เสื้อผ้าที่เรียบร้อย ไม่มีรอยยับ สามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและทำให้คุณดูดีมากยิ่งขึ้น ดังนั้น การเลือกเตารีดดี ๆ สักเครื่องก็จะยิ่งเสริมสร้างความมั่นใจในการแต่งตัวของคุณได้มากขึ้น โดยเตารีดแรงดันไอน้ำ ก็นับว่าเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับงานรีด เพราะมีประสิทธิภาพมากกว่าเตารีดธรรมดาหรือเตารีดไอน้ำทั่วไป ยิ่งปัจจุบันยิ่งมีการพัฒนาฟังก์ชันและเทคโนโลยีมากขึ้น ยิ่งตอบโจทย์คุณแม่บ้านและพ่อบ้านได้เป็นอย่างดี
เรามาดูวิธีเลือก เตารีดไอน้ำ กันว่ามีกี่วิธีที่น่าสนใจเพื่อนำไปประกอบการตัดสินใจในการซื้อ
1. เลือกประเภทเตารีดแรงดันไอน้ำตามการใช้งาน
อันดับแรก เลือกจุดประสงค์การใช้งาน เช่น ต้องการรีดผ้าปริมาณมากเพราะมีจำนวนคนในครอบครัวเยอะ หรือต้องรีดผ้าครั้งละมาก ๆ เพื่อเตรียมเสื้อผ้าสำหรับใส่ทำงานทั้งสัปดาห์ หรือบางคนต้องการรีดผ้าสะดวกโดยไม่ต้องวางแนวนอนให้ยุ่งยาก เราจะมาแบ่งวิธีการเลือกดังนี้
เตารีดแรงดันไอน้ำแบบแยกหม้อต้ม : เหมาะกับการรีดปริมาณมาก
เตารีดแรงดันไอน้ำแบบแยกหม้อต้มนั้นเหมาะกับการรีดผ้าปริมาณมาก เพราะว่าตัวแท็งก์มีความจุค่อนข้างมาก โดยส่วนใหญ่จะอยู่ที่ 1.2 - 1.8 ลิตร อีกทั้งยังสามารถผลิตแรงดันไอน้ำได้ต่อเนื่องยาวนาน รวมถึงบางรุ่นยังสามารถปล่อยแรงดันไอน้ำพิเศษได้สูงสุด 400 - 700 กรัมต่อนาที จึงสามารถรีดได้โดยไม่ขาดตอน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากคุณต้องการรีดผ้าสำหรับไปทำงานรวดเดียวทั้งสัปดาห์ก็ยิ่งเหมาะ
นอกจากนี้ ยังเหมาะกับผ้าที่ยับง่ายหรือมีรอยยับมากอย่างผ้าคอตตอนหรือผ้าลินิน ด้วยน้ำหนักของเตารีดจะกดทับทำให้ผ้าเรียบได้ง่ายกว่าเตารีดแรงดันไอน้ำแบบแนวตั้ง รวมถึงเตารีดแรงดันไอน้ำแบบแยกหม้อต้มบางรุ่นนั้น ยังสามารถใช้รีดแนวตั้งได้อีกด้วย แต่เนื่องจากมีน้ำหนักค่อนข้างมากจึงอาจไม่สะดวกสักเท่าไร
เตารีดแรงดันไอน้ำแบบแนวตั้ง : ช่วยให้รีดผ้าได้สะดวก
นอกจากเตารีดแบบแนวนอนแล้ว ปัจจุบันมีการพัฒนาเตารีดแรงดันไอน้ำที่สามารถปรับให้รีดผ้าเป็นแนวตั้งได้ เหมาะกับการรีดผ้าที่ไม่ยับมากจนเกินไปนักเพราะไม่ต้องการแรงกดทับจากการตั้งเตารีดในแนวนอน ใช้กับผ้าเนื้อบางที่ไม่ค่อยมีรอยยับหรือผ้าที่ยับยาก เช่น ชุดจำพวกสูท ผ้าชีฟองและผ้าไนลอน ตัวเตารีดแรงดันไอน้ำแบบแนวตั้งนั้นทำให้คุณรีดผ้าได้สะดวกไม่เปลืองแรง เพียงแค่แขวนเอาไว้ แล้วรีดไปตามแนวเนื้อผ้าที่ยับ ก็จะทำให้คุณได้ผ้าที่เรียบง่ายดังใจ หมดกังวลเรื่องรอยยับที่กวนใจบนเสื้อผ้าของคุณเลย
2. ตรวจสอบปริมาณแรงดันไอน้ำเพื่อช่วยให้ผ้าเรียบเร็วขึ้น
แรงดันไอน้ำเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยคลายเส้นใยผ้าให้ง่ายต่อการรีด ยิ่งรุ่นไหนที่มีแรงดันไอน้ำสูง ก็จะยิ่งคลายเนื้อผ้าได้ดีมากกว่า ทำให้คุณรีดผ้าได้รวดเร็วกว่า แรงดันไอน้ำนั้นมีหลากหลายระดับ แล้วแต่รุ่นและยี่ห้อ โดยเราแนะนำเตารีดแรงดันไอน้ำที่ให้แรงดันไอน้ำมากกว่า 5 บาร์ขึ้นไป จะช่วยทำให้เส้นใยผ้าของคุณพร้อมกับความร้อนและการรีดได้ดี ไม่เพียงเท่านั้น ยังสามารถช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรียและไวรัสได้ด้วยความร้อนอีกด้วย
3. เลือกเตารีดแรงดันไอน้ำที่มีความจุของแท็งก์น้ำเยอะเพื่อให้รีดได้ต่อเนื่องยาวนาน
ความจุแท็งก์น้ำก็เป็นเรื่องสำคัญในการเลือกเช่นกัน ยิ่งมีความจุเยอะก็จะยิ่งรีดผ้าปริมาณมากขึ้นได้สะดวก เราแนะนำให้คุณเลือกแท็งก์น้ำที่มีความจุ 1 ลิตรขึ้นไป จะทำให้คุณไม่ต้องเติมน้ำบ่อย และถ้าหากคุณต้องใช้รีดผ้าสำหรับธุรกิจซักรีดแล้วล่ะก็ เราแนะนำให้คุณเลือกแท็งก์น้ำที่มีความจุมากกว่า 1.5 ลิตรจะยิ่งเพิ่มความสะดวกในการรีดและรีดได้ต่อเนื่องโดยไม่ต้องเติมน้ำให้ยุ่งยาก นอกจากนี้ ควรเลือกรุ่นที่สามารถเติมน้ำระหว่างใช้งานได้ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างต่อเนื่อง
4. เลือกเตารีดแรงดันไอน้ำที่มีฟังก์ชันเสริมการใช้งาน
นอกจากการรีดผ้าที่เรียบแล้ว อุณหภูมิที่ใช้ในการรีดผ้าก็มีความสำคัญเช่นกัน ดังนั้น คงจะดีไม่น้อยการเตารีดแรงดันไอน้ำที่คุณเลือกมาพร้อมกับเทคโนโลยี OptimalTemp หรือ เทคโนโลยี Smart Steam ซึ่งเป็นระบบที่จะช่วยปรับอุณหภูมิของเตารีดให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ป้องกันการเกิดรอยไหม้ได้อย่างดีอีกด้วย หรืออาจเลือกรุ่นที่มีโปรแกรมการรีดตามชนิดผ้า ที่ช่วยให้รีดผ้าแต่ละชนิดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ยิ่งไปกว่านั้น หากคุณต้องการให้เตารีดแรงดันไอน้ำของคุณสะอาด ปราศจากคราบตะกรันกวนใจ เราขอแนะนำให้คุณเลือกเตารีดที่มีระบบกำจัดตะกรันหรือช้อนดักตะกรัน เช่น ระบบ Smart Calc Clean ที่สามารถดักคราบตะครันและถอดล้างทำความสะอาดง่าย เพื่อให้การรีดผ้าของคุณสะอาดและใช้งานได้อย่างเต็มที่ ใครที่กำลังสนใจเตารีดแรงดันรุ่นปังๆ สามารถมาเดินช้อปได้ที่โฮมโปรสาขาใกล้บ้าน หรือช้อปออนไลน์ง่าย ๆ ได้ 24 ชั่วโมงทาง www.homepro.co.th สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ HomePro Call Center โทร 1284
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิก
เพื่อเพิ่มรายการโปรดของคุณ