โซฟาเลอะ เป็นปัญหาหนึ่งที่ทำให้บรรยากาศโดยรวมภายในบ้านดูแย่ ไม่ว่าจะเป็น โซฟาผ้า หรือ โซฟาหนัง ที่แม้จะมีราคาแพง หรือจะตกแต่งห้องให้สวยงามขนาดไหนก็ดูไม่น่าพักผ่อน อีกทั้งหลายคนอาจพบว่าการทำความสะอาดโซฟาแต่ละครั้งดูเป็นเรื่องใหญ่ที่มีขั้นตอนยุ่งยากและต้องใช้แรงเยอะ โดยเฉพาะการ ทำความสะอาดโซฟาผ้า แบบที่ไม่สามารถถอดซักได้ แต่จริง ๆ แล้วปัญหา โซฟาเลอะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่เลยถ้ารู้วิธีทำความสะอาดที่ถูกต้องแบบที่ HomeGuru นำมาฝากกัน
หลาย ๆ คนที่ใช้งานโซฟาแบบผ้าอยู่คงจะติดใจผิวสัมผัสของโซฟาผ้าที่ให้ความรู้สึกอบอุ่น นุ่มนิ่ม น่าซุกตัว ซึ่งเป็นเสน่ห์เฉพาะตัวของโซฟาผ้าอยู่ไม่น้อย แต่หากเราดูแลโซฟาผ้าได้ไม่ดีก็อาจกลายเป็นแหล่งสะสมฝุ่น ขนสัตว์ แมลงรบกวน คราบเปื้อนจากอาหารและสิ่งสกปรกต่าง ๆ ได้มากเป็นอย่างคาดไม่ถึง รวมถึงการทำความสะอาดโซฟาผ้าแบบผิดวิธีอาจทำให้เนื้อผ้าเสียหายไปเลยก็ได้ การทำความสะอาดโซฟาผ้าตัวโปรดจึงต้องใส่ใจเป็นพิเศษ แต่จะใช้วิธีไหนได้บ้างมาดูกัน
ขั้นตอนแรกที่หลาย ๆ คนละเลยไปคือการศึกษารายละเอียดของ โซฟา แต่ละตัว เพราะโซฟาแต่ละตัวผลิตจากวัสดุที่แตกต่างกัน วิธีการดูแลรักษาจึงแตกต่างกันไปด้วย การทำความสะอาดแบบผิดวิธีจึงนำความเสียหายมาสู่โซฟาตัวโปรดได้ง่าย ๆ ยิ่งเป็นโซฟาที่ยังอยู่ในระยะประกันก็อาจทำให้หมดประกันได้เลย โดยในคู่มือหรือป้ายที่ติดมากับตัวโซฟามักจะมีคำเตือน คำแนะนำ สัญลักษณ์ หรืออักษรย่อที่ใช้บอกวิธีทำความสะอาดที่ถูกต้องระบุอยู่ โดยอักษรย่อบนป้ายที่ติดมากับโซฟาจะมีความหมายแตกต่างกันดังนี้
• W หมายถึง สามารถทำความสะอาดพื้นผิวของโซฟาโดยใช้น้ำได้
• S หมายถึง ไม่สามารถทำความสะอาดโดยใช้น้ำได้ จำเป็นต้องใช้น้ำยาทำความสะอาดโดยเฉพาะเท่านั้น
• WS หมายถึง สามารถทำความสะอาดโดยใช้น้ำหรือน้ำยาทำความสะอาดก็ได้
• X หมายถึง ห้ามใช้น้ำหรือน้ำยาทำความสะอาด สามารถใช้ได้เพียงเครื่องดูดฝุ่นเท่านั้น
สำหรับ โซฟาผ้า ที่สามารถถอดซักทำความสะอาดได้ การถอดปลอกหมอนและปลอกโซฟาออกมาซักด้วยมือจะปลอดภัยกับเนื้อผ้าที่สุด เพราะการนำไปซักด้วยเครื่องซักผ้าอาจทำให้เนื้อผ้าเป็นขุย หรือเสียรูปทรงได้
วิธี ทำความสะอาดโซฟาผ้า แบบที่ถอดซักไม่ได้นั้นสามารถทำได้หลากหลายวิธี แต่ทั้งนี้ต้องเลือกใช้วิธีที่ปลอดภัยสำหรับโซฟาผ้า โดยไม่ลืมเช็คเรื่องข้อจำกัดในการทำความสะอาดต่าง ๆ ที่ระบุไว้ในคู่มือหรือบนป้ายรายละเอียดที่ติดมากับโซฟา ดังที่กล่าวไปแล้วในข้อแรก
• การทำความสะอาดในบริเวณที่ไม่มีผ้าคลุม เช่น ขาของโซฟา หรือโครงโซฟา สามารถทำได้ง่าย ๆ โดยการนำผ้าชุบน้ำ บิดให้พอหมาดแล้วนำมาเช็ดทำความสะอาดให้ทั่ว หรืออาจฉีดน้ำยาฆ่าเชื้อผสมไปด้วยก็ได้
• สำหรับหมอนอิงให้นำไปแช่ในน้ำอุ่นที่ผสมน้ำยาทำความสะอาดจนหมอนชุ่ม ทิ้งไว้ประมาณ 15 นาที แล้วจึงล้างออกด้วยน้ำสะอาดพร้อม ๆ กับใช้มือกดหมอนเพื่อช่วยบีบน้ำยาให้ออกจากหมอนจนหมดก่อน หากน้ำในถังเต็มไปด้วยฟองจากน้ำยาทำความสะอาด ก็ให้เปลี่ยนน้ำสะอาดใหม่ ทำซ้ำไปเรื่อย ๆ จนแน่ใจว่าไม่มีน้ำยาตกค้างในหมอนอีกแล้วจึงค่อยนำไปตากในพื้นที่ที่ระบายอากาศได้ดี แสงแดดส่องถึง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเชื้อราในหมอน
• ทำความสะอาดโซฟาผ้า โดยผสมน้ำเย็นและน้ำอุ่นอย่างละครึ่งกับน้ำยาทำความสะอาดโซฟาโดยเฉพาะ หรือหากไม่มีน้ำยานี้ก็สามารถใช้น้ำยาทำความสะอาดเบาะรถยนต์ก็ได้เช่นกัน โดยค่อย ๆ ใช้ผ้าชุบน้ำยาให้พอหมาดเช็ดทำความสะอาดให้ทั่ว เน้นบริเวณที่ โซฟาเลอะ มีคราบสกปรกเป็นพิเศษเพื่อช่วยขจัดคราบสกปรกให้จางลง หลังจากนั้นใช้ผ้าแห้งซับความชื้นจากโซฟาอีกครั้งจนโซฟาเริ่มแห้ง อาจใช้ไดร์เป่าผมมาเป่าช่วย หรือนำออกไปตากแดดเพื่อฆ่าเชื้อโรคและป้องกันการเกิดกลิ่นไม่พึงประสงค์
• หากโซฟายังไม่ได้ดูสกปรกมากเท่าไรนัก การดูดฝุ่นเพื่อช่วยให้โซฟาผ้ากลับมาดูดีเหมือนใหม่ก็สามารถทำได้บ่อย ๆ หากเป็น โซฟาผ้า ที่มี Texture มากอาจทำอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง ส่วนโซฟาที่หุ้มด้วยผ้าที่ค่อนข้างลื่นก็อาจลดเหลือเดือนละ 2 – 3 ครั้ง โดยปัจจุบันมีทั้งเครื่องดูดฝุ่นแบบมือถือ และเครื่องดูดไรฝุ่นที่ให้ความสะดวกสบาย สามารถทำความสะอาดได้อย่างล้ำลึก ดีต่อสุขอนามัย ลดโอกาสการเกิดภูมิแพ้จากไรฝุ่นและสิ่งสกปรก
ในกรณีที่โซฟามีคราบเปื้อนต่าง ๆ หากปล่อยให้คราบอาหาร หรือคราบสกปรกเหล่านั้นติดอยู่บนโซฟาโดยไม่รีบจัดการในทันทีก็อาจทำให้เกิดคราบฝังแน่นจนยากจะทำความสะอาดในภายหลัง ดังนั้น หากพบว่ามีคราบเปื้อนโซฟาผ้าก็ต้องรีบจัดการทำความสะอาดในเบื้องต้นด้วยการใช้กระดาษ หรือผ้าสะอาดซับบริเวณที่เปื้อนทันที จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดมาซับบริเวณคราบเปื้อน เพื่อทำให้คราบเปื้อนเจือจางให้มากที่สุด หรืออาจใช้แปรงขนอ่อนช่วยแปรงขณะที่คราบเปื้อนยังเปียกชื้น โดยระวังไม่ให้เนื้อผ้าเป็นขุย และอาจใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดร่วมด้วย
• หาก โซฟาเลอะ คราบชา กาแฟ น้ำหวาน ไวน์ หรือสิ่งสกปรกต่าง ๆ ที่ทำให้เกิดคราบสีฝังแน่นให้ทำความสะอาดโดยใช้กระดาษหรือผ้าสะอาดมาซับคราบออกทันที จากนั้นนำโซดามาราดลงบนคราบเปื้อนให้พอชุ่ม ใช้ผ้าแห้งซับออก แล้วโดยเบกกิ้งโซดาลงบนคราบเปื้อน ใช้แปรงขนอ่อนขัดทำความสะอาด ทิ้งไว้สักพักจนแห้งแล้วจึงใช้เครื่องดูดฝุ่นดูดคราบที่ทำความสะอาดออก
• หาก โซฟาผ้า เลอะคราบแน่นอย่างคราบน้ำมัน คราบช็อคโกแลต หรือคราบเหนียวต่าง ๆ ให้ใช้ใช้น้ำยาทำความสะอาดแบบเหลว (Washing-up liquid) นำมาชุบแล้วถูทำความสะอาดจนน้ำยาทำความสะอาดหายไป หากคราบสกปรกยังไม่ยอมออกให้ผสมน้ำสะอาดกับแอมโมเนียในสัดส่วนเท่าๆ กัน ใช้แปรงขนอ่อนชุบแล้วแปรงบริเวณที่เปื้อนจนสะอาด
• กรณีที่เผลอทำโซฟาเลอะคราบหมากฝรั่งเหนียว ๆ ให้จัดการโดยนำน้ำแข็งในถุงพลาสติกประคบคราบหมากฝรั่งที่ติดอยู่จนหมากฝรั่งนั้นแข็งเป็นชิ้นเดียวกัน แค่นี้ก็สามารถแกะออกได้อย่างง่ายดายแล้วครับ แต่หากแกะออกมาแล้วยังทิ้งร่องรอยหลงเหลืออยู่ก็ให้ทำความสะอาดอีกครั้งด้วยน้ำสะอาด, โซดา, เบกกิ้งโซดา หรือผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดโซฟาโดยเฉพาะ
• หากบ้านไหนมีสัตว์เลี้ยง ขนของสัตว์เลี้ยงอาจหลุดร่วง ฟุ้งกระจายไปทั่วบ้าน ไม่เว้นแม้แต่บนโซฟาตัวโปรด แต่ปัญหานี้สามารถจัดการได้ง่าย ๆ โดยใช้ถุงมือยางแบบที่มี Texture ของพื้นผิว กวาดและ
หยิบขนสัตว์ออกไป จากนั้นค่อยดูดฝุ่นซ้ำอีกครังก็เรียบร้อย
โซฟาหนังถือเป็นเฟอร์นิเจอร์หลักชิ้นหนึ่งในบ้านที่ช่วยให้บ้านดูหรูหรา โอ่อ่า หรือดูเรียบง่ายแต่สุขุมได้ภายในชิ้นเดียว ขึ้นอยู่กับดีไซน์ของโซฟาตัวนั้น ๆ แต่สิ่งที่แน่นอนเรื่องหนึ่งของโซฟาหนังคือมีราคาค่อนข้างสูง โดยเฉพาะโซฟาหนังแท้ที่มีตั้งแต่ราคาหลักหลายหมื่นไปจนถึงราคาหลักล้าน การที่ต้องเห็นโซฟาหนังชำรุด ฉีกขาด หรือสกปรกจึงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ดังนั้น เรามาดูวิธีทำความสะอาดโซฟาหนังกันดีกว่า
ขึ้นชื่อว่าโซฟาหนังแท้ก็ย่อมต้องมีราคาสูง มีอายุการใช้งานยาวนาน และไม่ต้องกังวลกับการดูแลรักษาเท่ากับโซฟาแบบอื่น ๆ แต่โซฟาหนังแท้นั้นมักจะผลิตออกมาให้ไม่สามารถถอดซักทำความสะอาดได้ จึงต้องมีวิธีการดูแลโดยเฉพาะ
• วิธีที่ง่ายและสะดวกที่สุดในการดูแลโซฟาหนังแท้ คือ การใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำอุ่น บิดให้พอหมาด แล้วนำไปเช็ดทำความสะอาดคราบฝุ่น หรือคราบสกปรกต่าง ๆ ออกไป ความถี่ในการทำความสะอาดด้วยวิธีนี้ก็ไม่มาก ในรอบ 6 เดือน ทำ 1 ครั้งก็เพียงพอ
• นอกจากการดูแลเรื่องความสะอาดแล้ว การทำให้โซฟาหนังดูใหม่อยู่เสมอก็สามารถทำได้ง่าย ๆ เช่นกัน เพียงแค่ใช้ผลิตภัณฑ์ประเภทแว๊กซ์ (WAX) เคลือบเงาเพื่องานหนังโดยเฉพาะมาเช็ดถูให้ดูเงาและใหม่อยู่เสมอ ซึ่งหากโซฟานั้นตั้งอยู่ในห้องแอร์ตลอดเวลาก็สามารถเคลือบเงาประมาณ 1 ครั้งต่อปีก็เพียงพอ
หากพูดถึงโซฟาแล้ว หลาย ๆ คนอาจจะไม่ค่อยคุ้นตากับโซฟาหนังกลับมากนัก เพราะโซฟาหนังกลับไม่ค่อยได้รับความนิยมเท่าไร เนื่องจากข้อจำกัดในการดูแลรักษาที่ค่อนข้างยุ่งยากกว่าโซฟาหนังประเภทอื่น ๆ อีกทั้งยังเก็บความสกปรกได้มากกว่าโซฟาประเภทอื่น ๆ ด้วย หากบ้านไหนเลือกใช้โซฟาหนังกลับจึงต้องใส่ใจกับขั้นตอนการดูแลรักษาและทำความสะอาดเป็นพิเศษ
• การทำความสะอาดโซฟาหนังกลับนั้นควรทำบ่อย ๆ อย่างน้อยอาทิตย์ละ 1 ครั้ง เพื่อให้ความสกปรกในโซฟาตัวโปรดนี้มีน้อยที่สุด ซึ่งวิธีที่ดีที่สุดคือการใช้แปรงขนสีดำแบบที่ค่อนข้างแข็งจัดการแปรงบนพื้นผิวโซฟาไปในทิศทางเดียวกันตลอดแนว
• กรณีที่โซฟาหนังมีคราบเปื้อนมาก ๆ ให้ใช้แปรงสีฟันจุ่มลงในน้ำสบู่ให้เปียกแค่พอหมาด ๆ นำมาแปรงบริเวณที่มีคราบเปื้อนโดยแปรงไปในทิศทางเดียวกัน จากนั้นใช้ผ้าชุบน้ำบิดหมาดเช็ดทำความ
สะอาดอีกครั้ง โดยเช็ดไปในทิศทางเดียวกันเช่นกันกับขั้นตอนการแปรง
เพียงเท่านี้ปัญหา โซฟาเลอะ ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อีกต่อไป เพราะไม่ว่าจะเป็นคราบเปื้อนแบบไหนก็ไม่สามารถทำให้ โซฟาผ้า หรือ โซฟาหนัง ตัวโปรดต้องหม่นหมอง และหากใครกำลังสงสัยว่าจะไปหาซื้อผลิตภัณฑ์ดูแลเฟอร์นิเจอร์ชิ้นโปรดได้ที่ไหน HomeGuru ขอแนะนำให้ไปเลือกซื้อได้ที่โฮมโปรทุกสาขา เพราะมีสินค้าเพื่อบ้านให้เลือกกันแบบจุใจ ครบทุกเรื่องบ้านของจริง หรือจะเลือกช้อปออนไลน์ง่าย ๆ ก็แค่คลิก www.homepro.co.th และติดต่อสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมเรื่องสินค้าและบริการเพื่อบ้านได้ทาง HomePro Call Center โทร 1284
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิก
เพื่อเพิ่มรายการโปรดของคุณ