แบบห้องครัว แบบไหนที่ใช้แล้วจะเหมาะกับบ้าน และเหมาะกับการใช้งานของครอบครัว เพราะแน่นอนว่า ห้องครัวสวย ๆ ที่มีอุปกรณ์ครบครันย่อมเป็นความฝันของทุกคนที่ชอบเข้าครัวทำอาหารเอง แต่ก็ใช่ว่า แบบห้องครัวสวย ๆ ในฝันนั้นจะเข้ากับบ้านเราได้จริง ๆ ก่อนอื่นเลยอาจจะต้องลองจินตนาการดูว่าชอบครัวแบบไหน อยากให้มีฟังก์ชั่นอะไรในห้องครัวบ้าง แล้วลองเอาภาพในจินตนาการมาพิจารณาดูว่าเป็นไปได้ในพื้นที่ที่มีอยู่ไหม โดยเฉพาะใครที่มีพื้นที่ห้องครัวค่อนข้างน้อยก็อาจจะต้องใส่ใจทั้งรายละเอียดเรื่องการใช้พื้นที่ให้คุ้มค่า และใส่ใจเรื่องการ ตกแต่งห้องครัว ไม่ให้ดูอึดอัดไปด้วยในเวลาเดียวกัน ซึ่งเอาจริง ๆ ก็ไม่ได้ยากอย่างที่หลายคนกำลังคิด แค่ทำ แบบห้องครัว ตามที่
HomeGuru แนะนำกัน!
• แบบห้องครัว มีกี่แบบ? ถ้าบ้านแคบต้องเลือกแบบไหน?
1. แบบห้องครัวสวย ๆ แบบไหนที่ลงตัวกับเนื้อที่ในบ้านได้ 2. ถ้าเนื้อที่มีน้อยต้อง ตกแต่งห้องครัว ยังไงให้ดูกว้างขึ้น • แบบห้องครัวสวย ๆ แบบไหนที่ลงตัวกับเนื้อที่ในบ้านได้
เชื่อกันไหมว่า
ห้องครัวสวย ๆ ใคร ๆ ก็มีได้ไม่ไกลเกินเอื้อม แต่ความสวยแบบห้องครัวในฝันที่พูดถึงก็ต้องอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง โดยความเป็นจริงข้อแรกเลยที่ต้องนำมาพิจารณาคือเรื่องของขนาดพื้นที่ห้องครัวที่จะเป็นตัวกำหนดได้ว่าบ้านของเราเหมาะกับ แบบห้องครัว แบบไหน และต้อง ตกแต่งห้องครัว ยังไงให้เติมเต็ม หรือแก้ปัญหาที่เกิดจากข้อจำกัดต่าง ๆ ได้ ซึ่งโดยทั่วไปแล้วแบบห้องครัวจะแบ่งออกได้เป็น 5 ประเภทด้วยกัน
1. แบบห้องครัวตัว I หรือ One Wall Kitchen
ลักษณะจะเป็นห้องครัวแบบที่อยู่ชิดติดกับผนังด้านใดด้านหนึ่งไปเลยด้านเดียว ส่วนอีกด้านเว้นโล่งไว้สำหรับเป็นทางเดิน ซึ่งก็ควรมีความกว้าง 90 ซม. ขึ้นไปเพื่อจะได้มีพื้นที่ทำครัวสะดวก ๆ ในขณะที่เคาน์เตอร์ครัวควรมีความลึกตามมาตรฐาน 60 ซม. แต่จัดวางตำแหน่งของข้าวของต่าง ๆ ให้หยิบจับได้ง่าย ๆ เรียกว่าเป็น แบบห้องครัวสวย ๆ ที่เหมาะกับครัวที่มีพื้นที่ไม่มากนัก ห้องครัวในคอนโดมิเนียม หรือห้องครัวที่ทำอาหาร’ทานเองไม่บ่อยมากนัก และหากยังพอเหลือพื้นที่ว่างก็อาจจะนำโต๊ะอาหารเล็ก ๆ มาเสริมเพื่อประหยัดพื้นที่ในบ้านไปด้วยเลยก็ได้
2. แบบห้องครัวตัว L
ห้องครัวสวย ๆ ยอดฮิตอีกแบบหนึ่งที่หลาย ๆ บ้านนิยมใช้งาน คือ ห้องครัวแบบตัว L ที่มีพื้นที่กว้างขึ้นมาอีกนิด หรือมีความกว้างไม่ต่ำกว่า 2 x 2.5 ม. โดยลักษณะของครัวตัว L ก็เป็นแบบรูปร่างตัว L เลย คือ มีการจัดวางเคาน์เตอร์แบบเข้ามุมด้านใดด้านหนึ่งเพื่อให้ส่วนกลางของห้องโล่ง ๆ ใครที่มีเนื้อที่บ้านประมาณนี้ แต่ไม่ค่อยทำอาหารบ่อยนัก ครัวแบบนี้ก็น่าจะตอบโจทย์แล้วล่ะ
3. แบบห้องครัวตัว U
แบบห้องครัว ยอดฮิตแบบที่ 3 คือ ห้องครัวแบบตัว U ที่ใครชอบทำอาหารและมีพื้นที่ห้องครัวเหลือ ๆ กว้างสัก 2.5 x 3 ม. ขึ้นไปต้องตกหลุมรักห้องครัวรูปแบบนี้แน่นอน เพราะทั้ง 3 ด้านของห้องครัวจะถูกล้อมรอบไปด้วยเคาน์เตอร์ที่สามารถจัดเก็บข้าวของเครื่องใช้ทั้งอุปกรณ์ทำอาหาร เครื่องปรุง เครื่องใช้ไฟฟ้า และภาชนะต่าง ๆ ได้อย่างจุใจ แถมยังเหลือพื้นที่ว่างให้เตรียมอาหารได้แบบจุก ๆ หรือจะ ตกแต่งห้องครัว ให้ออกมาสวยเหมือนครัวในฝันแค่ไหนก็ย่อมได้
4. แบบห้องครัวคู่ขนาน หรือ Galley Kitchen
ห้องครัวสวย ๆ ในดวงใจของใครหลายคนที่ตกแต่งให้ออกมาดูสวยได้หลากหลายสไตล์ แถมมีพื้นที่ให้ใช้งานได้สะดวกสุด ๆ เพราะแบบห้องครัวแบบ Galley Kitchen จะเป็นห้องครัวแบบที่มีเคาน์เตอร์ครัวอยู่ชิดติดผนังทั้ง 2 ด้านแบบคู่ขนานกันไปตามความยาวของห้องโดยเว้นทางเดินตรงกลางเอาไว้ ซึ่งความกว้างตรงส่วนทางเดินนี้ควรมีความกว้างอย่างน้อย 1.2 ม. ห้องครัวบ้านไหนที่มีพื้นที่ทั้งด้านยาวและด้านลึกจึงนิยมใช้ครัวรูปแบบนี้มากที่สุด แต่ข้อควรระวังของครัวรูปแบบนี้ คือ ควรเว้นช่องแสงไว้ให้มากกว่าครัวแบบอื่น ๆ เพราะหากผนังห้องครัวเป็นแบบทึบ หรือติดตั้งตู้แขวนเต็มพื้นที่ทั้งสองด้านก็อาจจะทำให้ห้องครัวดูมืดทึบจนเกินไปได้
5. แบบห้องครัวแบบมีเกาะกลาง หรือ Island
ห้องครัวที่มี Island หรือเกาะกลางตรงกลางของห้อง ถือเป็น
แบบห้องครัวสวย ๆ ที่หลายคนใฝ่ฝัน มักจะเห็นได้ตามแมกกาซีนห้องครัวสวย ๆ หรือตามครัวของต่างชาติที่มีพื้นที่กว้าง ๆ โดยห้องครัวประเภทนี้สามารถประยุกต์ใช้ร่วมกับแบบห้องครัวก่อนหน้าอีก 4 แบบได้ตามใจชอบ เช่นเดียวกับส่วนของ Island ที่สามารถประยุกต์เป็นพื้นที่ใช้สอยได้หลากหลายแบบ ทั้งพื้นที่เตรียมอาหาร พื้นที่ติดตั้งเตาไฟฟ้าเพื่อปรุงอาหาร หรือแม้แต่พื้นที่รับประทานอาหารในช่วงเวลาเร่งด่วนที่ไม่จำเป็นต้องไปใช้เวลากับการจัดเตรียมโต๊ะอาหารมากนัก หรือบางบ้านอาจจะใช้เป็นบาร์ชิลล์ ๆ กลางห้องก็ยังได้ เหมาะกับไลฟ์สไตล์สมัยใหม่สุด ๆ
• ถ้าเนื้อที่มีน้อยต้อง ตกแต่งห้องครัว ยังไงให้ดูกว้างขึ้น
รู้จัก แบบห้องครัวสวย ๆ ทั้ง 5 แบบ กันไปแล้ว หลาย ๆ คนก็คงพอรู้กันแล้วว่าพื้นที่ครัวที่บ้านของตัวเองนั้นเหมาะกับห้องครัวรูปแบบไหน หรือแบบไหนตอบโจทย์และใกล้เคียงกับห้องครัวในจินตนาการที่วาดภาพไว้มากที่สุด ซึ่งใครที่มีพื้นที่ห้องครัวน้อยอาจจะยังกังวลว่าห้องครัวที่ออกมาจะดูแคบ หรือทึบตันเกินไป เรื่องนั้นไม่ต้องกังวลเลย เพราะนอกจาก แบบห้องครัวสวย ๆ แล้ว เรายังมีเทคนิคดี ๆ ที่จะช่วยให้ห้องครัวแคบ ๆ ดูกว้างขึ้นด้วย
1. ออกแบบชุดครัวให้ตอบโจทย์ที่สุด
ขั้นตอนแรกของคนที่รู้ตัวแล้วว่าจำเป็นต้องใช้ห้องครัวในพื้นที่จำกัดจริง ๆ การสำรวจและออกแบบชุดครัวขนาดเล็กให้ออกมาครอบคลุมและตอบโจทย์การใช้งานของคนในครอบครัวมากที่สุดเป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ เพราะในเมื่อมีพื้นที่ไม่มากนัก ฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่จะใช้งานก็อาจจะต้องเป็นแบบมัลติฟังก์ชั่นให้มากที่สุด เช่น พื้นที่จัดเก็บข้าวของเครื่องใช้ต่าง ๆ ที่อาจจะต้องอยู่ใต้เคาน์เตอร์ หรือเลือกใช้พื้นที่จัดเก็บแนวตั้งบนผนัง เพื่อไม่ให้ไปทับซ้อนกับเนื้อที่ในการเตรียมอาหาร ซึ่งก็จะแตกต่างกันไปตามไลฟ์สไตล์ของแต่ละคนอีกว่าทำอาหารหนักเบาหรือบ่อยแค่ไหน เพราะบางคนชอบทำอาหารแบบจัดหนักจัดเต็ม หรือบางคนอาจจะแค่ต้องการพื้นที่ครัวไว้อุ่นอาหารเท่านั้นเอง
2. วางแปลนชุดครัวที่ต้องการ
อย่างที่บอกไปแล้วว่าแปลนห้องครัวนั้นมีมากถึง 5 แบบให้เลือกใช้งาน แต่ด้วยข้อจำกัดของขนาดพื้นที่บางบ้านก็อาจจะเลือกใช้ได้เฉพาะครัวขนาดเล็กอย่างครัวตัว I หรือครัวตัว L ซึ่งแม้ว่าครัวตัว L จะมีพื้นที่ใช้สอยมากกว่าครัวตัว I ก็จริง แต่ก็ยังต้องมาลองประเมินขนาดพื้นที่กันดูให้ดีว่าหากจะทำครัวแบบตัว L แต่เป็นตัว L แบบหางสั้น ๆ แบบนั้นจะใช้พื้นที่ได้จริงไหม และจะคุ้มค่ากับงบประมาณที่ต้องจ่ายไปหรือเปล่า
3. ซ่อนฟังก์ชั่นการใช้งานไว้ให้แนบเนียน
อีกหนึ่งวิธีเพิ่มพื้นที่การใช้งานในครัวแคบ ๆ ให้มากขึ้นนั่นคือการดีไซน์ครัวให้สามารถใช้งานได้หลากหลายด้วยการซ่อนฟังก์ชั่นการใช้งานอื่น ๆ เอาไว้ เช่น โต๊ะอเนกประสงค์สำหรับจัดเตรียมอาหารหรือใช้เป็นพื้นที่’ทานอาหารที่สามารถเลื่อนเก็บไว้ใต้เคาน์เตอร์ได้เมื่อไม่ใช้งาน เป็นต้น นอกจากจะช่วยประหยัดพื้นที่ได้ดีแล้ว ยังทำให้ครัวดูเจ๋งสุด ๆ เลยด้วย
4. เลือกโทนสีที่ใช่ให้ห้องครัวดูเย็น
เรื่องของโทนสีที่ใช้ใน
ห้องครัวก็มีผลอย่างมากต่อเรื่องของอารมณ์ความรู้สึก ถ้าอยากให้ห้องครัวแคบ ๆ ดูปลอดโปร่ง ไม่อึดอัดหรือทึบตันก็ควรจะเลือกใช้สีผนังหรือสีเคาน์เตอร์ครัวโทนสว่างอย่างสีโทนเย็นและสีเอิร์ธโทน เช่น สีขาว สีครีม สีเปลือกไข่ สีฟ้าอ่อน สีเขียวอ่อน เป็นต้น
5. เพิ่มความสว่างด้วยแสงไฟ
ความเล็กและแคบของห้องครัวอาจจะทำให้เกิดความมืด ทึบ จนทำให้รู้สึกอึดอัด แต่การเพิ่มแสงสว่างอย่างการติดตั้งไฟ LED ให้กับชุดครัว ไม่ว่าจะติดตั้งใต้ตู้ลอยหรือในชั้นวางของก็ช่วยให้ห้องครัวดูสว่างไสว ดูปลอดโปร่ง ไม่อึดอัด ช่วยให้การทำอาหารสะดวกสบายขึ้น และยังเข้ากับ ห้องครัวสวย ๆ ทุกสไตล์
6. กระจกเงาเพิ่มความกว้าง
ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่าการ
ตกแต่งห้องครัว ด้วยกระจกเงาจะช่วยหลอกตาให้ห้องครัวขนาดเล็กดูกว้างขึ้นได้ แถมยังให้ความรู้สึกสวยงามหรูหรา และทำความสะอาดง่ายดายสุด ๆ
7. เพิ่มความสดชื่นด้วยต้นไม้
อีกสิ่งหนึ่งที่จะช่วยให้ห้องครัวขนาดเล็กดูสบายตา น่าใช้งาน และดูสดชื่นขึ้นมาได้ด้วยวิธีง่าย ๆ คือการ ตกแต่งห้องครัว ด้วยต้นไม้ต้นเล็กต้นน้อย สีเขียวของต้นไม้เหล่านี้จะช่วยให้เกิดความรู้สึกผ่อนคลาย และยังช่วยให้ห้องครัวดูโปร่ง โล่ง สบายตาขึ้นมาไม่น้อยเลย
8. จัดข้าวของในครัวให้เป็นระเบียบเสมอ
ต่อให้ออกแบบ ห้องครัวสวย ๆ มาเป๊ะปังขนาดไหน แต่ถ้าใช้งานนาน ๆ ไป แล้วปล่อยให้รกเลอะเทอะก็หมดกัน! ไม่ว่าจะเป็นห้องครัวขนาดเล็กหรือห้องครัวขนาดใหญ่ก็ดูรกตา ไม่น่าใช้งานแน่นอน เพราะฉะนั้นออกแบบครัวสวยมาทั้งที ต้องไม่ปล่อยให้ครัวรกกันนะ!
การออกแบบห้องครัวเป็นเรื่องสำคัญเพราะ แบบห้องครัว จะเป็นตัวกำหนดฟังก์ชั่นการใช้งานทั้งหมด ส่วนการเลือกข้าวของเครื่องใช้และของประดับตกแต่งต่าง ๆ จะเป็นส่วนช่วยให้ ห้องครัวสวย ๆ ดูน่าใช้งานมากขึ้นไปอีก ดังนั้น ไม่ว่าจะเป็นชุดครัว เครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว ภาชนะใส่อาหารหรือเครื่องดื่ม รวมไปถึงของตกแต่งต่าง ๆ อย่าลืมเลือกใช้ของที่มีคุณภาพดี ครบเครื่องทั้งดีไซน์และฟังก์ชั่นกันด้วยนะ โดยทั้งหมดที่ว่ามานี้สามารถหาซื้อได้ง่าย ๆ ที่โฮมโปรสาขาใกล้บ้าน หรือช้อปผ่านทางออนไลน์แค่คลิก
www.homepro.co.th สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ทาง HomePro Call Center โทร 1284