วิธีเลือกซื้อปลั๊กไฟ ที่ได้มาตรฐาน และเหมาะกับการใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน เป็นปัญหาหนึ่งที่หลายบ้านมองข้าม เพราะทุกครั้งที่เลือกซื้อ
รางปลั๊กไฟ มักประสบปัญหาช่องน้อยจนใช้งานไม่พอ หรือช่องเยอะเกินแต่ใช้อยู่ไม่กี่ช่อง แต่อย่างที่เขาเคยว่าไว้ ยิ่งเยอะไว้ก่อน ยิ่งดี ใช้ไม่ใช้ ค่อยว่ากัน แต่จริง ๆ แล้ว ไม่ว่ารางปลั๊กไฟจะช่องมากหรือช่องน้อยนั้น ปัจจัยในการ ใช้ปลั๊กไฟอย่างถูกวิธี ยังมีปัจจัยอื่น ๆ ที่ต้องให้ความสำคัญ ซึ่ง
HomeGuru ได้รวบรวม วิธี เลือกปลั๊กไฟต้องดูอะไรบ้าง พร้อมแนะนำเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีจำนวนวัตต์ที่เหมาะสมกับประเภทของปลั๊กไฟ มาฝากทุกบ้านครับ
7 วิธีเลือกปลั๊กไฟอย่างไรให้พอดีกับการใช้งาน
ตรวจเช็คเครื่องหมายรับรอง
วิธีเลือกซื้อปลั๊กไฟ ที่มีคุณภาพและตรงตามมาตรฐาน ในปัจจุบันจำเป็นต้องมีเครื่องหมายรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หรือ ที่ถูกเรียกว่า รางปลั๊กไฟมาตรฐาน มอก. ซึ่งเป็นข้อกำหนดของมาตรฐานชุดสายพ่วง มอก. 2432 - 2555 ที่ได้กำหนดให้
สายไฟฟ้าที่ใช้ต้องเป็นไปตาม มอก.11-2553 ซึ่งเป็นมาตรฐานบังคับ ส่วนเต้าเสียบและเต้ารับต้องเป็นไปตาม มอก.166-2547 อย่าลืมสังเกต มอก. ก่อนการเลือกซื้อด้วยนะครับ
ความยาวของสายไฟพอเหมาะกับการใช้งาน
ยิ่งยาวยิ่งดี นั่นคือ คติประจำใจของ วิธีเลือกซื้อปลั๊กไฟ หรือเปล่าครับ? แต่ในความเป็นจริงแล้วควรเลือกใช้
ปลั๊กไฟที่มีความยาวพอเหมาะหรือความยาวกำลังดีกับการใช้งาน หรือก่อนการไปเลือกซื้อ แนะนำให้วัดความยาวที่คิดว่ากำลังพอดีกับการใช้งาน เพราะ หากซื้อปลั๊กไฟที่มีความยาวของสายไฟมากเกินไป จนสายไฟกองรวมๆ กัน ขณะใช้งาน จะทำให้เกิดความยุ่งยากในการใช้งาน และทำให้บริเวณจุดวางตั้งปลั๊กไฟไม่สวยงาม หรือบางครั้งอาจเกิดอันตรายแก่เด็ก หรือผู้สูงวัยภายในบ้านที่เดินผ่านไปมาให้สะดุดล้มได้
เลือกเต้ารับและม่านนิรภัยให้ปลอดภัย
อีกหนึ่ง วิธีเลือกซื้อปลั๊กไฟ ที่ควรคำนึงถึงคือ การเลือกดู
เต้ารับที่ดี โดยเลือกวัสดุคุณภาพที่ไม่ติดไฟ หรือคุณภาพสูง ทนความร้อนได้ ไม่ควรเลือกใช้ ปลั๊กไฟราคาถูก อีกทั้งยังควรพิจารณาในส่วนของม่านนิรภัย หรือม่านปลั๊กไฟ เพื่อช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับเด็ก ๆ ในบ้าน ที่อาจจะใช้นิ้วแหย่ หรือจิ้มลงที่ปลั๊กไฟได้ครับ
จำนวนเต้ารับ และสวิตซ์เปิด-ปิด
จำนวนเต้ารับมาก ไม่ได้หมายความว่าจะได้กำลังไฟที่มากขึ้นนะครับ เพราะหากเลือกซื้อปลั๊กไฟ 3 ช่อง ที่มีกำลังไฟ 2,300 วัตต์ กำลังไฟจะถูกเฉลี่ยในการใช้งานเมื่อมีการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายเครื่องในที่เดียว เช่น ปลั๊กไฟสามารถรองรับกำลังไฟ 2,300 วัตต์ ในขณะที่ใช้กับ
หม้อทอดไฟฟ้าที่ใช้กำลังไฟ 1,500 วัตต์และ
เครื่องปิ้งขนมปังที่ใช้กำลังไฟ 800 - 1,000 วัตต์ เมื่อลองคำนวณการใช้กำลังไฟฟ้าดูแล้ว อาจจะสูงกว่า 2,300 วัตต์ที่ปลั๊กไฟจะรองรับไว้ได้ครับ และอีกหนึ่งสิ่งสำคัญในการ ใช้ปลั๊กไฟอย่างถูกวิธี คือ การเลือกสวิตซ์เปิด-ปิดปลั๊กไฟ แบบแยกหรือแบบรวม เพราะหากบ้านไหนที่ใช้ไฟไม่เยอะ หรือใช้งานบ่อย ๆ แนะนำให้เลือกสวิตซ์เปิด-ปิดแบบรวมจะเหมาะสมกว่า แต่หากใช้ในออฟฟิศหรือคอมพิวเตอร์ทำงาน แนะนำให้เลือกใช้สวิตซ์แบบแยก เพราะอุปกรณ์พ่วงบางอย่างไม่ได้ใช้งานเป็นประจำ การปิด
สวิตซ์ในส่วนที่ไม่ได้ใช้งานจะช่วยเซฟค่าไฟได้ครับ
ระบบตัดไฟ หรือ เซอร์กิตเบรกเกอร์
อีกหนึ่งจุดสำคัญในการเลือกซื้อปลั๊กไฟที่ได้คุณภาพ ไม่ใช่ ปลั๊กไฟราคาถูก นั้น จำเป็นต้องสังเกต หรือเช็คก่อนว่าปลั๊กไฟตัวนั้น มีเซอร์กิต
เบรกเกอร์ หรือระบบตัดไฟให้หรือไม่ เพราะหากมีการใช้กระแสไฟฟ้าที่สูงเกินกว่าสายไฟจะรับไหว อาจทำให้เกิดความร้อนสะสมและสร้างความเสียหายต่อสายไฟได้ รวมไปถึงอุปกรณ์
เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กำลังใช้งานอยู่อาจเกิดความเสียหายทันที ซึ่งหากตัวปลั๊กไฟมีเซอร์กิตเบรกเกอร์จะช่วยลดความกังวลใจเรื่องไฟไหม้ ไฟลัดวงจรลงได้ เพราะตัวเซอร์กิตเบรกเกอร์จะทำหน้าที่ตัดกระแสไฟฟ้าออกจากระบบโดยอัตโนมัติ หรือฟิวส์จะขาดเพื่อตัดกระแสไฟครับ
การรับประกันสินค้า
ถึงแม้
ปลั๊กไฟจะเป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถใช้ได้ยาวนาน มีมอก. แต่หนึ่ง วิธีเลือกซื้อปลั๊กไฟ ที่ไม่ควรมองข้ามอีกหนึ่งเรื่อง คือ การรับประกันสินค้า เพราะหากวันหนึ่งปลั๊กเกิดใช้งานไม่ได้ ทุกบ้านสามารถแจ้ง เคลมสินค้าให้ทางบริษัทตรวจสอบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันที หรือสามารถเปลี่ยนหรือได้รับสินค้าตัวใหม่มาใช้งานทดแทนก็เป็นได้ ซึ่งในปัจจุบันระยะเวลาในการรับประกันปลั๊กไฟในแต่ละแบรนด์มีไม่เท่ากันนะครับ ระยะเวลาต่ำสุดจะอยู่ที่ 1 ปี หรือรับประกันสูงสุดถึง 10 ปี แล้วแต่รุ่น และแบรนด์ของปลั๊กไฟที่คุณเลือกใช้
ฟังก์ชันเสริมพิเศษกับช่อง USB
การพัฒนาสินค้าในกลุ่มของ
ปลั๊กไฟ ในปัจจุบันมีการนำเอานวัตกรรมใหม่เข้ามาเพื่อเป็นฟีเจอร์เสริมเพื่ออำนวยความสะดวกสบายให้กับการใช้งานของทุกคนในครอบครัว และเหมาะกับไลฟ์สไตล์ของคนในยุคปัจจุบันเป็นอย่างมากครับ ที่เห็นได้ชัดเจนคือ มีการเพิ่มช่องชาร์จไฟ USB ที่สามารถเสียบชาร์จโทรศัพท์มือถือได้เลย โดยไม่ต้องหาหัวปลั๊กไฟมาเสียบให้ยุ่งยาก ส่วนใหญ่แล้วจะสามารถเสียบโทรศัพท์ใช้งานได้ประมาณ 2-4 เครื่องกำลังดีครับ
ปลั๊กไฟแบบไหนปลอดภัย ใช้ได้นาน
แน่นอนว่า ปลั๊กไฟราคาถูก มักจะมีระยะเวลาในการใช้งานที่สั้น แถมความปลอดภัยยังค่อนข้างต่ำ การให้ความสำคัญกับการเลือกใช้
ปลั๊กไฟที่มีคุณภาพ และได้มาตรฐาน จึงเป็นเรื่องจำเป็น ซึ่งนอกจากจะพิจารณาจากกำลังวัตต์ และคุณสมบัติที่กล่าวไว้ข้างต้นแล้ว การพิจารณาเลือกซื้อแบรนด์ที่ได้คุณภาพจะช่วยให้ง่ายต่อการตัดสินใจซื้อได้เช่นกันครับ อย่างในท้องตลาดมีหลากหลายแบรนด์ให้เลือกใช้ตามความเหมาะสม และตามประเภทการใช้งานนะครับ เช่น รางปลั๊กไฟ
HomePro มีให้เลือกตั้งแต่ PANASONIC , DATA , ELEKTRA , ANITECH , TOSHINO ครับ ซึ่งรุ่นปลั๊กไฟที่
HomeGuru อยากแนะนำในวันนี้คือ
1. รางปลั๊กไฟ 3 ช่อง 3 สวิตช์ 2 USB ELEKTRA
เป็น รางปลั๊กไฟ
HomePro ที่สามารถรองรับกำลังไฟฟ้า 10A 2,500 วัตต์ และได้รับการรับรองมาตรฐาน มอก. ทุกชิ้นส่วน ตั้งแต่
เต้าเสียบแบบกลม เบรคเกอร์นิรภัย ตัดเมื่อใช้ไฟเกิน พร้อมเต้ารับมีม่านนิรภัย กันนิ้วมือเด็ก พร้อมระบบสายดินผ่านมาตรฐาน และรองรับการใช้งาน USB Charger ได้ถึง 2 ช่อง เพื่อความสะดวกสบาย ตัวรางปลั๊กมีความหนา และทนความร้อนสามารถใช้งานร่วมกับ
เครื่องใช้ไฟฟ้าได้หลากหลายประเภท วัสดุครับ
2. รางปลั๊กไฟ 6 ช่อง 1 สวิตซ์ ELECKTA RD-6101 3 ม. สีขาว
ELECKTA เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ออกแบบรางปลั๊กไฟมาเพื่อตอบโจทย์การใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะใช้ภายในบ้าน หรือภายนอกบ้าน อย่าง รางปลั๊กไฟ ELECKTA รุ่นนี้ ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งานมากขึ้นกับสายไฟยาว 3 เมตร ดีไซน์รูปแบบทรงกลมประกอบไปด้วย 6ช่อง 1สวิตซ์ 3ขา มีขนาดกะทัดรัด สามารถพกพาได้สะดวก จัดเก็บได้ง่าย แถมปลอดภัยด้วยเบรกเกอร์มาตรฐาน ป้องกันไฟฟ้าโอเวอร์โหลด พร้อมได้รับการรับรองมาตรฐาน มอก. อีกด้วยครับ หากใครกำลังมองหาของขวัญในช่วงเทศกาลอยู่ รางปลั๊กไฟ
HomePro รุ่นนี้ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่ดีไม่น้อย
3. รางปลั๊กไฟ 3 ช่อง 3 สวิตซ์ PANASONIC WCHG 28334 3 ม.
รางปลั๊กไฟ จากแบรนด์ PANASONIC เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่ได้รับความนิยม อย่างรุ่นที่แนะนำนี้ เหมาะสำหรับใช้งานในหลากหลายพื้นที่โดยเฉพาะภายในบ้าน, อาคารสำนักงาน, คอนโด, หอพัก หรือ co-working space และต่อพ่วงอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่าง ๆ ที่มีกำลังไฟฟ้าไม่เกิน 3500 วัตต์ มีสวิตช์ควบคุมการจ่ายกระแสไฟฟ้า เพื่อให้ง่ายต่อการใช้งานในกรณีที่ไม่ได้เปิดใช้งานทุกช่อง พร้อมม่านนิรภัยป้องกันนิ้วสัมผัส ไฟฟ้าดูด โดยชิ้นส่วนโดยได้รับมาตรฐานมอก. 166-2549 และ 824-2551
4. รางปลั๊กไฟ 4 ช่อง TOSHINO ET-914 USB 3 ม.
สำหรับเจ้าของบ้านที่ต้องการความเรียบง่าย ปลอดภัย และเหมาะกับการใช้งานต่อพ่วง
อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า รางปลั๊กไฟ ของ Toshino เป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่น่าสนใจครับ อย่าง รางปลั๊กไฟ 4 ช่อง TOSHINO ET-914 USB 3 ม. ที่ รองรับกำลังไฟสูงสุด 2300 วัตต์ มีระบบป้องกันไฟกระชากและ ระบบป้องกันไฟเกิน เพื่อความปลอดภัยระหว่างการใช้งานครับ
นอกจาก
วิธีเลือกซื้อปลั๊กไฟ ให้เหมาะกับการใช้งานภายในบ้าน และปลอดภัยแล้ว ตามที่
HomeGuru กล่าวไว้ข้างต้น สิ่งสำคัญที่ทุกบ้านไม่ควรละเลยคือ การตรวจเช็คให้ดีก่อนว่าปลั๊กไฟที่เลือกซื้อไปใช้ภายในบ้านนั้น เหมาะกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่คุณใช้ด้วยหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ใช้คู่กับปลั๊กไฟที่มีกำลังไฟที่ไม่พอเหมาะ ส่งผลให้สายไฟเกิดความร้อนสูงและเกิดกระแสไฟลัดวงจรได้ครับ และไม่ควรเลือกใช้ ปลั๊กไฟราคาถูก เพราะมองว่ามีกำลังไฟฟ้าเช่นเดียวกับปลั๊กไฟที่มีราคาสูงกว่าเพียงนิดหน่อย หรือหากไม่มั่นใจในเรื่องคุณภาพก็สามารถถามข้อมูล รางปลั๊กไฟ
HomePro กับผู้เชี่ยวชาญเพื่อให้มั่นใจเรื่องความปลอดภัยและความเหมาะสมในการใช้งานซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุดจะดีกว่าครับ เราขอแนะนำ ทางเลือกดีๆ จาก Home Service ที่จะช่วยคุณปลอดภัย ไร้กังวัล จากอันตรายเรื่องไฟภายในบ้าน ทั้งเรื่องการติดตั้ง ปลั๊ก,สวิตซ์,โคมไฟ รวมไปถึงการตรวจเชคระบบไฟบ้าน
สอบถามบริการเพิ่มเติมได้ที่นี่ Facebook : Home Service by HomePro : m.me/Homeservicebyhomepro Line : https://lin.ee/uN8D4Zl หรือ @Homeproservice
Call Center : 1284 Mobile app : https://bit.ly/372RTMT