สายแคมป์ปิ้งที่รักการเดินทางเป็นชีวิตจิตใจ ต้องยอมรับว่า
เต็นท์นอน คืออุปกรณ์สำคัญของการตั้งแคมป์ โดยเฉพาะการเดินทางไปป่าหรือสถานที่ที่ห่างไกลผู้คน โดยการเลือกซื้อเต็นท์แต่ละแบบก็ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ทั้งขนาดของเต็นท์ วัสดุที่ใช้ รูปทรง รวมไปถึงอุปกรณ์พื้นฐานต่าง ๆ ซึ่งหากเป็นการตั้งแคมป์ของคู่รัก การเลือกใช้ เต็นท์นอน 2 คน ก็ถือว่าเพียงพอ แต่หากไปเป็นกลุ่มเพื่อนก็อาจต้องเลือกใช้ขนาดที่ใหญ่ขึ้น เช่น เต็นท์นอน 6 คน โดยในวันนี้
HomeGuru จะพาคุณมาดูวิธีการเลือกซื้อเต็นท์ที่โดนใจสายแคมป์ปิ้งโดยเฉพาะ
การออปทริปและ
ตั้งแคมป์ นับว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมของคนยุคใหม่ที่ได้รับความนิยมสูง เพราะฉะนั้น การเลือกซื้อเต็นท์จึงสำคัญ ไม่น้อยไปกว่าการวางแผนออกทริป
1. เต็นท์นอน มีกี่แบบให้เลือกใช้ 2. อุปกรณ์พื้นฐานที่เต็นท์ควรมี 3. เทคนิคการเลือกซื้อ เต็นท์นอน ฉบับสายแคมป์ปิ้ง 4. สายตั้งแคมป์ต้องรู้ เลือกใช้เต็นท์ให้เหมาะสมในแต่ละทริป เต็นท์นอน มีกี่แบบให้เลือกใช้
1. เต็นท์โดม Dome Tent
นับว่าเป็นเต็นท์พื้นฐานสำหรับนักเดินทาง เพราะไม่ว่าจะออกทริปแบบไหนก็สามารถใช้เต็นท์โดมได้ ข้อดีของเต็นท์ประเภทนี้คือ มีน้ำหนักค่อนข้างเบา กางเต็นท์ง่าย ไม่จำเป็นต้องใช้สมอบก สามารถกาง เต็นท์นอน 2 คน ไปจนถึง 3 คน ได้สบาย ๆ
2. เต็นท์สปริง หรือ Pop-Up
เป็นเต็นท์ที่ตอบโจทย์สำหรับสายชิลโดยเฉพาะ เนื่องจากไม่ต้องมานั่งกางเต็นท์ให้เมื่อย แค่รูดซิปแล้วดึงออกจากกระเป๋า เพียงเท่านี้เต็นท์ก็จะกางให้โดยอัตโนมัติทีนที แต่ข้อจำกัดคือ แข็งแรงน้อยกว่าเต็นท์โดม ซึ่งเต็นท์ประเภทนี้มีหลายขนาดให้เลือก ตั้งแต่ 1 - 2 คน ไปจนถึง เต็นท์นอน 6 คน
3. เต็นท์สูบลม
นับว่าเป็นอีกหนึ่ง เต็นท์นอน 2 คน ที่เหมาะสำหรับสายชิล เพราะไม่ว่าจะเดินทางไปไหนก็กางเองได้ง่าย ๆ เพียงแค่สูบลมเข้าไปในเต็นท์ก็เป็นอันเสร็จสิ้น และถึงแม้ว่าจะมีความสะดวกในการใช้งาน แต่ก็ยังมีข้อจำกัดอยู่บ้าง เช่น น้ำหนักที่มากกว่าเต็นท์ชนิดอื่น ต้องพกที่สูบลมตลอดเวลาที่ออกทริป และรองรับคนได้เพียง 1 – 2 คน
4. เต็นท์แบบเคบิน หรือเต็นท์แบบบ้าน
หากต้องการเดินทางไปแคมป์ปิ้งแบบครอบครัว เต็นท์แบบเคบินถือว่าตอบโจทย์ เนื่องจากเป็น เต็นท์นอน 6 คน ที่ค่อนข้างกว้าง บางรุ่นรองรับได้สูงถึง 12 คน เป็นเต็นท์ที่มีขนาดใหญ่ แข็งแรง ทนแดน ทนฝน แบ่งสัดส่วนภายในได้ แต่ข้อจำกัดคือค่อนข้างหนัก
5. เต็นท์อุโมงค์
มีลักษณะยาวและลึกคล้ายอุโมงค์ ข้อดีของเต็นท์ชนิดนี้คือ สามารถนอนพักผ่อนได้หลายคน มีพื้นที่กว้างขวาง ไม่ว่าจะมีสัมภาระมากขนาดไหนก็ไม่หวั่น เรียกได้ว่าเป็น เต็นท์นอน 4 คน ที่ตอบโจทย์ก๊วนเพื่อนสายแคมป์ปิ้งโดยเฉพาะ
6. เต็นท์นอน 2 คน หรือเต็นท์สำหรับแบ็คแพ็ค
เป็นเต็นท์ที่ตอบโจทย์สายแบ็คแพ็คเกอร์โดยเฉพาะ ถูกออกแบบมาให้มีน้ำหนักเบา เก็บง่าย กันลมได้พอประมาณ วัสดุทุกอย่างเบา ในขณะที่การใช้สอยยังคงอรรถประโยชน์เช่นเดิม ซึ่งข้อเสียของเต็นท์ชนิดนี้ก็คือ มีขนาดที่เล็กและแคบ รองรับการนอนได้เพียง 1 – 2 คน
7. เต็นท์แบบกึ่งถุงนอน
สำหรับคนที่ชอบท่องเที่ยวแต่ไม่อยากหอบของพะรุงพะรัง ชวนเพื่อนแล้วก็โดนเทจนต้องหอบกระเป๋าออกไป
แคมป์ปิ้งเหงา ๆ คนเดียว เต็นท์แบบกึ่งถุงนอนถือว่าตอบโจทย์มากที่สุด เพราะมีลักษณะคล้ายถุงนอน มีพื้นที่ให้ขยับตัวได้ กันยุงและแมลงได้ ซึ่งข้อดีนอกจากการพกพาสะดวก ก็คือ สามารถนอนดูดาวได้ชิล ๆ
8. เต็นท์กระโจม เต็นท์นอน 3 คน
เป็นเต็นท์ที่มียอดแหลม ๆ คล้ายกับกระโจม ใช้เสาตรงกลางเต็นท์เพียงต้นเดียว เป็นเต็นท์ที่กางง่าย มีความน่ารัก และดูมินิมอล แต่ข้อเสียคือ ค่อนข้างหนักและอาจเสี่ยงที่จะโดนน้ำเข้าได้
9. เต็นท์ทรงจีโอโดสิคโดม
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งรูปแบบของเต็นท์ทรงโดม โดยตัวเต็นท์ใช้เสาพาดข้าง ช่วยทำให้มีความแข็งแรงมากกว่าเดิม มีพื้นที่ภายในมากขึ้น แต่กางยากกว่าเต็นท์ชนิดอื่น ๆ เหมาะสำหรับมือโปรสายแคมป์ปิ้งโดยเฉพาะ
อุปกรณ์พื้นฐานที่เต็นท์ควรมี
• โครงเต็นท์ และเสาเต็นท์ ต้องมีความแข็งแรงและยืดหยุ่น เพราะมีความสำคัญเมื่อกางเต็นท์
• ตัวเต็นท์ ใช้ยึดกับตัวโครง มีขนาดแตกต่างกันออกไป อาทิ เต็นท์นอน 3 คน
• ผ้าคลุมด้านบน หรือฟลายชีท มีหน้าที่ป้องกันน้ำค้างเกาะ ช่วยบังแดด และป้องกันน้ำฝน
• ผ้าปูพื้น ใช้เป็นผ้าปูรอง เต็นท์นอน ช่วยปกป้องพื้นเต็นท์และกันน้ำซึมเข้าภายในเต็นท์
• หมุดตอก หรือสมอบก ใช้สำหรับขึงและยึดเต็นท์ไว้กับพื้น มีหลากหลายแบบให้เลือกใช้ • เชือกขึง ใช้มัดเต็นท์ให้เข้าที่หลังจากกางเต็นท์แล้ว
เทคนิคการเลือกซื้อ เต็นท์นอน ฉบับสายแคมป์ปิ้ง
1. สถานที่แคมป์ปิ้ง
สถานที่ไม่ใช่แค่ทำให้เรารู้พื้นที่และผิวดินสำหรับกางเต็นท์เท่านั้น แต่ยังทำให้รู้ว่าสภาพอากาศเป็นอย่างไรด้วย โดยเฉพาะเรื่องของฝนฟ้าอากาศ เช่น หากคุณเดินทางไปสถานที่ที่ฝนตกบ่อย มีความชื้นสูง ต้องใช้เต็นท์ที่สามารถกันน้ำได้และต้องมีผนัง 2 ชั้น เพราะนอกจากน้ำแล้ว ต้องเผื่อกรณีที่มีสัตว์เลื้อยคลานหรือสัตว์มีพิษชนิดต่าง ๆ ด้วย
2. ขนาดของเต็นท์
นับว่าสำคัญมาก ๆ ของการเดินทางในแต่ละครั้ง เพราะหากเต็นท์มีขนาดไม่พอดีกับจำนวนคนที่ต้องนอน ก็อาจจะทำให้เกิดปัญหาตามมา ซึ่งหากเป็นทริปที่ออกเดินทาง 2 – 3 คน ก็สามารถใช้ เต็นท์นอน 3 คน ได้ แต่ถ้าหากเป็นการแคมป์ปิ้งในกลุ่มเพื่อนหรือครอบครัว ก็ควรเลือกใช้ เต็นท์นอน 4 คน ขึ้นไป
3. การระบายอากาศ
นอกเหนือจากขนาดของเต็นท์ การระบายอากาศก็เป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบที่สำคัญ ซึ่งเต็นท์แต่ละรุ่นก็จะมีการระบายอากาศที่แตกต่างกันออกไป บางรุ่นก็มี 2 หน้าต่าง 2 ประตู บางรุ่นอาจมีทางเข้า-ออก เพียงทางเดียว
4. รูปแบบการกางเต็นท์
ถือว่าเป็นอีกหนึ่งโจทย์ที่สำคัญ โดยเฉพาะมือใหม่หัดแคมป์ปิ้ง ก็ต้องดูก่อนว่าวิธีการกางเต็นท์ง่ายหรือไม่ เหมาะสำหรับตัวเองไหม เช่น เต็นท์แบบสปริง เต็นท์แบบเสาธรรมดา
5. งบประมาณ
สุดท้ายแล้ว การจะเลือกซื้อ เต็นท์นอน ก็ต้องมาดูว่าเรามีงบเพียงพอต่อรุ่นที่ต้องการซื้อหรือไม่ เพราะเต็นท์แต่ละแบบก็มีราคาที่ต่างกันออกไป รวมถึงวัสดุที่ใช้ทำด้วย
สายตั้งแคมป์ต้องรู้ เลือกใช้เต็นท์ให้เหมาะสมในแต่ละทริป
1. เน้นแคมป์ปิ้ง นั่งชิล ๆ สบาย ๆ
หากเป็นสายแคมป์ปิ้งจ๋า ๆ เน้นความชิล สบาย ไม่ซีเรียสอะไรมาก เต็นท์ที่ใช้ก็ควรทำจากวัสดุที่ดี ทนทาน โดยเฉพาะเต็นท์ทรงจีโอโดสิคโดม เพราะถึงแม้จะมีน้ำหนักมาก แต่ก็แลกมากับความแข็งแรงและตอบโจทย์กับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การนั่งทำอาหารกินร่วมกันกับก๊วนเพื่อน
2. สายแบ็คแพ็ค ง่าย ๆ เน้นการเดินทาง
ถ้ารู้ตัวว่าเป็นสายแบ็คแพ็ค เต็นท์ที่ควรมีติดตัวก็ควรมีน้ำหนักเบา ใช้งานง่าย เพราะสายแบ็คแพ็คเกอร์จะต้องเอาสิ่งของเครื่องใช้ต่าง ๆ ใส่ลงในกระเป๋า ดังนั้น เต็นท์ที่เหมาะสมก็ต้องมีน้ำหนักเบาและไม่กินพื้นที่ อย่างเช่น เต็นท์สปริง หรือ Pop-Up
3. สายเดินป่า อยู่กับธรรมชาติ
สำหรับสายเดินป่าคงรู้ดีว่าเต็นท์คือหัวใจสำคัญ เพราะนอกจากเต็นท์แล้ว ต้องแบกรับน้ำหนักจากสัมภาระต่าง ๆ ในการเดินป่าด้วย ดังนั้น เต็นท์ที่ใช้ต้องทนน้ำ ทนแดด มีความแข็งแรง กันแมลงและสัตว์เลื้อยคลานได้ เช่น เต็นท์นอน 4 คน ประเภทเต็นท์โดม
4. สายเทศกาลดนตรี
ถ้าเป็นสายชิลและชอบการออกทริปแคมป์ปิ้งไปกับเทศกาลดนตรี เต็นท์ที่ควรเลือกใช้ต้องระบายอากาศได้ดี กันน้ำและรังสี UV กางง่าย ไม่ยุ่งยาก แต่ก็ต้องป้องกันยุงและแมลงได้ด้วย เช่น เต็นท์นอน 3 คน แบบ Pop-Up
5. สายรักครอบครัว
ถ้าเป็นครอบครัวที่ชอบเดินทางไปพักผ่อนในวันหยุดสุดสัปดาห์ เน้นกิจกรรมง่าย ๆ แต่ได้ใช้เวลาร่วมกันในวันหยุดพักผ่อน เต็นท์ที่เหมาะสมคือ เต็นท์ที่มีความกว้าง แข็งแรง ไม่ต้องกังวลเรื่องน้ำหนัก เช่น เต็นท์นอน 6 คน แบบเคบิน หรือเต็นท์แบบบ้าน
การเลือกซื้อ เต็นท์นอน แต่ละแบบให้ถูกจริตสายแคมป์ปิ้งนั้น สิ่งที่สำคัญไม่ใช่แค่การเลือกใช้ให้ถูกทริป แต่ต้องรวมไปถึงจำนวนคนที่ใช้และวัสดุของเต็นท์ด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ สิ่งที่ขาดไม่ได้คือ ควรจะมีเต็นท์สำรองทุกครั้งที่เดินทาง เพื่อให้พร้อมรับมือกับทุก ๆ สถานการณ์ในระหว่างการตั้งแคมป์ ทั้งนี้ หากคุณอยากจะเลือกซื้อ เต็นท์นอน 4 คน, เต็นท์นอน 2 คน และหรือขนาดใหญ่จุใจที่รองรับได้ถึง 12 คน ก็สามารถเข้ามาเลือกซื้อได้ที่ HomePro เพราะเรามีทั้งเต็นท์ราคาสุดประหยัด และอุปกรณ์แคมป์ปิ้งอีกมากมายให้เลือกสรร