พื้นโรงรถ เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยเสริมให้บ้านมีเสน่ห์ และน่ามอง ไม่แพ้พื้นที่ภายในบ้าน เพราะถือเป็นหน้าตาของบ้าน หรือประตูด่านแรกที่เพื่อนบ้านหรือแขกที่มาเยือนจะมองเข้ามาครับ การออกแบบพื้นโรงจอดรถ ให้แข็งแรง และเลือกใช้ วัสดุปูพื้นโรงรถ ให้เหมาะสมจึงเป็นเรื่องที่ทุกบ้านควรคำนึงถึงนะครับ แต่จะเลือก พื้นโรงรถ อย่างไรให้คุ้มค่า และมีอายุการใช้งานที่ยาวนานนั้น
HomeGuru มีไอเดียมาฝากครับ
ปัญหา พื้นโรงรถ ต้องวางเสาเข็มมั้ย?
จริงๆ แล้วพื้นโรงรถจะตั้งอยู่บนโครงสร้าง หรือบนพื้นดินโดยไม่ต้องอยู่บนเสาเข็มก็ได้ครับ แต่ทั้งสองแบบจะมีข้อดี และข้อเสียที่แตกต่างกันไป อย่างพื้นโรงรถที่อยู่บนโครงสร้างเดียวกับบ้าน ข้อดีคือ พื้นไม่ทรุดตัว แต่อาจพบปัญหาในส่วนบริเวณรอยต่อพื้นดินหน้าบ้าน หรือหน้าถนนที่เป็นทางลาด (Slope) เกิดการทรุดตัว ฉีกและแตกร้าวแทนเมื่อใช้งานไปได้ระยะหนึ่ง ส่งผลให้เกิดอันตราย เมื่อต้องเดินผ่านครับ
ส่วนพื้นโรงรถที่อยู่บนพื้นดินคนละส่วนกับตัวบ้าน ส่วนใหญ่แล้วจะนิยมเทพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กหนาประมาณ 10-15 ซม. โดยไม่ให้เชื่อมกับตัวบ้าน แล้วเลือกใช้วัสดุเช่น
กระเบื้องปูทับ ซึ่งการเทราดพื้นประเภทนี้แม้จะเกิดปัญหาพื้นดินทรุดตัวเมื่อเทียบกับตัวบ้านเล็กน้อย แต่ปัญหารอยต่อระหว่างลานจอดรถกับพื้นดินบริเวณด้านหน้าจะไม่เกิดขึ้นเหมือน พื้นโรงรถ ที่อยู่บนโครงสร้างเดียวกับบ้านครับ
8 วิธีการเลือกพื้นโรงรถ แบบไหนดี
1. กระเบื้องเซรามิก
กระเบื้องเซรามิก เป็นที่เป็นที่นิยมของหลายๆ บ้าน เพราะนอกจากจะให้ความสวยงามแล้ว ยังติดตั้งง่าย และมีให้เลือกหลากหลายลาย และหลากหลายขนาดตามความต้องการของเจ้าของบ้าน แต่ข้อควรคำนึงในการเลือกกระเบื้องเซรามิกมาปูพื้นโรงรถคือ ควรเลือกกระเบื้องพื้นประเภทแกรนิตโต้ ที่มีพื้นผิวหยาบ เพื่อป้องกันการลื่น แถมยังมีความแข็งแรง ทนทานมากกว่ากระเบื้องเซรามิกประเภทอื่นๆ ครับ
2. คอนกรีตเปลือย
หากบ้านของคุณตกแต่งด้วยสไตล์ลอฟท์ โทนสีเทาเข้ม หรือปูนเปลือย การเทพื้นโรงรถด้วยวัสดุคอนกรีตเปลือยจะช่วยส่งเสริมให้บ้านมีเอกลักษณ์โดดเด่นเพิ่มยิ่งขึ้น ข้อดีของพื้นผิวของคอนกรีตเปลือย คือเจ้าของบ้านสามารถออกแบบได้ตามความชอบว่าจะเป็นพื้นผิวแบบหยาบ ขัดมัน หรือพิมพ์ลายบนพื้นปูน ประกอบกับพื้นคอนกรีตยังง่ายต่อการดูแลรักษา ทำความสะอาดง่าย แต่ทั้งนี้ต้องใช้ช่างที่มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบ และก่อสร้าง เพราะต้องมีการเตรียมพื้นผิวให้เรียบ ไม่เป็นหลุม รวมถึงต้องผสม
ปูน ทราย และหิน ให้ได้มาตรฐาน 1 : 1.5 : 3 เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา พื้นแตกร้าว และพื้นผิวหน้าปูนหลุดล่อนได้
3. คอนกรีตพิมพ์ลาย หรือแสตมป์คอนกรีต
เป็นวัสดุปูพื้นที่ให้ความรู้สึกเสมือนหินธรรมชาติ มีหลากหลายแบบให้เลือก หลายๆ บ้านจึงนิยมใช้ตกแต่งพื้นภายนอกบ้านพื้นโรงรถเพราะไม่เพียงแต่เพิ่มความสวยงาม โดดเด่นให้กับบ้านเท่านั้น แต่ยังมีความทนทาน รองรับน้ำหนักได้ดี ผิวไม่ลื่น ดูแลรักษาง่าย ไม่เกิดตะไคร่น้ำ แถมราคาไม่สูงเมื่อเทียบกับพื้นคอนกรีตชนิดอื่นๆ
4. กรวดล้างทรายล้าง
เป็น
วัสดุปูพื้นโรงรถ ที่เหมาะกับพื้นภายนอก เพราะมีพื้นผิวขรุขระ และป้องกันการลื่นของเด็กๆ และผู้สูงวัยได้ โดยสามารถเลือกขนาดของเม็ดกรวด สี และลวดลายได้ตามความชอบ การเทราดพื้นต้องอาศัยช่างที่มีความชำนาญในการผสม
ปูนซีเมนต์ขาว กับเม็ดกรวด ในระดับที่เหมาะสมเพื่อป้องกันการแตกร้าวภายหลังการใช้งาน เนื่องจากพื้นชนิดนี้ยากต่อการดูแลรักษาและซ่อมแซม และที่สำคัญต้องเคลือบ
น้ำยาป้องกันการสะสมตะไคร่ตามซอกเม็ดหินอยู่สม่ำเสมอด้วยนะครับ
5. หินแกรนิต
แม้จะเป็นหินธรรมชาติ ที่มีราคาสูง แต่ก็ได้รับความนิยมพอๆ กับพื้นคอนกรีตพิมพ์ลาย เพราะด้วยคุณสมบัติของพื้นผิวที่มีลักษณะผิวหยาบเรียบ และมีความแข็งแรง ทนทาน ดูแลรักษาง่าย จึงเหมาะกับการนำมาปูพื้นโรงรถ แต่แนะนำให้เลือกหินแกรนิตที่มีความหยาบ และความหนากว่าหินแกรนิตโดยทั่วไปประมาณ 3-4 นิ้ว นะครับ โดยก่อนการติดตั้งแนะนำให้เคลือบ
น้ำยาป้องกันเชื้อรา และสิ่งสกปรกต่างๆ เพื่อยืดอายุการใช้งานของวัสดุครับ
6. บล็อกคอนกรีตปูพื้น และกระเบื้องคอนกรีต
เป็นวัสดุปูพื้นโรงรถ และพื้นที่ภายนอกบ้านที่มีหลายขนาด หลายรูปทรงและลวดลายให้เลือกใช้ เป็นวัสดุที่ใช้งานง่ายผลิตจากคอนกรีต จึงมีความแข็งแรง สามารถปูได้ทั้งบนพื้นดิน และบนพื้นคอนกรีตเสริมเหล็ก เพื่อป้องกันการยุบตัวเนื่องจากต้องรับน้ำหนักมาก อย่างพื้นโรงรถภายในบ้าน แต่เจ้าของบ้านสามารถประเมินพื้นที่บริเวณที่จะปูพื้นโรงรถก่อนได้ครับว่าจะใช้บล็อกคอนกรีตปูพื้น หรือกระเบื้องคอนกรีต เช่น หากเป็นพื้นดินเก่าสามารถใช้บล็อกคอนกรีตปูทับได้เลยโดยไม่ต้องหล่อพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กใหม่ให้เสียเวลา แต่หากพื้นเป็นพื้นคอนกรีตเสริมเหล็กอยู่แล้ว แนะนำให้ใช้กระเบื้องคอนกรีตติดตั้งได้เลยครับ
7. พื้นยางปูพื้น
อีกหนึ่งทางเลือกใหม่ในการปูพื้นโรงรถเพราะติดตั้งง่าย สะดวกและรวดเร็วสามารถทำเองได้ด้วยตนเอง แถมมีหลายลวดลายให้เลือกใช้ เช่น พื้นยางลายไม้ พื้นยางผิวลายหิน แต่ต้องเลือกพื้นยางที่มีความหนาอย่างน้อยประมาณ 3 เซนติเมตร เพื่อเพิ่มความแข็งแรง และรับน้ำหนักของรถได้ การติดตั้งก็พื้นยางปูพื้นไม่ยากครับเพียงใช้กาวเป็นตัวสมานแผ่นพื้นยาง แล้วรอให้แห้งก็จะได้พื้นโรงรถที่สวยงามตามความต้องการแล้วครับ
8. อีพ๊อกซี่
ส่วนใหญ่นิยมใช้กับ พื้นโรงรถ ที่อยู่ภายในอาคาร เพราะจะช่วยส่งเสริมให้บ้านมีความโดดเด่น และสวยงามมากยิ่งขึ้น สีพื้นประเภทนี้มีให้เลือกหลายเฉดสีตามความต้องการ โดยก่อนการเทสีแนะนำให้ปรับพื้นผิวเดิมให้เรียบเสียก่อน เมื่อผิวเดิมเรียบแล้วสามารถเทสีให้มีความหนาตามความเหมาะสมได้เลยครับ
ข้อดีของพื้นอีพ๊อกซี่คือ ทนต่อแรงกระแทก และสามารถป้องกันการรั่วซึมของคราบน้ำไม่ให้ไหลมาสู่พื้นได้ ทำความสะอาดง่าย แต่ส่วนใหญ่แล้วจะไม่ค่อยเห็นตามบ้านพักอาศัยทั่วๆ ไป มักพบเห็นพื้นโรงรถชนิดนี้ตามห้างสรรพสินค้า และร้านล้างรถ
การออกแบบพื้นโรงรถที่ดี หลังจากเลือกวัสดุปูพื้นโรงรถได้แล้ว HomeGuru แนะนำให้ทำพื้นสโลปเพื่อให้ง่ายต่อการระบายน้ำด้วยนะครับ
แม้ว่าจะมี วัสดุปูพื้นโรงรถ ให้เลือกใช้อย่างหลากหลาย และคุณสมบัติแตกต่างกันไป ตามที่
HomeGuru ได้กล่าวไว้ข้างต้น แต่ความทนทานของ พื้นโรงรถ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับการเลือกวัสดุในการปูพื้นเพียงอย่างเดียวนะครับ ยังขึ้นอยู่กับหลายๆ ปัจจัยประกอบกันเช่น การออกแบบพื้นที่ สภาพภูมิอากาศ รวมถึงการใช้งาน และดูแลรักษาของเจ้าของบ้านด้วย ดังนั้นจึงไม่ควรมองข้ามพื้นโรงรถ อีกหนึ่งพื้นที่ที่ช่วยเสริมให้บ้านมีเสน่ห์ และน่ามองยิ่งขึ้นครับ
สอบถามบริการเพิ่มเติม Inbox เพจ Home Service by HomePro : m.me/Homeservicebyhomepro Line : https://lin.ee/uN8D4Zl หรือ @Homeproservice
Call Center 1284