ลื่นล้มในห้องน้ำเป็นอุบัติเหตุลำดับต้นๆ ภายในบ้าน โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงวัยและเด็กเล็ก สาเหตุหลักเกิดจากความเปียกชื้นสะสมทำให้พื้นห้องน้ำเกิด
คราบตะไคร่แล
ะเชื้อรา ซึ่งหากห้องน้ำไม่ได้รับการออกแบบที่ดี จะกลายเป็นโซนที่อันตรายโซนหนึ่งของบ้านได้ สำหรับบ้านยุคใหม่ที่เพิ่งสร้างเสร็จจะไม่น่าห่วงมากนัก ส่วนใหญ่สถาปนิกได้ออกแบบแยกโซนเปียกแห้งไว้ให้แล้ว แต่หากเป็นบ้านเรือนเก่าหรือบ้านที่ไม่ได้ให้ความสำคัญกับงานออกแบบ อาจยังใช้รูปแบบห้องน้ำเก่าที่รวมทุกอย่างไว้ภายในโซนเดียวกัน ซึ่งไม่เพียงแค่อันตรายเท่านั้นแต่ยังส่งผลให้การดูแลห้องน้ำเป็นไปได้ยาก เนื้อหานี้
“HomeGuru” นำ 5 วิธีง่าย ๆ ในการแยกโซนเปียกแห้งโดยไม่ต้องแบ่งกั้นห้องเพิ่ม เพื่อให้ทุกบ้านได้ใช้ห้องน้ำอย่างปลอดภัยและไม่เหนื่อยไปกับการขัดถูทั่วทั้งห้องมาฝากครับ [caption id="attachment_2683" align="aligncenter" width="640"]
การแยกโซนเปียกแห้งให้ห้องน้ำ[/caption]
1. ใส่แนวกั้นขอบ กั้นน้ำบริเวณพื้น
การใส่
แนวกั้นนิยมใช้ในโครงการบ้านจัดสรร เนื่องด้วยทางโครงการต้องการลดต้นทุนงานก่อสร้าง จึงทำขอบกั้นรอไว้ด้วยวิธีก่อขอบปูนขึ้นมาเป็นแนวกั้นสูงประมาณ 5-10 ซม. จากนั้นวาง
ท่อรางน้ำทิ้ง (Floor Drain) หรือทางระบายน้ำในโซนอาบน้ำให้สัมพันธ์กับความลาดเอียงของห้อง
การใส่แนวกั้นจะได้ผลดีในกรณีที่ผังห้องน้ำจัดตำแหน่งแยกโซนและหันด้านฝักบัวไว้อย่างเหมาะสม จะช่วยกั้นน้ำบริเวณพื้นห้องโซนเปียกไม่ให้ไหลออกไปยังโซนแห้ง แต่หากออกแบบโซนอาบน้ำรวมไว้กับโซนอื่นๆ แนะนำให้ติดผ้าม่านหรือติดตั้งกระจกเพิ่มเติม มิเช่นนั้นน้ำที่ได้จากฝักบัวจะกระเซ็นไปทั่วทั้งห้อง ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่ไม่ดีนัก
2. แยกโซนเปียกแห้งด้วยผ้าม่าน
“ผ้าม่านห้องน้ำ” เป็นอุปกรณ์แบ่งโซนแห้งเปียกที่ง่ายและประหยัดค่าใช้จ่ายที่สุด วัสดุที่ใช้ผลิตมีหลายชนิดและมีคุณสมบัติแตกต่างกันไป สำหรับวัสดุพลาสติกธรรมดาราคาค่อนข้างถูก แต่การใช้งานจะสั้น เมื่อโดนน้ำทุกวัน เชื้อราสีดำจะขึ้นเป็นจุดดูสกปรกไม่น่ามอง จึงต้องเปลี่ยนบ่อยครั้ง ดังนั้นควรเลือกซื้อผ้าม่านห้องน้ำที่มีคุณสมบัติกันน้ำ เช่น • ผ้าม่าน PVC ที่มีความยืดหยุ่น ดูดซับความชื้นรวดเร็ว ทำความสะอาดง่าย • ผ้าม่านวัสดุ PEVA ผ้าม่านกึ่งทึบแสงที่ดีกว่า PVC ตรงที่ไม่มีคลอไรด์ เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อมน้อยกว่า มีคุณสมบัติกันน้ำ ช่วยลดการเกิดและสะสมของเชื้อราได้ดี • ผ้าม่านวัสดุ EVA หรืออีกหนึ่งชนิดของโพลิเมอร์ มีคุณสมบัติโปร่งแสง ไร้กลิ่นเป็นมิตรกับคนและบ้าน ทนทานต่อการโดนน้ำ คราบสบู่ คราบแชมพูได้ดี และป้องกันเชื้อราได้ • ผ้าม่านโพลีเอสเตอร์ เคลือบผิวกันน้ำ จึงไม่อุ้มน้ำและความชื้น คราบไม่เกาะ น้ำหนักเบา ซักแล้วไม่หดตัว [caption id="attachment_2673" align="aligncenter" width="800"]
แยกโซนเปียกแห้งด้วยผ้าม่าน[/caption]
3. แยกโซนเปียกแห้งด้วยฉากอาบน้ำ
ในบ้านยุคใหม่นิยมใช้
ฉากกั้นอาบน้ำมาเป็นตัวช่วยแบ่งโซนแห้งและเปียกมากขึ้น โดยเฉพาะฉากกั้นอาบน้ำแบบบานเปลือย (Frameless Glass Shower Enclosures) ด้วยจุดเด่นของวัสดุโปร่งใส ทำให้ห้องน้ำดูสวยให้ความรู้สึกโปร่งโล่ง สามารถสั่งออกแบบได้ตามขนาดหรือรูปทรงที่ต้องการ อาจเป็นเพียงผนังกั้นเดี่ยวหรือมีประตูกั้นเพิ่มขึ้นอยู่กับโจทย์ความต้องการ ข้อควรระวัง ไม่ควรใช้กระจกธรรมดา แต่ให้ใช้กระจกที่มีความแข็งแรงทนทาน เช่น กระจกนิรภัย กระจกอะครีลิค เพราะหากเกิดอุบัติเหตุกระจกแตกเศษกระจกจะแหลมคม ต่างจากกระจกนิรภัยที่แตกแล้วจะเป็นลักษณะเหมือนเม็ดข้าวโพดเล็กๆ ทำให้มีอันตรายน้อยกว่า [caption id="attachment_2675" align="aligncenter" width="800"]
แยกโซนเปียกแห้งด้วยฉากอาบน้ำ[/caption]
4. ตู้อาบน้ำสำเร็จรูป (Shower Cabin)
นับเป็นตัวเลือกในการกั้นโซนเปียกโซนแห้งให้เป็นสัดส่วนที่สะดวก เพียงยกมาวางก็ใช้งานได้เลยแทบจะไม่ต้องทำอะไรเพิ่มเติม ตู้อาบน้ำสำเร็จรูปมีน้ำหนักไม่มาก ขนาดมาตรฐานอยู่ที่ 90 ซม. X 90 ซม. แต่แนะนำว่าก่อนจะซื้อมาติดตั้งให้วัดขนาดพื้นที่ว่างภายในห้องน้ำก่อน และไปทดลองยืนหมุน ๆ ตัว เสมือนว่ากำลังยืนอาบน้ำจากตู้จริงก่อนครับ เพราะหากผู้ใช้งานตัวสูงใหญ่ ตู้อาบที่เล็กเกินไปอาจจะทำให้รู้สึกอึดอัดและติดแขนในขณะถูสบู่ได้ จุดเด่นของตู้อาบน้ำสำเร็จรูปอยู่ที่ความสะดวกในการติดตั้ง กั้นเปียกแห้งได้ดีเกือบ 100% และราคาที่จับต้องได้ เริ่มต้นเพียงหลักพันบาทเท่านั้นครับ [caption id="attachment_2677" align="aligncenter" width="800"]
ตู้อาบน้ำสำเร็จรูป (Shower Cabin)[/caption]
5. ก่อผนังแยกโซนแห้งเปียก
เป็นอีกวิธีที่เรียบง่าย นิยมใช้กันอย่างมากในประเทศไทย เหมาะกับห้องน้ำที่จัดผังโซนอาบน้ำไว้บริเวณริมในสุดของห้อง โดยทำการก่อผนังยื่นออกมาประมาณ 80-100 เซนติเมตร ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของขนาดห้องน้ำ บริเวณพื้นโซนอาบน้ำอาจออกแบบให้มีระดับพื้นต่ำกว่าโซนแห้งประมาณ 5-10 เซนติเมตร เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำไหลออกทางพื้น วิธีนี้เป็นวิธีที่ประหยัดงบและป้องกันน้ำกระเซ็นได้ระดับหนึ่ง แต่อาจจะรู้สึกมืดทึบมากกว่างานกระจกใส ผนังกั้นควรปิดผิวผนังด้วยวัสดุที่ทำความสะอาดง่าย เช่น กระเบื้องเซรามิก หรือกรณีขัดมันเปลือยให้เคลือบด้วยน้ำยาขัดเงาทับไว้อีกชั้น เพื่อป้องกันความชื้นสะสมและทำความสะอาดได้ง่ายขึ้นครับ [caption id="attachment_2679" align="aligncenter" width="800"]
ก่อผนังแยกโซนแห้งเปียก[/caption]
ห้องน้ำแม้จะเป็นพื้นที่ที่เล็กที่สุดในบ้าน แต่ก็มีความสำคัญต่อคุณภาพชีวิตและสุขอนามัยไม่น้อย สำหรับบ้านที่ยังไม่สร้าง ควรใส่ใจทุกรายละเอียดตั้งแต่ขั้นตอนออกแบบ ทั้งการจัดฟังก์ชันการใช้งาน การเลือกวัสดุปิดผิว สุขภัณฑ์ห้องน้ำ หรือหากบ้านไหนมีผู้สูงอายุ ควรออกแบบตามหลัก Universal Design จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยได้เป็นอย่างดีครับ เอาไว้โฮมกูรู จะนำแนวทางการออกแบบห้องน้ำเพื่อผู้สูงวัยมาให้อ่านกันในโอกาสถัดไปครับ
[caption id="attachment_2669" align="aligncenter" width="800"]
อันตรายของการไม่แยกโซนแห้ง-เปียก[/caption] [caption id="attachment_2681" align="aligncenter" width="800"]
หลักการสำคัญในการแซกโซนแห้งเปียกในห้องน้ำ[/caption]
สอบถามบริการติดตั้งรางม่าน/ ฉากกั้นห้อง/ ราวพยุง เพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Home Service by HomePro : m.me/Homeservicebyhomepro Line : https://lin.ee/uN8D4Zl หรือ @Homeproservice
Call Center : 1284 Mobile app : https://bit.ly/372RTMT