ภาพผนังบ้านเก่าที่แตกร้าว สีซีดจาง ผนังปูนไม่ได้รับการดูแลรักษาหรือไม่ได้ทาสีใหม่เป็นเวลานาน จะเกิดรอยแตกร้าว รูพรุน ซึ่งเป็นช่องทางให้ความชื้นเข้าไปสะสม เมื่อความชื้นมาเจอกับอากาศร้อนชื้นแบบเมืองไทย ก็กลายเป็นสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมสำหรับการเจริญเติบโตของ ฝุ่น เชื้อรา แบคทีเรีย และตะไคร่น้ำ มีผลกระทบต่อสุขภาพและเป็นสาเหตุของโรคระบบทางเดินหายใจ เช่น โรคภูมิแพ้และหอบหืด และมะเร็งปอด
หนึ่งในวิธีที่สามารถทำได้คือ การตรวจสอบผนังบ้านง่ายๆ ด้วยการเอามือลูบดูว่ามีฝุ่นติดมือมาด้วยหรือเปล่า ถ้าหากมีฝุ่นติดมือมา ควรรีบกลับมารีเพ้นท์เพื่อปกป้องบ้านและสุขภาพ โดยขั้นตอนการดูแลพื้นผิวของผนังที่เสื่อมสภาพและการรีเพ้นท์สีใหม่ มีขั้นตอนดังนี้
ขั้นที่ 1
ขัดล้าง ทำความสะอาดพื้นผิว โดยใช้แปรงไนลอนหรือผ้า เช็ดล้างฝุ่นและคราบสกปรก ออกให้หมด
![]() |
![]() |
![]() |
---|
ขั้นที่ 2
- ผนังบริเวณที่เคยมีเชื้อรา แนะนำให้ทาน้ำยากำจัดเชื้อราและตะไคร่น้ำ ลดปัญหาการเกิดเชื้อราซ้ำที่เดิมหลังการทาสี แล้วล้างด้วยน้ำสะอาดอีกครั้งก่อนทิ้งไว้ให้แห้งสนิท
- กรณีบ้านอยู่ในบริเวณที่มีความชื้นใต้ดินสูง แนะนำให้ทาน้ำยาป้องกันความชื้น บนผนังช่วง 1 เมตรจากพื้นด้านล่าง เพื่อป้องกันความชื้น สาเหตุที่ทำให้เกิดผนังโป่งพองลอกล่อน
![]() |
![]() |
![]() |
---|
ขั้นที่ 3
อุดโป๊รอยแตกร้าวให้พื้นผิวกลับมาเรียบเนียน ปกปิดรอยแตกร้าวลายงา
ขั้นที่ 4
เลือกสีรองพื้นและสีทับหน้า
- การทาสีรองพื้นปูนเก่า สามารถช่วยเพิ่มการยึดเกาะของสีทับหน้าและพื้นผิวของผนัง ช่วยปรับปรุงคุณภาพของพื้นผิวได้ดี และช่วยยืดอายุการใช้งานของสีทาทับหน้าให้มีความติดทนนานขึ้น
- เลือกสีทับหน้า ที่มีคุณสมบัติทำความสะอาดตัวเองได้ เพื่อปกป้องบ้านของจากทุกสภาวะ และมีนวัตกรรม Special Acrylic Technology เช่น สีน้ำ Supershield ที่ช่วยทำให้ฟิล์มสีแน่นขึ้น เรียบเนียน ช่วยป้องกันและลดปัญหาการเกิดฝุ่น เชื้อรา แบคทีเรีย และตะไคร่น้ำ จากพื้นผิวเสื่อมสภาพ
![]() |
![]() |
---|
สามารถมาเดินช้อปสีของจริงได้ที่โฮมโปรสาขาใกล้บ้าน หรือช้อปออนไลน์ง่าย ๆ ได้ 24 ชั่วโมงทาง www.homepro.co.th สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ HomePro Call Center โทร 1284
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิก
เพื่อเพิ่มรายการโปรดของคุณ