คงปฏิเสธไม่ได้ว่า
“ฝักบัว” เป็นไอเท็มสำคัญของห้องน้ำที่ทุกบ้านต้องมี และใส่ใจเลือกสรรให้ตอบโจทย์กับความต้องการใช้งาน แต่สิ่งสำคัญยิ่งกว่าที่
HomeGuru อยากแนะนำให้ทุกบ้านใส่ใจ และไม่ควรมองข้ามเลย คือการหมั่นดูแลรักษา และแก้ไขปัญหาเล็กๆน้อยๆ ให้
“ฝักบัว” มีอายุการใช้งานที่ยาวนานยิ่งขึ้น ด้วยหลากหลายเคล็ดลับที่ง่ายดาย และทำได้ด้วยตนเองมาฝากกันครับ
ฝักบัวเป็นคราบตะกรัน
คราบตะกรัน หรือคราบสกปรกบนฝักบัว เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นเมื่อมีการใช้งานฝักบัวมาได้ระยะหนึ่ง ซึ่งส่งผลให้ประสิทธิภาพในการใช้งานฝักบัวลดน้อยลง คือ น้ำไหลช้า และเบาลงเพราะเกิดการอุดตัน ซึ่งคุณแม่บ้าน และคุณพ่อบ้านสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้ด้วยตนเอง เพียงหาของใช้ภายในบ้านมาเป็นตัวช่วย
- น้ำส้มสายชู เป็นส่วนผสมที่สารพัดประโยชน์ เพราะนอกจากจะใช้ประกอบอาหารแล้ว ยังสามารถนำมาขจัดคราบตะกรันบนฝักบัวได้ เนื่องจากมีคุณสมบัติเป็นกรด กัดกร่อนคราบตะกรัน และสิ่งสกปรกต่างๆ แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับวัสดุของฝักบัวด้วย เช่น ฝักบัวถอดได้ที่ทำจากโลหะ สามารถนำไปต้มในน้ำส้มสายชูได้เลยประมาณ 15 นาที แต่ถ้าเป็นฝักบัวที่ทำจากทองเหลือง นิกเกิ้ล หรือทอง สามารถนำไปแช่โดยไม่ต้องต้ม เพียงแช่ทิ้งไว้ประมาณ 30 นาที เมื่อครบตามเวลาที่กำหนดให้ล้างด้วยน้ำสะอาด และใช้แปรงสีฟันขัดคราบที่ยังเกาะอยู่ แล้วเปิดน้ำเพื่อไล่คราบตะกรันให้หลุดออกครับ
- ยาสีฟัน สามารถใช้ทำความสะอาดฝักบัวได้ทุกประเภท แต่จะใช้ได้ดีกับฝักบัวแบบยาง ง่ายๆ เพียงบีบ หรือป้ายยาสีฟันลงบนหัวฝักบัวที่มีคราบตะกรัน แล้วใช้แปรงสีฟันขัดเบาๆ ทิ้งไว้สักพัก แล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด ก็จะช่วยให้ฝักบัวดูสะอาดขึ้นครับ
- เบกกิ้งโซดา มีประโยชน์ในการขจัดคราบตะกรันไม่แพ้น้ำส้มสายชู เพียงนำเบกกิ้งโซดาในอัตรา 1/3 ถ้วยตวง ผสมกับน้ำส้มสายชู 1 ถ้วยตวง แล้วนำหัวฝักบัวลงไปแช ทิ้งไว้ประมาณ 3 ชั่วโมง เมื่อครบเวลาให้นำแปรงมาขัด และเปิดน้ำเพื่อไล่คราบตะกรัน และสิ่งสกปรกหมดไป วิธีการเดียวกับการใช้น้ำส้มสายชูเลยครับ
ฝักบัวเป็นสนิม
คราบสนิมมักเกิดขึ้นกับวัตถุที่เป็นโลหะ โดยเฉพาะอุปกรณ์ในห้องน้ำอย่างฝักบัว ที่ต้องโดนน้ำ และความชื้นอยู่ทุกวัน หรือบางครั้งเกิดจากการระเหยของน้ำยาล้างห้องน้ำที่มีฤทธิ์ความเป็นกรดสูง ซึ่งทำลายผิวโครเมียม หรือผิวเคลือบของอุปกรณ์ภายในห้องน้ำ ทำให้เกิดคราบสนิมได้ง่ายยิ่งขึ้น ดังนั้นหลังทำความสะอาดห้องน้ำแล้ว ต้องอย่าลืม!! ทำความสะอาดอุปกรณ์ในห้องน้ำทั้ง ฝักบัว ก๊อกน้ำ สายฉีดชำระ เพื่อล้างไอระเหยของน้ำยาล้างห้องน้ำให้สะอาด ด้วยน้ำสะอาด หรือของใกล้ตัวอย่างน้ำส้มสายชู ยาสีฟัน ขัดทำความสะอาดเหมือนดั่งวิธีทำความสะอาดคราบตะกรันบนฝักบัวที่กล่าวไว้ข้างต้น แล้วเคลือบด้วยน้ำยาเคลือบผิวโครเมียม เพื่อช่วยเพิ่มความเงางาม ทนทานต่อสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลง และป้องกันการเกิดสนิมได้ครับ
“แต่ทั้งนี้สิ่งสำคัญในการดูแลรักษา ทำความสะอาดอุปกรณ์ภายในห้องน้ำอย่างฝักบัวให้มีอายุการใช้งานที่ยาวยิ่งขึ้น ทุกๆบ้านควรเลือกใช้น้ำยาทำความสะอาดให้ถูกประเภทการใช้งาน ไม่ควรนำเอาน้ำยาล้างห้องน้ำที่มีฤทธิ์ความเป็นกรดไปราด และเช็ดลงบนฝักบัว เช่นเดียวกับการทำความสะอาดพื้น เพราะจะเกิดการกัดกร่อน และเกิดเป็นสนิมขึ้นได้ครับ”
ฝักบัวไหลไม่แรง
ปัญหานี้คงเป็นเรื่องหงุดหงิด และสร้างความรำคาญใจระหว่างอาบน้ำของทุกคนในบ้าน ซึ่งสามารถแก้ไขได้หากรู้สาเหตุ เบื้องต้นหากดูแล้วว่าในช่วงเวลาที่อาบน้ำไม่ได้มีการใช้น้ำในหลายๆจุดพร้อมกัน จนทำให้ส่วนจ่ายน้ำแรงไม่ทั่วถึง หรือท่อประปาแรงดันน้ำไม่แรง ขนาดปั๊มน้ำไม่พอต่อปริมาณการใช้งาน ควรให้ตรวจสอบที่ฝักบัวทันที เพราะอาจเกิดจากการอุดตันของสิ่งสกปรก ตะกอนต่างๆ ที่มากับน้ำ โดยสามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีง่ายๆ ครับ
- ถอดหัวฝักบัวไปแช่น้ำยาทำความสะอาด หรือน้ำยากันสนิมเพื่อทำความสะอาด โดยให้สังเกตที่แหวนยางรอบฝักบัวด้วยว่าชำรุดหรือไม่ หากชำรุดให้เปลี่ยนใหม่ทันที
- หลังจากนั้นให้นำเข็ม หรือไม้จิ้มฟันมาแทงตามรูน้ำบริเวณหัวฝักบัว แล้วใช้แปรงสีฟันขัดเบาๆ เพื่อให้ตะกอนต่างๆ หลุดร่อนออกมา ซึ่งวิธีนี้จะช่วยให้น้ำไหลแรงมากขึ้นครับ
ฝักบัวน้ำหยด
แม้ว่าจะปิดฝักบัวสนิทหลังจากการอาบน้ำเรียบร้อยแล้วทุกครั้ง แต่เจ้าของบ้านควรสังเกตบริเวณหัวฝักบัวด้วยว่ามีน้ำหยดลงมาตลอดเวลาหรือไม่ เพราะหากบ้านไหนใช้น้ำผ่านปั้มน้ำ จะเป็นการสิ้นเปลืองทั้งไฟ และน้ำ เพราะปั๊มน้ำจะทำงานทั้งวัน ดังนั้นควรรีบหาสาเหตุเพื่อแก้ไข ด้วยวิธีการง่ายๆ ครับ
โดยทั่วไปแล้วสาเหตุที่ฝักบัวมีน้ำหยดตลอดเวลา มักเกิดจาก สต๊อปวาล์วน้ำรั่ว ให้ลองถอดหัวฝักบัวออก แล้วลองเปิด – ปิดน้ำ หากปิดสต๊อปวาล์วน้ำสนิทแล้วน้ำยังคงไหลอยู่ แสดงว่าปัญหาไม่ได้อยู่ที่ฝักบัว แต่เป็นที่สต๊อปวาล์วน้ำภายในห้องน้ำที่อาจเสื่อมสภาพ เบื้องต้นสามารถแก้ไขได้โดย
- เปลี่ยนสต๊อปวาล์วน้ำใหม่ที่หาซื้อได้ตามทั่วๆไป แล้วใช้เทปพันที่เกลียวสต๊อปวาล์ว
- หลังจากนั้นให้ถอดสายฝักบัวที่ต่อกับสต๊อปวาล์วเดิมออกด้วยประแจ พร้อมกับถอดสต๊อปวาล์วที่ติดอยู่กับผนังออกด้วยประแจ โดยหมุนทวนเข็มนาฬิกาจนหลุดออกมา
- นำสต๊อปวาล์วที่ซื้อมาใหม่ ที่พันเทปเรียบร้อยแล้วใส่กลับเข้าไปใหม่ให้แน่นโดยใช้ประแจเป็นเครื่องมือช่วยหมุน
- หลังจากนั้นให้นำเทปพันรอบเกลียวข้อต่อของสายฝักบัวก่อนต่อสาย แล้วทดลองเปิดปิดน้ำอีกครั้งว่าน้ำหยดอยู่หรือไม่ เป็นอันเสร็จครับ
แม้การอาบน้ำด้วยฝักบัว จะช่วยชำระล้างร่างกายในแต่ละวันให้สะอาดแล้ว แต่หากมองข้ามเรื่องการดูแลรักษา และทำความสะอาดฝักบัวที่มีคราบตะกรัน คราบสนิม และสิ่งสกปรกต่างๆ ที่เป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรคก็อาจนำไปสู่การเกิดโรคปอดอักเสบ ที่เกิดจากเชื้อแบคทีเรียที่ผสมกับสารคลอรีนในน้ำ ของคนในครอบครัวได้นะครับ ดังนั้นจึงควรหมั่นสังเกตสิ่งเล็กๆ ในทุกๆพื้นที่ของบ้านที่จำเป็นต่อการใช้งานในชีวิตประจำวันให้สะอาด และไม่ชำรุดอยู่เสมอ
หากต้องการเปลี่ยน หรือติดตั้งฝักบัว เราช่วยคุณได้! ติดต่อสอบถามเกี่ยวกับบริการติดตั้งอุปกรณ์ห้องน้ำเพิ่มเติมได้ที่ Inbox เพจ Home Service by HomePro : m.me/Homeservicebyhomepro Line : https://lin.ee/uN8D4Zl หรือ @Homeproservice
Call Center 1284