เลือกวัสดุปูพื้นบ้านให้เหมาะกับน้องหมา น้องแมว เพราะสุนัขหรือแมว เป็นเสมือนเพื่อนมนุษย์ สำหรับคนรักสัตว์มักจะมองพวกเขาเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัวที่ต้องใส่ใจดูแลกันอย่างใกล้ชิด ทั้งด้านอาหารการกินและความเหมาะสมในการอยู่อาศัย หากต้องการออกแบบบ้านใหม่หรือปรับปรุงบ้านหลังเดิม สัตว์เลี้ยงจึงมักเป็นหนึ่งในโจทย์สำคัญที่ผู้ออกแบบจะต้องนำมาขบคิดพิจารณาเสมอ ปัญหาที่พบบ่อยในบ้านที่เลี้ยงสัตว์ไม่ได้มีเพียงแค่เรื่องกลิ่นหรือขนละอองจากสัตว์ที่ส่งผลต่อผู้อยู่อาศัยเท่านั้น ในมุมของสัตว์เลี้ยงเองมักเจอปัญหาด้านสุขภาพที่เกิดขึ้นจากการเลือกวัสดุปูพื้นบ้านที่ไม่เหมาะสม
ส่งผลให้เจ้าสี่ขาต้องใช้ชีวิตภายในบ้านด้วยความลำบากและสิ่งเหล่านี้ส่งผลไม่ดีต่อสุขภาพสัตว์เลี้ยง วันนี้ HomeGuru จะพาทุกท่านไป เลือกวัสดุปูพื้นบ้านให้เหมาะกับน้องหมา น้องแมว กันครับ
เนื่องด้วยลักษณะทางกายภาพของมนุษย์และสัตว์เลี้ยงมีความแตกต่างกัน โดยปกติบ้านเรือนทั่วไปมักจะนิยมปูพื้นบ้านด้วยแกรนิโตหรือ
งานกระเบื้อง งานหิน ที่มีผิวมันวาวไว้บริเวณชั้นล่าง ข้อดีของวัสดุเหล่านี้จะช่วยให้บ้านดูสวยงามและทำความสะอาดง่าย แต่ทราบหรือไม่ว่า วัสดุที่มีความลื่นมันวาว กลายเป็นอุปสรรคในการใช้ชีวิตของน้องหมา น้องแมว เพราะด้วยความลื่น ทำให้การเดินจะมีการเกร็งขามากเป็นพิเศษ สิ่งนี้เองเป็นผลให้สัตว์เลี้ยงสี่ขาเกิดอาการโรคข้อสะโพกเสื่อม โรคสะบ้าเคลื่อน และกล้ามเนื้ออักเสบบ่อยครั้ง วัสดุที่เหมาะสมจึงต้องเป็น
“วัสดุที่ไม่ลื่น” จะเป็นมิตรกับสัตว์เลี้ยงมากกว่าครับ
พื้นกระเบื้องผิวหยาบ
แน่นอนว่าพื้น
กระเบื้องโดยทั่วไปแล้วจะมีความลื่น ไม่เหมาะกับพื้นที่การเดินของสัตว์เลี้ยงครับ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่ากระเบื้องทุกประเภทจะลื่นมันวาวเสมอไป โดยปกติกระเบื้องมีให้เลือกทั้งแบบผิวลื่นและแบบผิวหยาบ หากจุดใดเป็นพื้นที่เลี้ยงสัตว์หรืออนุญาตให้สัตว์เลี้ยงเข้ามาใช้ชีวิตได้ ควรเลือกกระเบื้องที่มีผิวหยาบ โดยให้เลือกรุ่นที่มีค่าต้านทานความลื่นที่ R10 ขึ้นไป ซึ่งโดยปกติแล้วจะเหมาะกับพื้นที่เปียกชื้น พื้นที่ภายนอก และเหมาะกับเจ้าสี่ขาเช่นเดียวกันครับ
ข้อดีของพื้นกระเบื้องเซรามิก ยังมีผิวที่ทนทานต่อรอยขีดข่วน หากมีคราบเลอะเปื้อนสามารถเช็ดถูได้ง่ายและไม่กักฝุ่น ทั้งยังช่วยเพิ่มความเย็นสบายในช่วงฤดูร้อน จะสังเกตได้เลยว่า น้องหมาจะชอบนอนเล่นบนพื้นบ้านเพราะความเย็นของพื้นนั่นเองครับ
พื้นปูนขัดมัน
ความเรียบง่ายเป็นสิ่งพื้นฐานที่สิ่งมีชีวิตทุกประเภทล้วนต้องการ หากใครเคยสังเกตบ้านสมัยก่อนหรือบ้านชนบทที่นิยมทำพื้นบ้านด้วยปูนขัดมัน พื้นลักษณะนี้จะรองรับการอยู่อาศัยได้ดีทั้งคนและสัตว์ เนื่องด้วยลักษณะพื้นผิวงานปูนจะมีความหยาบในตัวแล้ว ทำให้สัตว์สี่ขาสามารถยืนทรงตัว เดิน วิ่งเล่นได้อย่างสบายเท้า และด้วยผิวที่หยาบยังช่วยอำพรางรอยขีดข่วนได้เป็นอย่างดีครับ
พื้นไม้แท้
ไม้แท้ เป็นอีกวัสดุที่สบายอุ้งเท้า ไม่ลื่นมาก (แต่จะลื่นมากขึ้นหากเคลือบผิว) และรองรับแรงกระแทกได้ดี พื้นบ้านที่ปูด้วยไม้แท้จึงค่อนข้างเป็นมิตรต่อสัตว์เลี้ยง แต่ควรเลือกเฉพาะไม้เนื้อแข็งเท่านั้นนะครับ เพราะหากเป็นไม้เนื้ออ่อนจะไม่ทนต่อการขีดข่วน สัตว์เลี้ยงสบายเท้าแต่อาจทำให้ผู้เลี้ยงไม่สบายใจภายหลังได้
หากต้องการเพิ่มความฝืดให้กับพื้นไม้ ลองจัดวางแพทเทิร์นเป็นลายก้างปลา ร่องระหว่างรอยต่อของแผ่นไม้จะช่วยเพิ่มความฝืดและอำพรางรอยขีดข่วนได้ดีครับ
พื้นไม้ลามิเนต
พื้นลามิเนตมีส่วนประกอบที่มาจากไม้เนื้อแข็ง นำมาย่อยให้เป็นผงละเอียดหรือแผ่นไม้ชิ้นเล็กเป็นชั้นๆ แล้วนำบีบอัดด้วยความแรงสูงร่วมกับความร้อน จึงเป็นวัสดุทดแทนไม้ที่มีคุณสมบัติทนต่อรอยขีดข่วนใกล้เคียงกับไม้จริง มีความทนทานต่อกรงเล็บของสัตว์พอสมควร แต่มีความลื่นมากกว่า สิ่งที่ต้องระวังหากเลือกติดตั้งวัสดุสำหรับพื้นผิวประเภทนี้คือ ความชื้น หากโดนน้ำมากเกินไปพื้นจะบวมพองได้
พื้นไวนิลหรือกระเบื้องยาง
กระเบื้องยางหรือ
กระเบื้องยางไวนิล ผลิตจากโพลิเมอร์หรือยาง ดูแลรักษาง่าย กันน้ำ ทนต่อความชื้น จึงตอบโจทย์น้องหมาน้องแมววัยเด็กที่ยังใช้
ห้องน้ำไม่เป็นไปจนถึงช่วงสูงอายุ เพราะพื้นกระเบื้องยางไวนิลมีแรงหนืดที่ทำให้การยึดเกาะดี ไม่ลื่น ทนทานต่อรอยขีดข่วนได้บ้าง แต่จุดเด่นอยู่ที่มีความยืดหยุ่นที่ช่วยลดแรงกระแทกได้ดี อายุการใช้งานที่ยาวนาน 10-15 ปี เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกสำหรับบ้านที่เลี้ยงสัตว์เล็บแข็งแรงและสรีระค่อนข้างใหญ่ พลังงานมาก ชอบวิ่งซน อย่างเช่น ไซบีเรียนฮัสกีหรือโกลเดนรีทรีฟเวอร์
สำหรับบ้านที่ตั้งใจเลี้ยงสัตว์ตั้งแต่แรกและ
เลือกวัสดุปูพื้นบ้านให้เหมาะกับน้องหมา น้องแมว ของตัวเองแล้วคงไม่มีปัญหา แต่หากใครที่ไม่ได้เตรียมไว้ก่อนและไม่สามารถรื้อเปลี่ยนวัสดุใหม่ได้ ก็สามารถแก้ไขด้วยการซื้อแผ่นยางกันลื่นมาปูทับพื้นเดิมให้น้องๆ เดินได้สะดวกมากขึ้น หรือเลือกใช้
ผลิตภัณฑ์น้ำยากันลื่นทาเคลือบพื้นกระเบื้องอีกชั้น จะช่วยกันลื่นได้ดีเช่นกันครับ
อย่างไรก็ตาม โดยพฤติกรรมของสัตว์สี่ขาแล้ว จะไม่ได้ชอบอยู่อาศัยภายในบ้านตลอดทั้งวัน
HomeGuru ขอแนะนำว่า บ้านที่เหมาะกับการเลี้ยงสัตว์จึงเป็นบ้านที่มีบริเวณพื้นที่ภายนอกย่อมดีกว่าปล่อยให้สัตว์เลี้ยงอาศัยเฉพาะภายในบ้าน และที่สำคัญ ผู้เลี้ยงดูจะต้องมีเวลามากพอที่จะนำสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่น หรือมีกิจกรรมกลางแจ้ง จะช่วยเพิ่มความสุขทางใจให้กับเจ้าสี่ขาตัวน้อยได้เป็นอย่างดีครับ
สอบถามบริการปูไม้พื้น หรือ ปูกระเบื้องพื้นเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Home Service by HomePro : m.me/Homeservicebyhomepro Line : https://lin.ee/uN8D4Zl หรือ @Homeproservice
Call Center : 1284 Mobile app : https://bit.ly/372RTMT โปรโมชั่นเพิ่มเติมจาก Home Service :
https://bit.ly/3Bj8Yzs