ต้องยอมรับว่าปัจจุบันปัญหาฝุ่นควันพิษและมลภาวะต่างๆ ค่อนข้างรุนแรง ทำให้มีผู้ป่วยเป็นภูมิแพ้เพิ่มขึ้นมาก ไม่เว้นแม้แต่เด็กๆ ที่จะมีอาการผิดปกติทุกครั้งที่ร่างกายมีปฎิกิริยากับสารก่อภูมิแพ้ เช่น ฝุ่น เกสรดอกไม้ อากาศเย็น เชื้อรา ฯลฯ จนทำให้ร่างกายเกิดอาการแพ้ขึ้นมา หลายคนเลยมองหาตัวช่วยอย่าง “เครื่องฟอกอากาศ” เพื่อมาช่วยขจัดฝุ่น หรือสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ แต่อาจไม่รู้ว่าจะเลือกเครื่องฟอกอากาศอย่างไร และต้องดูที่อะไรบ้าง HomeGuru จึงมีคำแนะนำในการเลือกเครื่องฟอกอากาศมาฝากกันครับ
เครื่องฟอกอากาศมักออกแบบมาให้ใช้ฟอกอากาศ หรือทำงานในพื้นที่ที่เหมาะสมตามศักยภาพของเครื่อง ซึ่งรายละเอียดต่างๆ ของเครื่องมักจะระบุไว้ในสเปคของเครื่องฟอกอากาศแต่ละรุ่นว่าเหมาะสมกับขนาดห้องเท่าไร เช่น ห้องขนาด 25-30 ตร.ม. ก็ควรเลือกใช้งานตามขนาดที่เหมาะสมของห้องนั้น หากห้องขนาดใหญ่แต่ใช้เครื่องฟอกอากาศเล็กเกินไป ก็ไม่สามารถฟอกอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพเพียงพอครับ
สำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้ แผ่นกรองที่แพทย์แนะนำมากที่สุด คือ ฟิลเตอร์ หรือ แผ่นกรอง HEPA (High Efficiency Particulate Air) ซึ่งเป็นตัวกรองอากาศที่มีความสามารถในของการกรองฝุ่นละอองขนาดเล็กมากๆ ได้เป็นอย่างดี โดยมาตรฐานตัวกรองอากาศ HEPA จะต้องกรองอากาศจากอากาศที่ผ่านได้ถึง 99.97% ของอนุภาคที่มีขนาด 0.3 ไมครอน ทั้งยังเป็นการกรองที่มีประสิทธิภาพสูงสุดในการดักจับสิ่งแปลกปลอมต่างๆ เช่น ฝุ่นละออง เกสรดอกไม้ สปอร์เชื้อรา สะเก็ดผิวหนังของสัตว์เลี้ยง ฯลฯ ซึ่งล้วนเป็น “สารก่อภูมิแพ้” สาเหตุของการเกิดโรคภูมิแพ้ โดยตัวกรอง HEPA รับประกันว่า 99% ของสารปนเปื้อนเหล่านี้จะถูกกรองอย่างสมบูรณ์ครับ
เครื่องฟอกอากาศแบบโอโซนอาจมีการสร้างโอโซน (Ozone) ในอากาศขณะใช้เครื่อง ซึ่งโอโซนเป็นสารที่มีความระคายเคืองต่อปอดสูง หากได้รับในระดับที่มีความเข้มข้นสูงๆ จะสามารถกระตุ้นให้เกิดโรคทางเดินหายใจได้ โดยเฉพาะในผู้ป่วยโรคหืด โรคปอดเรื้อรัง เด็ก และผู้สูงอายุ จึงควรระมัดระวังหรือหลีกเลี่ยงหากมีคนป่วยโรคภูมิแพ้ทางเดินหายใจในบ้าน
หลายคนจะมีอาการภูมิแพ้กำเริบ มีอาการไอ จาม เมื่อได้กลิ่นฉุนหรือกลิ่นไม่พึงประสงค์ ดังนั้น หลักการเลือกเครื่องฟอกอากาศจึงควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีระบบกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ซึ่งมักทำงานโดยการใช้สารเคมี เช่น ถ่านกัมมันต์ หรือที่เรียกกันว่า แอคทิเวเต็ด คาร์บอน (Activated Carbon) มาช่วยดูดซับกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ และก๊าซพิษออกไป เพราะกลิ่นหรือก๊าซก็เป็นสารก่อภูมิแพ้ที่ทำให้มีอาการภูมิแพ้กำเริบได้ครับ
อีกหนึ่งสิ่งสำคัญ คือ ควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่ไม่เสียงดังจนเกินไปขณะใช้งาน เพราะเสียงที่ดังเกินไปอาจทำให้รบกวนการนอนหลับ หลับไม่สนิท ร่างกายไม่ได้พักผ่อนเต็มที่ ส่งผลต่อระบบภูมิคุ้มกันร่างกายได้ ซึ่งเสียงจากเครื่องฟอกอากาศที่เหมาะสมนั้นไม่ควรดังเกิน 30-40 เดซิเบลครับ และการเลือกเครื่องฟอกอากาศมาใช้ในบ้าน อาจจะไม่ได้ทำให้หายจากอาการภูมิแพ้ได้ 100% แต่เป็นหนึ่งในการดูแลตัวเองและช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดภูมิแพ้ขึ้นได้ครับ
ภูมิแพ้..เป็นโรคที่ไม่สามารถรักษาให้หายขาดได้ เมื่อใดที่เจอกับสารก่อภูมิแพ้ก็จะมีอาการกำเริบขึ้นมา ดังนั้นใครที่เป็นภูมิแพ้จึงต้องดูแลร่างกาย ดูแลสิ่งแวดล้อม บ้านช่องที่อยู่มากเป็นพิเศษ เพื่อไม่ให้มีสารก่อภูมิแพ้มากระตุ้นร่างกายจนเกิดอาการขึ้นครับ
สอบถามเกี่ยวกับแม่บ้านทำความสะอาด เพิ่มเติมได้ที่
Facebook : Home Service by HomePro : m.me/Homeservicebyhomepro
Line : https://lin.ee/uN8D4Zl หรือ @Homeproservice
Call Center : 1284
Mobile app : https://bit.ly/372RTMT
โปรโมชั่นเพิ่มเติมจาก Home Service : https://bit.ly/3Bj8Yzs
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิก
เพื่อเพิ่มรายการโปรดของคุณ