ตู้พลาสติก ตัวช่วยแก้ปัญหาที่ได้รับความนิยมของหลาย ๆ บ้านที่มีมีข้าวของเครื่องใช้ทั้งที่จำเป็น และไม่จำเป็น เยอะแยะจนล้นบ้าน และไม่รู้ว่าจะหาที่วางจัดเก็บไว้ตรงไหนดี ตู้พลาสติก และ ชั้นวางพลาสติก จึงกลายเป็นหนึ่งไอเทมทางเลือกที่จะช่วยจัดระเบียบพื้นที่ทั้งภายใน และภายนอกบ้านให้เป็นระเบียบ โดยเฉพาะครอบครัวที่อาศัยอยู่ในคอนโดมิเนียมที่มีพื้นที่อันจำกัด การเลือกหา ตู้พลาสติกกันน้ำ หรือ ตู้เก็บของกลางแจ้ง มาวางตั้งไว้บริเวณริมระเบียง จะช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอย และฟังก์ชันการใช้งานได้มากทีเดียว แถมยังช่วยเซฟค่าใช้จ่าย หากเปรียบเทียบกับการที่จะต้องต่อเติมพื้นที่สำหรับทำห้องเก็บของภายในบ้านได้เป็นอย่างมาก แต่จะเลือกใช้ตู้พลาสติกแบบไหนให้ตอบโจทย์การใช้งาน และคุ้มค่านั้น
HomeGuru มีเคล็ดลับ และตู้พลาสติกที่เหมาะกับทุกบ้านมาแนะนำเพื่อเป็นทางเลือกให้กับทุกบ้านกันครับ
1. ตู้พลาสติกเลือกอย่างไรให้ตอบโจทย์ฟังก์ชันการใช้งานที่คุ้มค่า 2. ตู้เก็บของ HDPE ตัวช่วยต่อเติมพื้นที่จัดเก็บภายนอกบ้าน และภายในบ้าน ดีอย่างไร ตู้พลาสติก เลือกอย่างไรให้ตอบโจทย์ฟังก์ชันการใช้งานที่คุ้มค่า
• แข็งแรง ทนทาน ต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง
ข้อควรคำนึงถึงในการเลือกซื้อ เลือกใช้ ตู้พลาสติก นอกเหนือกจากดีไซน์ และการออกแบบที่จำเป็นต้องเลือกให้เข้ากับโทนการออกแบบตกแต่งบ้านแล้ว สิ่งสำคัญที่ไม่ควรละเลยเลย คือ วัสดุในการผลิตที่ควรมีคุณภาพ แข็งแรง ทนทาน ไม่ควรเลือกใช้วัสดุที่ต่ำกว่ามาตรฐาน เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานของตู้พลาสติกให้ยาวนานยิ่งขึ้น เพราะด้วยวัสดุที่ผลิตขึ้นจากพลาสติก บางบ้านอาจจะคิดว่าใช้พลาสติกแบบไหนก็มีคุณสมบัติคล้ายคลึงกัน แต่แท้จริงแล้ว แม้ว่าจะเป็นตู้พลาสติก เหมือนกัน แต่คุณภาพ และประสิทธิภาพในการใช้งานแตกต่างกัน โดยเฉพาะพลาสติกที่นำมาผลิตเป็นวัสดุตกแต่งบ้าน อย่างเฟอร์นิเจอร์ ที่ควรใช้วัสดุพลาสติกที่มีคุณสมบัติแข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทก รอยขีดข่วน สารเคมี ไม่เสียรูปทรง น้ำหนักเบา อย่าง พลาสติก Polypropylene (PP) พลาสติก ABS และ วัสดุ HDPE พลาสติกที่เหมาะสำหรับการใช้งานกลางแจ้ง
• ขนาดของ ตู้พลาสติก ต้องสัมพันธ์กับสิ่งของที่ต้องการจัดเก็บ
ขนาดของตู้พลาสติก และ
ชั้นวางพลาสติก ไม่เพียงแต่จะต้องสัมพันธ์กับขนาดพื้นที่ที่จะนำมาวางตั้งเท่านั้นนะครับ แต่ยังต้องคำนึงถึงปริมาณสิ่งของที่จะนำมาจัดเก็บอีกด้วย หากต้องการเก็บของใช้ในปริมาณที่มาก แนะนำให้เลือกตู้พลาสติกที่มีขนาดใหญ่ เพื่อให้ตอบโจทย์ด้านความคุ้มค่า และประโยชน์ใช้สอย แต่สำหรับบ้านที่มีพื้นที่ใช้สอยไม่มากนักก็อาจจะเลือกใช้ตู้พลาสติขนาดเล็ก แต่หลายใบวางต่อกันในแนวตั้ง เพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ และจัดเก็บสิ่งของที่จำเป็นได้อย่างคุ้มค่าเช่นกัน และหากภายในตู้สามารถเพิ่ม ชั้นวางพลาสติก ได้ แนะนำให้เพิ่ม ชั้นวางพลาสติก เพื่อช่วยให้การจัดเก็บสิ่งของเป็นสัดส่วน ง่ายต่อการค้นหา และหยิบใช้งานง่ายมากยิ่งขึ้น
• ดีไซน์ โดดเด่นเข้าได้กับทุกห้องภายในบ้าน
เรื่องของดีไซน์ตู้พลาสติกก็เป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจ เพราะหากเลือกตู้พลาสติกที่มีดีไซน์แตกต่างจากสไตล์การตกแต่งออกแบบบ้าน เมื่อนำไปตั้งวางก็คงดูแปลกตาไม่น้อย ปัจจุบันตู้พลาสติกมีให้เลือกหลากหลายดีไซน์ทั้ง สี รูปทรง ลวดลาย และวัสดุ การเลือกใช้งานจึงขึ้นอยู่กับความชอบส่วนตัวของแต่ละบ้าน แต่อยากแนะนำให้เลือก ตู้พลาสติก ที่มีสีเรียบ เพื่อให้ง่ายในการนำไปวางตั้งใช้งานได้กับทุกพื้นที่ภายในบ้าน
• Mix & Match เข้าได้กับทุกสไตล์การออกแบบตกแต่งบ้าน
เมื่อเลือกดีไซน์ และขนาดของตู้พลาสติก ไม่ว่าจะเป็น ตู้พลาสติกกันน้ำ หรือ ตู้เก็บของกลางแจ้ง ได้แล้ว หากตู้พลาสติกสามารถ Mix & Match ฟังก์ชันการใช้งาน ดีไซน์ ให้ลงตัวได้กับทุกห้องภายในบ้าน หรือสามารถซื้อเพิ่มเติมเพื่อให้กลายเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเดียวกันได้ตลอดก็จะยิ่งช่วยให้บ้านดูมีดีไซน์ และเพิ่มพื้นที่ใช้สอยได้อย่างคุ้มค่า
• สะดวกในการเคลื่อนย้ายไปได้ทุกมุมในบ้าน
คุณสมบัติของตู้พลาสติก และ ชั้นวางพลาสติก ที่ดีคือ ควรมีน้ำหนักเบา แม้จะต้องรับน้ำหนักกับสิ่งของที่ต้องจัดเก็บในปริมาณมากก็เพื่อให้ง่ายต่อการขนย้าย เมื่อต้องการปรับเปลี่ยนพื้นที่จัดเก็บ และ
ทำความสะอาด • ราคา ต้องคุ้มค่ากับการใช้งาน
ตู้พลาสติกมีหลายราคาให้เลือกใช้งาน ขึ้นอยู่กับวัสดุที่ใช้ในการผลิต ดีไซน์ และฟังก์ชันในการใช้งาน หากวัสดุในการผลิตมีคุณภาพที่สูง ราคาของตู้พลาติกก็มักจะสูงตามไปด้วย แต่ทั้งนี้ในเรื่องของราคาก็ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของแต่ละบ้านว่ามีความพึงพอใจอยู่ในระดับราคาที่เท่าไหร่ เมื่อเปรียบเทียบกับความคุ้มค่าในการใช้งานครับ
• มีฟังก์ชันการใช้งานอื่น ๆ เพิ่มเติม เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งาน
เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพในการใช้งาน ของ ตู้พลาสติก ควรมองหาตู้พลาสติกที่มีฟังก์ชันเสริมเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานมากยิ่งขึ้น เช่น มีตัวล๊อกเพื่อช่วยเพิ่มความปลอดภัย โดยเฉพาะหากเป็น ตู้เก็บของกลางแจ้ง มีมือจับสำหรับเปิด-ปิด เพื่อให้ง่ายต่อการเปิดหาสิ่งของที่จำเป็นต้องใช้งาน หรือมีล้อเลื่อนเพื่อให้สะดวกสบายในการเคลื่อนย้ายไปในทุกมุมภายในบ้าน
ตู้เก็บของ HDPE ตัวช่วยต่อเติมพื้นที่จัดเก็บภายนอกบ้าน และภายในบ้าน ดีอย่างไร
ตู้เก็บของ HDPE คือ ตู้พลาสติกที่สามารถวางตั้งใช้งานได้กับบ้านทุกประเภทตั้งแต่ บ้านเดี่ยว ทาวน์โฮม และ
คอนโดมิเนียมที่มีพื้นที่อันจำกัด โดยสามารถวางตั้งใช้งานได้ทั้งภายในบ้าน ริมระเบียงบ้าน และภายนอกบ้านเพื่อจัดเก็บสิ่งของให้เป็นระเบียบเรียบร้อย โดยไม่ต้องต่อเติมพื้นที่ให้เสียเวลา อีกทั้งคุณสมบัติของ พลาสติกประเภท HDPE หรือ High Density Polyethylene ที่มีความเหนียว แต่นิ่ม สามารถยืดหยุ่นได้ ทนต่อแรงต้านต่าง ๆ ได้ดี จึงยากที่จะแตกหัก ทำให้สามารถรองรับน้ำหนักการใช้งานได้มากกว่าปกติ และที่สำคัญทนต่อความร้อน และป้องกันความชื้น จึงสามารถนำไปวางตั้งสำหรับใช้จัดเก็บสิ่งของ หรือ
จัดระเบียบบ้าน ภายนอกบ้านได้ แต่เพื่อเป็นการยืดอายุการใช้งาน ก็ไม่แนะนำให้นำไปวางตั้งไว้บริเวณที่มีแดดจ้ามากเกินไปครับ
อย่าง ตู้เก็บของ HDPE SPRING EVEREST ตู้พลาสติกจัดเก็บสิ่งของที่สามารถวางตั้งได้ทั้งภายใน และภายนอกบ้าน เพื่อเพิ่มความเป็นระเบียบ และช่วยประหยัดพื้นที่ในการจัดวางสิ่งของให้กับบ้านได้มากขึ้น แถมยังสะดวกสบายในการหยิบจับใช้งาน โดดเด่นด้วยดีไซน์ที่เน้นความเรียบง่าย เข้าได้กับทุกสไตล์การ
ตกแต่งบ้านทั้ง
สไตล์มินิมอล โมเดิร์น และเนเชอรัล
จุดเด่นของ ตู้เก็บของ HDPE SPRING EVEREST
• มีความแข็งแรง ทนทาน เพราะผลิตจากวัสดุที่มีคุณภาพอย่าง พลาสติก HDPE • ภายด้านในตู้มี ชั้นวางพลาสติก HDPE ที่เสริมด้วยเหล็ก สามารถรองรับน้ำหนักการใช้งานได้ถึง 25 กิโลกรัมต่อชั้น และสามารถปรับระดับได้ถึง 5 ระดับตามความต้องการ • ด้านนอกมีมือจับสำหรับเปิด และปิดตู้ จับได้อย่างกระชับมือเพื่อให้ง่ายต่อการใช้งาน พร้อมรูสำหรับคล้องกุญแจ • มีตัวล๊อกสลัก ABS ด้านใน 2 จุด และด้านนอก 1 จุดล่าง เพื่อความปลอดภัยเมื่อวางใช้งานภายนอกบ้าน • ดีไซน์บริเวณด้านข้าง ตู้เก็บของกลางแจ้ง มีมือจับเว้าขอบ ช่วยให้สะดวกในการเคลื่อนย้าย • สามารถออกแบบและวางตู้เก็บของต่อกันเป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นเดียวในแนวตั้งเพื่อช่วยประหยัดพื้นที่ให้กับบ้านได้มากขึ้น
หลาย ๆ บ้านคงได้ทราบเคล็ดลับวิธีการเลือก
ตู้พลาสติก กันไปแล้ว สิ่งสำคัญนอกเหนือจากที่
HomeGuru แนะนำไว้ข้างต้นที่ทุกบ้านควรให้ความสำคัญไม่แพ้กันคือ การดูแลรักษา หมั่นตรวจเช็คสภาพการใช้งานของตู้พลาสติก และทำความสะอาดคราบฝุ่นละอองอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็น ตู้พลาสติกกันน้ำ หรือ ตู้เก็บของกลางแจ้ง ที่มีการวางตั้งใช้งานภายนอกบ้าน เพื่อป้องกันเชื้อโรค และยืดอายุการใช้งานให้ยาวนานยิ่งขึ้นครับ