ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าโลกของเราร้อนขึ้นมากทุกวัน เท่านั้นยังไม่พอ!! ไหนจะโรคระบาด ไหนจะฝุ่นPM2.5 ทำให้ในปัจจุบัน ผู้คนหันมาใส่ใจในเรื่องสิ่งแวดล้อมและสุขภาพกันมากขึ้น รวมไปถึงบ้าน สถานที่ต้องมีความปลอดภัย เย็นสบาย และเหมาะสำหรับการพักอาศัยของเรา เพื่อสุขภาพที่ดีของสมาชิกทุกคนในครอบครัว
แต่การจะทำให้บ้านเย็นน่าอยู่นั้น นอกจากการดูแลบ้านแล้ว เราทุกคนก็ควรหันมาช่วยกันดูแลธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย วันนี้เราเลยอยากพาทุกคนมารู้จักกับการแต่งบ้านสไตล์ Eco-Friendly ซึ่งเป็นเทรนด์การแต่งบ้านที่มีความเป็นมิตรกับธรรมชาติ และมีความเป็นมิตรกับผู้อยู่อาศัย นำไปปรับใช้ได้ง่าย ไม่จำเป็นต้องรีโนเวทบ้านให้วุ่นวาย แถมยังช่วยประหยัดพลังงาน ประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีก ดีต่อใจ ดีต่อโลกแบบนี้ งั้นมาดูกันเลยดีกว่าว่าทำอย่างไรบ้าง
จัดการคัดแยกสิ่งของในบ้าน โดยคัดแยกสิ่งของที่ใช้ไม่ได้ไปทิ้ง เพื่อส่งต่อสู่กระบวนการรีไซเคิล หรือทำลายอย่างถูกต้อง ส่วนสิ่งของที่สภาพดีที่ยังใช้งานได้ ให้นำไปบริจาค ซี่งก็เป็นการช่วยลดมลภาวะจากกระบวนการกำจัดขยะได้อีกวิธีหนึ่ง และสิ่งของในบ้านพัง ให้นำไปซ่อม เพื่อเป็นการใช้สิ่งของเหล่านั้นได้อย่างคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ Eco Design แม้ว่าเราจะจำเป็นต้องซื้อเฟอร์นิเจอร์และของใช้ต่างๆ ใหม่ ก็ให้เลือกซื้อสิ่งของที่ใช้วัสดุจากธรรมชาติ วัสดุรีไซเคิล วัสดุจากท้องถิ่น รวมถึงพลาสติกรีไซเคิลที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน เพราะไม่เพียงช่วยให้บ้านสวยในสไตล์ Eco-Friendly แต่ยังเป็นมิตรต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้อีกทางหนึ่งอีกด้วย
ปลูกต้นไม้ในบ้าน เพื่อสร้างบรรยากาศสุดร่มรื่น วิธีนี้นอกจากจะทำให้บ้านของคุณดูดีขึ้นแล้ว ยังช่วยเพิ่มบรรยกาศที่ผ่อนคลายให้กับบ้าน โดยในการเลือกต้นไม้ที่เหมาะกับปลูกภายในบ้านนั้น แนะนำให้เลือกเป็นพันธุ์ไม้ที่สามารถปลูกและเจริญเติบโตในร่มได้ และปลูกต้นไม้ใหญ่ภายนอกบ้าน เพื่อช่วยสร้างความร่มรื่น และสร้างร่มเงาให้กับบ้าน ช่วยลดความร้อนจากแสงอาทิตย์ที่ส่องมายังบ้านในเวลากลางวันได้ ซึ่งนอกจากการปลูกต้นไม้จะช่วยสร้างความสดชื่นสบายตาแล้ว ยังช่วยให้อุณหภูมิภายในบ้านเย็นลง จนอาจจะไม่ต้องพึ่งเครื่องปรับอากาศในบางเวลาได้ ทั้งยังเป็นการช่วยเพิ่มปริมาณพื้นที่สีเขียว และยังเพิ่มสมดุลสภาวะอากาศให้กับโลกได้อีกด้วย
จัดโซน open air รับแสงจากธรรมชาติ ถ้านึกไม่ออกว่าอยากให้มุมไหนของบ้านเป็นโซน open air งั้นเราต้องมาดูกันว่ามุมไหนของบ้านเป็นมุมโปรดที่เราใช้เป็นพื้นที่ผ่อนคลายและใช้เวลาเยอะมากที่สุดในระหว่างวัน เช่น มุมนั่งเล่น หรือ มุมอ่านหนังสือ และที่สำคัญต้องเป็นทิศที่มีลมพัดผ่านได้ดีด้วยนะ โดยมุมที่เราจะเลือกเป็นพื้นที่ open air ควรปรับและออกแบบ ประตู หน้าต่าง ให้กว้าง สามารถเปิดรับลม รับแสงจากธรรมชาติ เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้ดี แต่ถ้าอากาศร้อนมากไป ก็อย่าลืมติดม่านกันด้วยนะ หรือถ้าที่บ้านมีพื้นที่มากพอ ก็สามารถสร้างโซน Open air ขึ้นมาใหม่เลยก็ได้ เพื่อสร้างสรรค์เป็นมุมโปรดที่สมาชิกภายในบ้านสามารถมาใช้งานได้ และเป็นช่วยการประหยัดพลังงานอีกด้วย
เปลี่ยนพลังแดดให้เป็นพลังไฟฟ้า ในเมื่อแดดมันแรงนัก ก็จับทำไฟฟ้าซะเลย ด้วยการติดแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคา (Solar Roof) ที่จะช่วยทำหน้าที่เก็บพลังงานจากแสงอาทิตย์มาแปลงเป็นกระแสไฟฟ้าเอาไว้ใช้ในบ้าน ถึงแม้วิธีนี้ต้นทุนการติดตั้งยังค่อนข้างสูง แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าเพราะสามารถช่วยให้ประหยัดค่าไฟได้ในระยะยาว หรืออาจจะเริ่มง่ายๆ โดยจากใช้โคมไฟโซลาร์เซลล์ ที่กักเก็บพลังแสงอาทิตย์ในตอนกลางวัน และส่องสว่างได้เองในตอนกลางคืน ซึ่งก็ช่วยประหยัดเงินค่าไฟ และช่วยโลกของเราในเรื่องของการใช้พลังงานหมุนเวียนอีกด้วย
เน้นใช้สี Earth Tone อีกวิธีการตกแต่งบ้านที่สำคัญไม่แพ้กันเลย ก็คือเรื่องสี ด้วยการเลือกใช้สี Earth Tone เช่น น้ำตาล เทา ขาว หรือเฉดสีอื่นๆ ที่เป็นโทนจากธรรมชาติ มาทาผนังหรือตกแต่งเพิ่มลูกเล่นให้กับบ้าน ก็สามารถสร้างบรรยากาศที่ผ่อนคลายให้กับบ้านได้ และยังช่วยสร้างความรู้สึกใกล้ชิดธรรมชาติให้กับผู้อยู่อาศัยอีกด้วย
เลือกใช้ JBP Smart Shield-X สีทาบ้านที่รักษ์โลก ปลอดภัยต่อสุขภาพ และสิ่งแวดล้อม ถ้าหากกำลังมองหาสีทาบ้านที่มีคุณภาพ ปลอดภัยต่อสุขภาพ และยังช่วยรักษ์โลก แนะนำ!! สีเจบีพี สมาร์ทชิลด์ เอ็กซ์ สีแห่งนวัตกรรมและความยั่งยืน ที่ผ่านการทดสอบมาตรฐานการยับยั้งเชื้อโรคจาก JISC ประเทศญี่ปุ่น ว่าสามารถยับยั้งการแพร่พันธุ์ ของเชื้อไวรัส แบคทีเรียและเชื้อราต่างๆ ปลอดภัยต่อสุขภาพทุกคนในครอบครัว ที่มาพร้อมกับเทคโนโลยีสะท้อนความร้อน ที่ช่วยลดอุณหภูมิภายในบ้านให้ต่ำลงได้ถึง 3-5 องศาเซลเซียส บ้านจึงเย็นสบาย แถมช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าได้อีก
และที่สำคัญ!! ยังรักษ์โลกมากกว่า ด้วยบรรจุภัณฑ์ "ถังสีรักษ์โลก” ที่ผลิตจากพลาสติกรีไซเคิล PCR เป็นรายแรกในประเทศไทย ซึ่งสามารถช่วยลดก๊าซCo2 จากกระบวนการผลิต ได้เทียบเท่าความสามารถในการดูดซับก๊าซCo2 ของต้นไม้ยืนต้น อีกทั้งยังลดการสร้างพลาสติกใหม่ ลดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติ ลดปริมาณขยะพลาสติก และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิก
เพื่อเพิ่มรายการโปรดของคุณ