เดี๋ยวนี้งานตกแต่งผนังมีหลากหลายวิธีหลากหลายวัสดุให้เลือกใช้ หนึ่งในตัวเลือกที่ง่ายและรวดเร็วกว่าการตกแต่งผนังแบบอื่นๆ คือ การเลือกใช้
วอลเปเปอร์ติดผนัง ทั้ง วอลเปเปอร์ 3d , วอลเปเปอร์ห้องนอน , วอลเปเปอร์ ลายไม้ , วอลเปเปอร์ ลายอิฐ , วอลเปเปอร์ ลายหินอ่อน ซึ่งมีเหตุผลมากมายที่ผู้คนเลือกวอลเปเปอร์มาใช้ไม่เพียงแค่ลดทอนความพกพร่องของผนัง ให้ความสวยงาม แต่ยังสามารถสื่อถึงอารมณ์ความรู้สึกได้อีกด้วย และในปัจจุบันนวัตกรรมที่ทันสมัยก็พร้อมผลิตวอลเปเปอร์จากหลากวัสดุ หลายลวดลายที่มากความรู้สึกมาตอบสนองผู้คนที่มีความชื่นชอบแตกต่างกันออกไป
HomeGuru จึงรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับวอลเปเปอร์ ตั้งแต่ประเภท วิธีเลือกใช้ เลือกซื้อ ไปจนถึงการติดตั้งวอลเปเปอร์ติดผนังด้วยตัวเองมาแนะนำ เผื่อใครกำลังมองหาวอลเปเปอร์มาตกแต่งผนังห้องกันอยู่
• มาทำความรู้จักกับวอลเปเปอร์ • ห้องหรือพื้นที่ที่ต้องการติดวอลเปเปอร์ • สไตล์ของวอลเปเปอร์ • สีของวอลเปเปอร์ • ราคาและการบริหาร • ทริคการติดวอลเปเปอร์ • มาทำความรู้จักกับ วอลเปเปอร์ติดผนัง
รู้ไหม
วอลเปเปอร์ทำมาจากอะไร? ถ้าแปลตรงตัวคือ กระดาษติดผนัง.. แต่วอลเปเปอร์ไม่ใช้กระดาษธรรมดาเขามีวิธีขั้นตอนการผลิตที่แยบยลกว่านั้น จึงมีคำเรียกให้เห็นภาพได้ว่า วัสดุบุผนัง ซึ่งเดี๋ยวนี้มีนวัตกรรมอันทันสมัยทำให้การผลิต วอลเปเปอร์ติดผนัง จากกระดาษวัสดุบุผนัง มีการผสมผสานกับส่วนประกอบอื่นๆ เข้ามาด้วย อาทิเช่น พีวีซี โฟม ไวนิล ยิปซั่ม ผ้า และเส้นใยธรรมชาติต่างๆ ทำให้วอลเปเปอร์ในปัจจุบันมีเส่หน์มากยิ่งขึ้น และมีความเหนียวแน่น มีรายละเอียดมากมาย ประกอบกับการออกแบบที่หลากหลายจึงทำให้วอลเปเปอร์เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆ ที่ผู้คนมักมองหา และไม่ยากเกินความสามารถที่จะติดตั้งได้เอง ปัจจุบันมีวอลเปเปอร์อยู่ 9 ประเภทที่วางจำหน่ายในประเทศไทย โดยแบ่งจากส่วนประกอบอื่นๆ ที่นำมาเป็นส่วนผสม อันมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ผู้ใช้ต้องพิจารณา ดังนี้
1. วอลเปเปอร์ดูเพล็กซ์ (Duplex Wallpaper)
วอลเปเปอร์ นี้เป็นวัสดุปิดผนังผลิตจากกระดาษพิมพ์ลาย สามารถเคลือบมันบางๆ บนผิวหน้าได้ เพื่อเพิ่มความสวยงาม หรือส่วนใหญ่ไม่เคลือบซึ่งเหมาะกับการผลิตเป็นวอลเปเปอร์สำหรับห้องเด็ก ด้วยเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยที่อาจมีผลข้างเคียงต่อเด็ก อีกทั้งวอลเปเปอร์ดูเพล็กซ์นี้หาซื้อได้ง่าย ราคาไม่แพง แต่เพราะทำจากกระดาษจึงไม่ทนต่อความเปียกชื้น อายุการใช้งานสั้น และลวดลายไม่มีมิติ การทำความสะอาดจึงต้องระมัดระวังเรื่องความชื้น ซึ่งอาจทำให้ วอลเปเปอร์ติดผนัง ประเภทนี้หลุดล่อนก่อนเวลาอันควร
2. วอลเปเปอร์โฟม (Foam Wallcovering)
วอลปเปอร์โฟม ทำจากวัสดุบุผนังที่ใช้กระดาษเป็นพื้นหลัง เคลือบผิวหน้าด้วยสารพีวีซี หรือโฟมพิมพ์สีแล้วอบนูนให้เป็นลวดลาย ซึ่งให้ลวดลายที่เด่นชัดสวยงาม มีมิติของลวดลาย มีความหนานุ่มแต่น้ำหนักเบา สามารถปิดบังความพกพร่องของผนังได้เรียบเนียน มีคุณสมบัติในการซับเสียง แถมยังกันความร้อนได้ดีระดับหนึ่งทีเดียว แต่ก็ต้องระวังเรื่องความชื้นด้วย การทำความสะอาดก็ง่าย โดยใช้ผ้านุ่มชุบน้ำสบู่บิดให้แห้งที่สุดเช็ดถู เช็ดซ้ำด้วยน้ำสะอาด และใช้ผ้าแห้งเช็ดให้แห้งอีกครั้ง ก็ช่วยป้องกันการดูดความชื้นของ
วอลเปเปอร์ได้ และทำให้มีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น ตัวอย่างลายที่น่าเลือกใช้ คือ วอลเปเปอร์ 3D วอลเปเปอร์ลายอิฐ วอลเปเปอร์ลายไม้
3. วอลเปเปอร์ติดผนัง แบบไวนิล (Vinyl Wallpaper)
วอลเปเปอร์ไวนิล ทำจากวัสดุบุผนังที่ผลิตจากกระดาษเคลือบผิวหน้าด้วยสารไวนิลพิมพ์สี แล้วกดลายเพื่อให้เกิดลวดลายต่างๆ โดยบางชนิดมีการทำรีจิสเตอร์ (Register) เพื่อเพิ่มลวดลายให้มีมิติ มีให้เลือกใช้ทั้งผิวมันและผิวด้าน มีคุณสมบัติไม่เก็บกักฝุ่นละออง และสามารถทำความสะอาดได้ง่ายกว่าวอลเปเปอร์ติดผนังประเภทอื่นๆ โดยไม่มีผลเรื่องความชื่น แถมยังมีลาดลายมากมายที่สามารถนำไปแมทช์ได้กับทุกพื้นที่ใช้สอย จึงเป็นที่นิยมใช้กันทั่วไป แต่สีสัน ลวดลายอาจจืดจางได้เร็วกว่าปกติหากติดในพื้นที่มีแดดส่องถึง หรือใช้ไปนานๆ ตัวอย่างลวดลายที่แนะนำ คือ วอลเปเปอร์ 3D จะให้ลวดลายภาพที่สวยคมเสมือนจริง
4. วอลเปเปอร์ภาพ (Photo Wallpaper)
วอลเปเปอร์ภาพเป็นวัสดุบุผนังผลิตจากกระดาษที่พิมพ์ลวดลายจากภาพถ่าย ภาพวาด ภาพวิวสวยงามต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นภาพคน ภาพเมือง ภาพสัตว์ ภาพสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ และความพิเศษกว่านั้นคือสามารถสั่งผลิตตามภาพถ่ายที่ต้องการได้อีกด้วย ซึ่งวอลเปเปอร์ภาพจะเป็นภาพเดียวทั้งผนัง มีความโดดเด่นของเรื่องราวที่ต่อเนื่อง แต่มีความเสี่ยงของพื้นที่ผนังที่ต้องวัดให้มีขนาดที่แน่นอน ตามขนาดของวอลเปเปอร์ถาพนั้นๆ เพื่อไม่ให้ภาพขาดเกินจะทำให้ไม่สวยงามได้
5. วอลเปเปอร์นอน วูเว่น (Non Woven Wallpaper)
วอลเปเปอร์นอน วูเว่นผลิตจากเส้นใยสิ่งทอผสมกับเส้นใยเซลลูโลส มีความเหนียวทนทาน ฉีกขาดยาก แต่น้ำหนักเบา ติดตั้งง่าย ระบายความชื้นได้ดี และสามารถลอกออกได้อย่างง่ายดายสำหรับการเปลี่ยนวอลเปเปอร์ใหม่ โดยไม่ทำลายพื้นผนังเดิมให้เสียหาย นอกจากนี้ยังช่วยลดการทำลายสิ่งแวดล้อม เพราะไม่ต้องใช้เยื่อไม้มาทำเป็นวัตถุดิบ แต่ใช้เทคโนโลยีอุตสาหกรรมปิโตเลียมแทน แต่มีข้อควรระวังในการลอกหลุดตรงบริเวณขอบ และรอยต่อ
6. วอลเปเปอร์เท็กไทล์ (Textile Wallcovering)
วอลเปเปอร์เท็กไทล์ทำจากวัสดุบุผนังที่ใช้กระดาษเป็นพื้นหลัง แล้วใช้เส้นใยธรรมชาติหรือเส้นใยสังเคราะห์ เช่น ฝ้าย ไหม โพลีเอสเตอร์ทอเป็นลวดลายบนกระดาษให้ลายที่ชัดเจน หรูหราดูแพง แต่สะสมฝุ่น ไม่ถูกกับความชื้น อาจต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษกว่าแบบอื่น และมีราคาที่ค่อนข้างสูง การทำความสะอาดควรระมัดระวังเป็นพิเศษ
7. วอลเปเปอร์ผ้า (Fabric Backing Wallpaper)
วอลเปเปอร์ผ้าทำจากวัสดุสิ่งทอเป็นพื้นหลัง แล้วเคลือบผิวหน้าด้วยสารพีวีซี ให้อารมณ์ความรู้สึกถึงผ้าอย่างแท้จริง มีความคงทนสูง ไม่ฉีกขาดง่ายเพราะทำจากผ้าจริง และยังป้องกันการกระแทกได้ดี แต่ไม่ถูกกับความเปียกชื้น หากทำความสะอาดไม่ดีอาจทำให้เกิดเชื้อราได้
8. วอลเปเปอร์ผิวหน้าไม้จริง (Wood Backing Wallpaper)
วอลเปเปอร์ประเภทนี้ผิวด้านหน้าทำมาจากไม้จริง ด้วยการใช้วัสดุธรรมชาติ เช่นไม้ไผ่ ไม้คอร์ก ให้ความรู้สึกสัมผัสที่เป็นธรรมชาติ แต่ต้องระวังเรื่องความชื้น และมีราคาที่ค่อนข้างสูง
9. วอลเปเปอร์ไฟเบอร์ (Fiber Wallpaper)
วอลเปเปอร์ไฟเบอร์แตกต่างจาก วอลเปเปอร์ติดผนัง ทั่วไป ผลิตจากแผ่นยิปซั่มรีดบางเป็นพื้นหลัง แล้วเคลือบผิวหน้าด้วยเส้นใยไฟเบอร์ที่นำมาถัดทอเป็นโครงสร้างเส้นใยแล้วทำการพิมพ์สีและลวดลาย คุณสมบัติพิเศษของพื้นหลังที่เป็นยิปซั่มสามารถป้องกันการรั่วซึมของน้ำได้ดีอีกทั้งโครงข่ายของไฟเบอร์ที่มีความเหนียวจะยึดผนังได้เป็นอย่างดี ช่วยให้ผนังไม่เกิดรอยร้าว รอยแยกได้ระดับหนึ่ง และมีราคาที่ค่อนข้างแพง นอกจากนี้ยังมี
วอลเปเปอร์สติ๊กเกอร์ อาจเรียกได้ไม่เต็มปากสะทีเดียวนัก (เพราะไม่ได้ผลิตจากกระดาษ เป็นเทคนิคการพิมพ์ลวดลายบนแผ่น PVC (สติ๊กเกอร์) สามารถลอกไปติดบนผนังได้เลย) แต่ก็เป็นที่นิยมใช้กันมาก เพราะมีลวดลายน่ารักมากมาย และหลากหลายขนาดให้เลือกใช้ ราคาไม่ย่อมเยา หาซื้อง่ายอีกด้วย เมื่อทำความรู้จักประเภทของวอลเปเปอร์กันไปแล้ว เชื่อว่าหลายคนคงมีประเภทวอลเปเปอร์ที่ชื่นชอบในใจไว้แล้ว แต่ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ ลองพิจารณาข้อมูลต่อไปนี้อีกสักหน่อย เป็นเกร็ดเล็กน้อยในการเลือกซื้อวอลเปเปอร์ที่จะทำให้คุณเลือกได้อย่างไม่ผิดพลาด
• ห้องหรือพื้นที่ที่ต้องการติดวอลเปเปอร์
แนะนอนคุณต้องรู้แล้วล่ะว่าต้องการติดวอลเปเปอร์ในห้องใดบ้าง ดังนั้นควรวัดขนาดพื้นที่ในส่วนที่ต้องการติดว่ามีพื้นที่เท่าไหร่ เพราะจะเป็นคำถามแรกๆ ที่พนักงานขายจะถามคุณ หากห้องเล็กแนะนำให้เลือกวอลเปเปอร์สีอ่อน ส่วนห้องที่ดูใหญ่เกินไปก็สามารถเลือกสีเข้มๆ เพื่อให้ห้องดูเล็กลงได้ วิธีนี้รวมถึงลวดลายเล็กใหญ่บนวอลเปเปอร์ด้วย หากเลือกลวดลายใหญ่ๆ ติดในพื้นที่เล็กแคบก็จะทำให้ดูเล็กลงไปอีก หรือลวดลายเล็กๆ ติดในห้องกว้างๆ นอกจากจะมองไม่ค่อยเห็นลวดลายแล้วจะยิ่งทำให้ห้องดูใหญ่โตเข้าไปอีก หรือถ้าเป็นห้องที่มีเพดานต่ำเลือกวอลเปเปอร์ที่เป็นลายแนวตั้งจะทำให้ห้องดูสูงขึ้นมาทันที
• สไตล์ของ วอลเปเปอร์ติดผนัง
นอกจากประเภทของวอลเปเปอร์แล้ว ยังมีสไตล์ให้เลือกอีกมากมายในแบบที่คุณอาจเลือกไม่ถูกเลยทีเดียว เพราะฉะนั้นลองกำหนดสไตล์เอาไว้ก่อน โดยอ้างอิงเฟอร์นิเจอร์ในห้องนั้นๆ ด้วย เพื่อไม่ทำให้เฟอร์นิเจอร์ถูกกลืนหายไป หรือไม่เข้าพวก สไตล์ของวอลเปเปอร์ลวดลายที่มีวางจำหน่ายทั่วไป เช่น ลายคลาสสิก ลายวินเทจ ลายคอนเทมโพรารี่ ลายโอเลียนทัล และลายธรรมชาติ โดยเฉพาะลายธรรมชาตินี้ก็แบ่งออกตามประเภทอีกมากมาย อาทิ วอลเปเปอร์ลายไม้ วอลเปเปอร์ลายอิฐ วอลเปเปอร์ลายหินอ่อน วอลเปเปอร์ลายดอกไม้ ใบไม้ สิงห์สาลาสัตว์ฯลฯ
• สีของวอลเปเปอร์
สีในที่นี้ก็คือ สีส่วนใหญ่ของผนังห้อง ในกรณีที่คุณเลือกติดวอลเปเปอร์บางผนัง ไม่ทุกผนังในห้อง อีกทั้งรวมถึงสีของเฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งต่างๆ ในห้องนั้นด้วย เพื่อให้ง่ายต่อการเลือกสีสัน และลวดลายของวอลเปเปอร์ให้ไปด้วยกันได้อย่างสวยงาม
• ราคาและการบริหาร
ราคาของวอลเปเปอร์คุณอาจรู้มาคร่าวๆ แล้วจากประเภทของวอลเปเปอร์ชนิดต่างๆ ตามคุณสมบัติ ซึ่งหากคุณเป็นคนที่ชอบการเปลี่ยนแปลง ไม่ชอบความจำเจ แนะนำให้เลือกวอลเปเปอร์ติดผนังราคากลางๆ ที่คุณพร้อมจะลอกออกเปลี่ยนใหม่ได้ตลอดเวลา หรือคุณมีความสุขกับการตกแต่งแค่เพียงโยกย้ายเฟอร์นิเจอร์ไปตามจุดต่างๆ หรือซื้อบางชิ้นเข้ามาเติมแต่ง คุณก็สามารถจ่ายเพิ่มกับวอลเปเปอร์ที่ชื่นชอบในราคาพร้อมติดตั้งที่คุณรับได้ก็สะดวกดี ทั้งนี้การเลือกซื้อวอลเปเปอร์ยังขึ้นอยู่กับอีกหลายปัจจัย แต่ถ้าคุณตอบความต้องการของตัวเองได้ตามที่แนะนำไปแล้วก็จะทำให้คุณเลือกซื้อวอลเปเปอร์ติดผนังได้ง่าย และสนุกขึ้นได้ และเรายังมีทริคการติดตั้งวอลเปเปอร์แบบง่ายๆ ทำเองได้มาฝากท้ายนี้ด้วย
ทริคการติด วอลเปเปอร์ติดผนัง
1. เตรียมพื้นที่สำหรับติดวอลเปเปอร์ ด้วยการสำรวจพื้นผนังว่ามีรอยคราบนูนของเศษปูนฉาบ ขุย
สีทาผนัง หรือรูตะปู หัวตะปู และแม้แต่รอยสติ๊กเกอร์เก่าๆ ก็ควรทำความสะอาดอุดร่องรอยให้ผิวสัมผัสเรียบเนียนเสียก่อน 2. เตรียมวัดพื้นที่เพื่อตัดวอลเปเปอร์ตามขนาด โดยการตัดต้องตัดเผื่อไว้ประมาณ 5 ซม. เช่น ต้องการที่ความยาว 90 ซม. ต้องวัดตัดที่ 95 ซม. เผื่อไว้สำหรับต่อลายนั่นเอง 3. เมื่อวัดตัดวอลเปเปอร์เสร็จเรียบร้อยแล้ว เตรียมพลาสติกหรือกระดาษอะไรก็ได้ที่ไม่ใช่กระดาษหนังสือพิมพ์ มาปูรองวอลเปเปอร์เพื่อทากาว 4. ผสมกาวลาเท็กกับน้ำเล็กน้อยให้เข้ากัน หรือใช้กาววอลเปเปอร์ผสมสำเร็จ แล้วนำไปทาให้ทั่วด้านหลังวอลเปเปอร์ แนะนำให้ทาทีละแผ่นเพราะกาวอาจแห้งได้หากต้องเสียเวลาในการติดแผ่นแรก (ปัจจุบันนี้นวัตกรรมใหม่ของวอลเปเปอร์มีกาวแห้งด้านหลัง เพียงพรมน้ำก็สามารถนำไปติดผนังได้เลย) 5. ทากาวตามขอบผนัง แล้วติดวอลเปเปอร์บนผนังตามรอยมาร์ค และใช้ตัวรีดรีดวอลเปเปอร์เพื่อนำอากาศออกให้เรียบเนียน แล้วใช้คัดเตอร์กรีดตัดวอลเปเปอร์ส่วนเกินออก ทำแบบนี้จนกว่าจะครบทั้งพื้นที่ที่ต้องการ เป็นเสร็จสิ้นการติดตั้ง วอลเปเปอร์ติดผนัง
สุดท้ายนี้การติด
วอลเปเปอร์ติดผนัง ไม่ว่าจะเป็น วอลเปเปอร์ 3d , วอลเปเปอร์ห้องนอน , วอลเปเปอร์ ลายไม้ , วอลเปเปอร์ ลายอิฐ , วอลเปเปอร์ ลายหินอ่อน ด้วยตัวเอง เหมาะกับสำหรับผู้ที่มีฝีมืองานช่างอยู่บ้าง แต่ถ้าเป็นมือใหม่แกะกล่องจริงๆ แนะนำว่าควรมีผู้ช่วยสักคนจะดีกว่านะจ๊ะ แต่จะให้ดีควรมีช่างมืออาชีพ ติดตั้งวอลเปเปอร์ ที่มีคุณภาพ สวยเรียบเนียน ได้มาตรฐาน ซึ่งสามารถสอบถามเกี่ยวกับบริการติดตั้งวอลล์เปเปอร์เพิ่มเติมได้ตามข้อมูลและรายละเอียดด้านล่างนี้ได้เลยนะครับ
สอบถามบริการเพิ่มเติม Facebook : Home Service by HomePro : m.me/Homeservicebyhomepro Line : https://lin.ee/uN8D4Zl หรือ @Homeproservice
Call Center : 1284 Mobile app : https://bit.ly/372RTMT