร่มเย็นป็นสุขแบบเป็นรูปธรรมจริงๆ
HomeGuru จึงอยากแนะนำว่าหากจะเลือกซื้อบ้านทั้งที ต้องพิจารณาว่า บ้านทิศไหนดีที่สุด หรือเหมาะสมกับผู้อยู่อาศัยในบ้านที่สุดครับ
บ้านทิศไหนดีที่สุด สังเกตจากแสงแดดและสายลม
ที่ต้องกล่าวว่าทิศทางของแดดและลมเป็นเรื่องสำคัญในการเลือกซื้อบ้านสักหลังนั่นเป็นเพราะแดดและลมเป็นตัวกำหนดสภาพอากาศโดยรวมของบ้าน หากได้รับแดดในปริมาณที่พอเหมาะบ้านก็ร่ม หากได้รับลมในปริมาณที่พอเหมาะบ้านก็เย็น หรือเรียกว่าหากเลือกทิศทางของบ้านได้ถูกต้อง เวลาอยู่อาศัยก็ย่อมเกิดความร่มเย็นเป็นสุขนั่นเองครับ สำหรับประเทศไทย หลายคนคงทราบกันดีอยู่แล้วว่าทิศของแสงแดดจะมาจากทิศตะวันออก เป็นแดดอ่อน ๆ ในช่วงเช้า และทิศตะวันตก เป็นแดดที่ค่อนข้างแรงในช่วงบ่าย นอกจากนี้แสงแดดยังอ้อมไปทางทิศใต้ในช่วงเที่ยงถึงบ่ายมากน้อยขึ้นอยู่กับช่วงเดือนต่างๆ ในแต่ละปี ส่วนทิศทางของลมโดยหลักแล้วจะมาจากทิศเหนือและทิศใต้ ซึ่งในแต่ละช่วงเดือนและแต่ละพื้นที่ต่างๆ ก็จะแตกต่างกันออกไปอีกครับ ดังนั้น การศึกษาทิศทางของแดดและลสมจะเป็นตัวแปรสำคัญในการเลือกว่า บ้านทิศไหนดีที่สุด
หน้าบ้านหันทิศไหน ดูยังไง
หากไม่มั่นใจว่าทิศทางของบ้านอยู่ในตำแหน่งใด วิธีตรวจสอบแบบง่ายๆ แต่ได้ผลลัพธ์ชัดเจนและแม่นยำคือการตรวจสอบทิศทางโดยใช้เข็มทิศนั่นเองครับ โดยวิธีการตรวจสอบทิศทางบ้านด้วยเข็มทิศให้แม่นยำมีขั้นตอนดังนี้ 1. ยืนถือเข็มทิศในจุดกึ่งกลางของตัวบ้าน หรือห้องที่ต้องการตรวจสอบ 2. ปลายลูกศรของเข็มทิศจะชี้ไปทางทิศเหนือตามแรงดึงดูดของขั้วแม่เหล็กโลกเสมอ ดังนั้น หากเข็มทิศยังแกว่งอยู่ต้องหมุนเข็มทิศโดยพยายามหาทิศทางให้ปลายลูกศรชี้ไปทางทิศเหนือที่สัญลักษณ์ N – North หรือที่ตัวเลข 360 องศาบนหน้าปัดเข็มทิศ 3. เมื่อปลายเข็มทิศนิ่งสนิทอยู่ที่ทิศเหนือ สัญลักษณ์ N – North หรือที่ตัวเลข 360 องศาแล้ว ให้อ่านค่าบนหน้าปัดเข็มทิศที่ถืออยู่ว่าประตูหน้าบ้านหรือทางเข้าหลักของบ้านที่ตรวจสอบนั้นตกอยู่ในมุมของทิศใด ถือว่าทิศนั้นคือทิศของบ้านนั่นเองครับ 4. กรณีไม่มีเข็มทิศ ปัจจุบันสามารถตรวจสอบโดยใช้แอปพลิเคชั่นเข็มทิศดิจิตอลในโทรศัพท์มือถือซึ่งให้ความแม่นยำได้ไม่ต่างจากเข็มทิศจริง ๆ ครับ 5. เพื่อความแม่นยำ ขณะใช้เข็มทิศหรือเข็มทิศดิจิตอลให้หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้กับสิ่งของหรือวัสดุที่เป็นโลหะ เช่น
เฟอร์นิเจอร์เหล็ก นาฬิกา หรือ
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีส่วนประกอบของเหล็ก เพราะอาจทำให้การวัดองศาของเข็มทิศคลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงได้ครับ
กรณีที่ต้องการทราบข้อมูลที่ละเอียดมากขึ้นก็สามารถอ่านค่าจากหน้าปัดเข็มทิศซึ่งระบุเป็นตัวเลขกำหนดองศาอย่างละเอียดได้ดังนี้ครับ 1. บ้านหันหน้าทิศเหนือ (N-North) จะมีองศาอยู่ระหว่าง 337.5 - 22.49 2. บ้านหันหน้าทิศตะวันออกเฉียงเหนือ (NE-North East) จะมีองศาอยู่ระหว่าง 22.5 - 67.49 3. บ้านหันหน้าทิศตะวันออก (E-East) จะมีองศาอยู่ระหว่าง 67.5 - 112.49 4. บ้านหันหน้าทิศตะวันออกเฉียงใต้ (SE-South East) จะมีองศาอยู่ระหว่าง 112.5 - 157.49 5. บ้านหันหน้าทิศใต้ (S-South) จะมีองศาอยู่ระหว่าง 157.5 - 202.49 6. บ้านหันหน้าทิศตะวันตกเฉียงใต้ (SW-South West) จะมีองศาอยู่ระหว่าง 202.5 – 247.49 7. บ้านหันหน้าทิศตะวันตก (W-West) จะมีองศาอยู่ระหว่าง 247.5 – 292.49 8. บ้านหันหน้าทิศตะวันตกเฉียงเหนือ (NW-North West) จะมีองศาอยู่ระหว่าง 292.5 – 337.49
เลือกซื้อ บ้านทิศไหนดีที่สุด
อย่างที่ได้กล่าวไปแล้วว่าทิศทางของแดดและลมเป็นปัจจัยแวดล้อมที่มีผลโดยตรงต่อการอยู่อาศัยภายในบ้าน ซึ่งบ้านที่ตั้งอยู่ในแต่ละทิศก็จะได้รับผลกระทบจากแดดและลมแตกต่างกัน ซึ่งมีทั้งข้อดีและข้อเสียให้ลองเปรียบเทียบกันครับ
บ้านหันหน้าทิศเหนือ
ทิศเหนือเป็นทิศที่เหมาะกับผู้ที่ใช้เวลาพักอาศัยอยู่ในบ้านค่อนข้างมาก เพราะเป็นทิศที่อากาศเย็นสบายตลอดทั้งปี บ้านหันหน้าทิศเหนือ จะไม่โดนแสงแดดส่องถึง บริเวณหน้าบ้านจะเย็นเนื่องจากได้รับแสงแดดน้อย ส่วนทิศทางของลม ในฤดูร้อนและฤดูฝนลมจะเข้าทางด้านหลังบ้าน ในฤดูหนาวลมจะเข้าทางหน้าบ้าน ทำให้ได้รับลมหนาวอย่างเต็มที่ ซึ่งในข้อดีก็มีข้อเสียซ่อนอยู่เช่นกัน เพราะเมื่อบ้านได้รับแสงแดดน้อยจะทำให้เกิดปัญหาบ้านอับชื้น เกิดเชื้อราได้ง่าย และปัญหาเรื่องการระบายอากาศ ผู้อยู่อาศัยจึงควรหมั่นดูแลทำความสะอาดบ้านอย่างสม่ำเสมอครับ
บ้านหันหน้าทิศใต้
ทิศใต้เป็นทิศที่เหมาะกับผู้อยู่อาศัยที่ชอบลมธรรมชาติ และไม่ชอบเปิด
เครื่องปรับอากาศ เพราะจะได้รับลมเข้าทางหน้าบ้านในช่วงฤดูร้อนและฤดูฝนต่อเนื่องประมาณ 7 – 8 เดือนต่อปี หากเปิดหน้าต่างจะรู้สึกเย็นสบายโดยไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศมากนัก แต่จะได้รับแสงแดดเข้าบ้านช่วงเดือนสิงหาคมถึงเมษายน ซึ่งหมายถึงได้รับแดดเกือบทั้งปี แต่หากเปิดหน้าต่างทิ้งไว้สักพักก็จะกลับมาเย็นเหมือนเดิม กรณีที่ บ้านหันหน้าทิศใต้ และด้านข้างของบ้านทางทิศตะวันตกมีช่องแสงเยอะก็อาจมีปัญหาเรื่องความร้อนจากแสงแดด แต่ก็สามารถแก้ไขได้ด้วยการปลูกต้นไม้ให้ร่มเงาทางด้านทิศตะวันตกเพื่อช่วยบังแดดในช่วงบ่ายของวันครับ
บ้านหันหน้าทิศตะวันออก
รวมไปถึง บ้านหันหน้าทิศตะวันออกเฉียงเหนือ และ บ้านหันหน้าทิศตะวันออกเฉียงใต้ ล้วนแต่เป็นทิศที่เหมาะกับผู้อยู่อาศัยที่ชอบตื่นเช้าหรือออกกำลังกาย เพราะเมื่อพระอาทิตย์ขึ้นในตอนเช้าจะได้รับแสงแดดอ่อนๆ ทำให้ตื่นง่าย แต่ช่วงเวลาใกล้เที่ยงก็จะร้อนพอสมควร บ้านหันหน้าทิศตะวันออก ในช่วงฤดูหนาวจะอากาศดีเพราะได้รับลมเย็นพัดผ่านเข้ามาตรงๆ ส่วนในช่วงฤดูร้อนจะค่อนข้างอบอ้าวเพราะไม่ค่อยได้รับลมเท่าไรนัก
บ้านหันหน้าทิศตะวันตก
รวมไปถึง บ้านหันหน้าทิศตะวันตกเฉียงเหนือ และ บ้านหันหน้าทิศตะวันตกเฉียงใต้ ต่างก็เป็นทิศที่เหมาะกับผู้อยู่อาศัยที่ชอบตื่นสายหรือกลับบ้านดึก เพราะเป็นทิศที่จะได้รับแสงแดดช่วงบ่าย จึงไม่รบกวนการนอนในช่วงเช้า และแม้ว่า บ้านหันหน้าทิศตะวันตก จะร้อนกว่าบ้านทิศอื่นๆ ในช่วงบ่าย แต่ในฤดูร้อนอากาศจะไม่ร้อนมากเพราะยังได้รับลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้หรือลมมรสุมฤดูร้อนพัดผ่าน ทำให้ช่วยระบายความร้อนออกจากบ้านได้ดี อีกทั้งแสงแดดยังช่วยลดความอับชื้นและช่วยฆ่าเชื้อโรคต่างๆ ภายในบ้านได้ แต่หากรู้สึกว่าบ้านร้อนจนเกินไปก็สามารถติดตั้ง
ม่านกรองแสง หรือ
ม่านกัน UV ช่วยลดความร้อนภายในบ้านได้ครับ
ห้องนอนควรอยู่ทิศไหนของบ้าน
ไม่ว่าจะเลือกซื้อบ้านที่หันหน้าไปทางทิศใดก็ตาม สิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงคือทิศทางของ
ห้องนอนภายในบ้าน เพราะห้องนอนเป็นอีกหนึ่งห้องที่มีการใช้งานยาวนานที่สุดในบ้าน โดยทิศที่เหมาะสมในการวางตำแหน่งห้องนอนคือทิศเหนือ หรือทิศตะวันออก ห้องนอนทิศเหนือจะเหมาะกับผู้ที่ต้องการเวลานอนยาวๆ และตื่นสาย เพราะเป็นทิศที่ไม่โดนแดดตลอดทั้งวัน ทำให้ไม่มีแสงแดดมารบกวนการนอน และยังได้ลมเย็นๆ พัดเข้ามาในช่วงฤดูหนาวด้วย ส่วนทิศตะวันออกเป็นทิศที่ได้รับแสงแดดอ่อนๆ ในช่วงเช้า ช่วยกระตุ้นให้ตื่นนอนครับ ในทางกลับกัน หาก
ห้องนอนอยู่ในตำแหน่งทิศใต้ หรือทิศตะวันตกเฉียงใต้ จะทำให้ห้องนอนได้รับแสงแดดแรงในช่วงบ่าย และเกิดการสะสมความร้อนจนทำให้ห้องร้อนในช่วงค่ำหรือก่อนนอน แต่สามารถแก้ไขได้ด้วยการทำ
ระแนงไม้หรือแผงบังแดดในทิศที่โดนแดด เพื่อลดปริมาณแสงแดดที่ส่องเข้าทางช่องแสงต่างๆ ภายในห้องนอนได้ครับ
จากข้อมูลทั้งหมดที่
HomeGuru รวบรวมมานี้จะเห็นได้ว่าบ้านในแต่ละทิศล้วนแต่มีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกัน ดังนั้น
บ้านทิศไหนดีที่สุด อาจจะต้องขึ้นอยู่กับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของผู้อยู่อาศัยในบ้านเป็นหลักว่าในแต่ละวันสมาชิกในบ้านใช้พื้นที่ส่วนไหนทำกิจกรรมต่าง ๆ มากน้อยเพียงใด เพื่อให้สามารถเลือกทิศทางที่เหมาะสมกับการอยู่อาศัยของสมาชิกในบ้านได้มากที่สุดครับ