วัสดุที่เลือกใช้ตกแต่งบ้าน เป็นสิ่งที่สะท้อนตัวตนและสไตล์ของผู้เป็นเจ้าของได้เป็นอย่างดี อย่าง
“เฟอร์นิเจอร์หนัง” ก็เป็นตัวเลือกที่สมบูรณ์แบบในการเสริมให้บ้านดูเท่อย่างมีระดับ ด้วยเอกลักษณ์ของผิวสัมผัสและลวดลายเฉพาะตัวไม่เหมือนใคร เพียงแค่วาง โซฟาหนังแท้ สีน้ำตาลชุดใหญ่สักชุด ก็สร้างความโดดเด่นได้แล้ว งานหนังไม่เหมือนวัสดุอื่นๆ หากได้รับการดูแลดี ยิ่งใช้ไปนานๆ ก็ยิ่งสวย การบำรุงรักษา เฟอร์นิเจอร์หนัง จึงต้องมีความละเอียดอ่อนไม่ใช่น้อย เพื่อไม่ให้เฟอร์นิเจอร์ชิ้นโปรดเสื่อมสภาพเร็วก่อนที่จะใช้ได้อย่างคุ้มค่า
หนังแท้จากธรรมชาติ เหมือนผิวพรรณของคนเราที่เปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา และต้องการการทะนุถนอมดูแลอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งเคล็ดลับการทำความสะอาดเล็กๆ น้อยๆ 5 ข้อนี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานโซฟาหนังของคุณดูดีได้นานปีเสมือนวันแรกที่คุณได้เป็นเจ้าของ
1. หลีกเลี่ยงการวางใกล้ที่มีความชื้นสูง
การจัดวางเฟอร์นิเจอร์หรือเครื่องหนังในบ้าน ต้องอยู่ในจุดที่มีสภาพแวดล้อมเหมาะสมเพื่อรักษาความชื้นที่พอดี โดยเฉพาะเมืองไทยที่อากาศร้อนชื้น มีช่วงที่ฝนตกชุก ต้องเลือกโซนวางเครื่องหนังในที่ร่ม มีอากาศถ่ายเทสะดวก สัมผัสแดดอ่อนๆ เพื่อให้แสงธรรมชาติช่วยขจัดความชื้น หลีกเลี่ยงการวางใกล้
หน้าต่าง ประตู ที่มีฝนสาด เพราะจะทำให้เฟอร์นิเจอร์หนังมีกลิ่นเหม็นอับและมีความเสี่ยงเรื่องเชื้อราที่เติบโตได้ดีกับวัสดุหนัง
2. ไม่ควรวาง เฟอร์นิเจอร์หนัง ในที่แดดจัด
แสงแดดกับงานหนังเป็นสิ่งที่ไม่ถูกกัน แม้ว่าแสงจะจำเป็นในการช่วยลดความชื้น แต่ต้องระวังไม่นำไปตากแดดแรงนานๆ ควรหลีกเลี่ยงการวางติดกับประตูหน้าต่างหรือประตูกระจก หากเลี่ยงไม่ได้ต้องติดตั้งม่านกันแสงในจุดที่แสงแดดส่องตรงๆ เพราะความร้อนจากแสงจะทำให้หนังแห้งขาดความชุ่มชื้น มีผลให้สีของหนังเข้มขึ้นและแห้งแข็งกระด้างแตกลายได้
3. หากเกิดรอยเปื้อนให้เช็ดทันที
ภาพโฆษณาขายโซฟาหนังที่เราเห็นบ่อยๆ มักจะนำเสนอการ "กวาดนิ้วเพื่อทำความสะอาด" ซึ่งแสดงให้เห็นว่า โซฟาหนังรักษาความสะอาดค่อนข้างง่าย สิ่งที่ต้องทำก็แค่เช็ดด้วยผ้าแห้งๆ อย่างน้อยสัปดาห์ละครั้งเพื่อไม่ให้ฝุ่นจับ โดยไม่ต้องใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดใดๆ หรือจะใช้แปรงทำความสะอาดเครื่องหนังนุ่มๆ ขัดเบาๆ ก็จะช่วยให้หนังไม่สกปรกและไม่ดูโทรม แต่หากเห็นรอยคราบเปื้อนต้องรีบใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นหมาดๆ เช็ดทันที มิฉะนั้นคราบจะฝังแน่นทำความสะอาดยากขึ้น ข้อควรระวังคือ ไม่ใช้ผ้าที่เปียกจนชุ่ม เพราะจะทำให้หนังดูดความชื้นเหม็นอับและเป็นรอยด่างน้ำตลอดไป ควรใช้
ผ้าไมโครไฟเบอร์ที่นุ่มและซับน้ำได้ในการเช็ดทำความสะอาด
4. เพิ่มความชุ่มชื้นเงางามด้วย wax หรือน้ำมันมะพร้าว
เฟอร์นิเจอร์หนังก็เหมือนผิวหนังของคนที่ต้องการความชุ่มชื้น แต่การทำความสะอาดด้วยน้ำยาต่างๆ หรือสภาพแวดล้อม อาจทำให้น้ำมันที่เคลือบผิวหนังตามธรรมชาติหายไป ทำให้หนังไม่เงางาม แข็งกระด้างและแตกลาย วิธีฟื้นฟูและดูแลหนังให้นุ่มและเงาอยู่เสมอ ทำได้ด้วยการปรับสภาพหนังหลังจากทำความสะอาด โดยใช้ผลิตภัณฑ์เคลือบเงา (wax) สำหรับงานหนังหรือน้ำมันมะพร้าว ชุบผ้าแห้งเช็ดให้ทั่วทิ้งไว้สักพักแล้วเช็ดออกด้วยผ้าสะอาดอย่างเบามือ จะช่วยเติมเต็มความชุ่มชื้นที่สูญเสียไป ทำให้หนังกลับมาเงางามและนุ่มขึ้น สำหรับการเลือกใช้งานผลิตภัณฑ์เคลือบเงา แนะนำให้เลือกชนิดที่ซึมง่าย ไม่กักฝุ่น ลองทดสอบกับพื้นที่เล็กๆ ก่อน โดยเฉพาะหนังที่มีสีต้องระวังเป็นพิเศษเพราะบางผลิตภัณฑ์อาจทำให้หนังสีเข้มขึ้นได้
5. ไม่วางของหนักทับเฟอร์นิเจอร์หนัง
ไม่ควรนำของที่มีน้ำหนักมากมาวางทับเฟอร์นิเจอร์หนัง อย่างเช่น
ชุดโซฟาเป็นเวลานาน เพราะจะทำให้โซฟาคืนรูปได้ยาก ในกรณีที่ต้องการทำความสะอาดโดยใช้เครื่องดูดฝุ่นก็เช่นกัน ต้องปรับแรงดูดให้เหมาะสม เพื่อไม่ให้แรงดูดดึงหนังหุ้มโซฟาจนหนังเสียรูปทรง ไม่สวยงามเช่นเดิม
เฟอร์นิเจอร์หนังแท้ จะมีสีและลวดลายเป็นสไตล์เฉพาะตัว ไม่เหมือนกันแม้แต่ชิ้นเดียว หากผ่านการดูแลรักษาอย่างถูกต้องให้อยู่ในสภาพที่ดีที่สุด เสน่ห์ของวัสดุชนิดนี้จะยิ่งเปล่งประกายออกมาให้ชวนหลงรัก และยังใช้งานได้ยาวนานสามารถถ่ายทอดความคลาสสิคจากรุ่นสู่รุ่นได้อีกด้วย