ช่วงนี้อากาศแปรปรวนบ่อย เป็นสัญญาณกำลังจะเข้าฤดูฝนแบบเต็มตัว ส่งผลให้ฝนฟ้าคะนองหนักจนบางครั้งเกิดความเสียหายกับบริเวณบ้าน ฉะนั้นเราควรเช็คจุดต่างๆ เหล่านี้ให้เรียบร้อย เพราะการ "
เช็คบ้านหน้าฝน" เป็นวิธีเตรียมความหร้อม เพื่อป้องกันหรือลดทอนการเกิดความเสียหายกับตัวบ้านให้น้อยลง วันนี้
HomeGuru จึงขอแชร์วิธี เช็คบ้านหน้าฝน ให้ได้นำกลับไปใช้กันค่ะ
1. เช็ครอยรั่วรางระบายน้ำฝนบนหลังคา
บ้านส่วนใหญ่ในไทยมักจะมี
รางระบายน้ำฝนเพื่อลดการกระแทกลงสู่พื้นโดยตรง โดยเฉพาะช่วงฝนตกหนักๆ น้ำฝนจะไหลตามความลาดเอียงของหลังคาลงมากระแทกกับพื้นด้านล่าง ยิ่งตัวบ้านสูงเท่าไหร่ แรงกระแทกของน้ำฝนยิ่งแรงตามไปด้วย จนอาจสร้างความเสียหายให้แก่พื้นที่รอบบ้านได้ เมื่อ
รางน้ำฝนมีรูรั่วก็จะยิ่งเพิ่มจุดการตกกระแทกพื้นของน้ำ แก้ได้โดยการซ่อมแซมรางระบายน้ำให้เรียบร้อย จะช่วยลดแรงกระแทกของน้ำฝนได้ และยังช่วยชะลอการชะล้างบริเวณพื้นที่หน้าดิน
2. กำจัดเศษใบไม้ที่อาจอุดตันแนวรางระบายน้ำ
นอกจากตรวจสอบรูรั่วบริเวณรางหลังคา หลายครั้งที่เรามักจะพบ
น้ำขัง น้ำระบายไม่ทัน จากแนว
รางระบายน้ำบนหลังคา สาเหตุหนึ่งอาจเป็นเพราะเศษใบไม้ที่ร่วงลงไปขัง เมื่อสะสมนานวันเข้าก็อุดตันรู ทำให้ระบายน้ำได้ยาก แก้ได้โดยการทำตะแกรงครอบตลอดแนวรางระบายน้ำฝนบน
หลังคาเพื่อป้องกันไม่ให้เศษใบไม้ตกลงไปอุดตัน
3. ตรวจสอบรอยต่อระหว่างผนังกับวงกบหรือบานประตูกับวงกบดู
ทุกครั้งที่ฝนเริ่มตก สิ่งแรกที่ทุกคนทำคือปิด
ประตู หน้าต่างให้มิดชิด เพื่อกันฝนสาด แต่บางครั้งทำไมยังมี
น้ำซึม เข้ามาตามขอบประตูหรือหน้าต่างอยู่บ้าง นั่นเป็นเพราะตรงรอยต่อระหว่างผนังกับวงกบอาจจะมีช่องห่าง ให้
ยาแนวด้วย
ซิลิโคน แต่หาก
วงกบยังติดแน่นดี น้ำฝนอาจซึมเข้ามาทางรอยต่อระหว่างบานประตูกับวงกบ
แก้ได้โดยหากมีช่องห่างระหว่างรอยต่อให้ยาแนวด้วยซิลิโคน หรือ เซาะร่องเล็กๆ ขนาด 1 x 1 เซนติเมตร บริเวณใต้วงกบด้านบนร่นเข้ามาจากขอบนอก 3 เซนติเมตร สำหรับเป็นบัวหยดน้ำเพื่อหยุดทางน้ำที่กำลังจะไหลซึมเข้าขอบด้านใน
4. เช็คกิ่งไม้ใหญ่ที่อยู่ใกล้ตัวบ้าน
ต้นไม้ใหญ่ที่ปลูกในบริเวณบ้านหรือใกล้ตัวบ้าน เมื่อเจอสภาพฝนฟ้าคะนอง อาจจะหักโค่นลงมาแบบไม่ทันตั้งตัว ฉะนั้นก่อนจะเข้าฤดูฝน หมั่นตัดแต่งกิ่งให้อยู่ในสภาพที่ปลอดภัยจากตัวบ้านไว้ก่อน เพราะเมื่อหมดหน้าฝน กิ่งก้านก็จะแตกออกใหม่อีกครั้ง ไม่ต้องกังวล แก้ได้โดยการตัดกิ่งไม้ใหญ่ออกให้พ้นจาก
สายไฟหรือตัดกิ่งที่มีแนวโน้มจะหักโค่นง่าย
5. ย้ายเฟอร์นิเจอร์สนามหลบฝน
แม้
เฟอร์นิเจอร์สนามจะถูกออกแบบมาให้ทนต่อสภาพฟ้าฝน แต่ในบางประเภทอาจมีวัสดุที่เปราะบางง่าย เช่น วัสดุเลียนแบบไม้ ที่คนขายอาจจะไม่ได้แจ้งล่วงหน้า ก่อนที่เราจะซื้อผสมอยู่ในเฟอร์นิเจอร์ ฉะนั้นเมื่อเข้าสู่ฤดูฝนควรย้ายชั่วคราวไปอยู่บริเวณที่ไม่ถูกฝนชะล้างได้ก่อน หรือถ้าเป็นชิ้นใหญ่ที่เคลื่อนย้ายยากอาจจะแก้ไขด้วยการนำผ้าใบมาคลุม แก้ได้โดยการนำ
ผ้าใบมาคลุมช่วงหน้าฝน ป้องกันการเสื่อมสภาพ อายุการใช้งานสั้น
6. ตรวจสอบภาชนะขังน้ำฝน
บางบ้านที่มีโอ่งหรือภาชนะที่กักเก็บน้ำได้ภายในบริเวณนอกบ้าน อย่าลืมปิดฝาให้มิดชิด เพราะเมื่อ
น้ำฝนขัง อาจจะเกิดแหล่งเพาะยุงลายตามมาได้ หรือบางบ้านที่รองน้ำไว้ใช้ ก็อย่าลืมปิดฝาให้มิดิดหลังจากที่น้ำเต็มภาชนะ เพราะเมื่อไรก็ตามที่มีน้ำขัง จะเกิดเป็นจุดแหล่งเพาะยุงลายได้ทันที แก้ได้โดยการคว่ำภาชนะต่างๆ ที่จะขังน้ำฝนซึ่งเป็นแหล่งเพาะยุงลายได้
การเตรียมความพร้อมที่ดีตั้งแต่ก่อนเข้าฤดูฝนแบบที่
HomeGuru ได้กล่าวมา จะช่วยลดการเกิดปัญหาต่างๆ ตามมาภายในบ้านได้ทั้งการที่น้ำชะบริเวณบ้าน หรือ
น้ำซึม เข้าในตัวบ้าน ฉะนั้นหากใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์ในการซ่อมแซมบ้าน ลองแวะมาหาของที่ถูกใจได้ที่โฮมโปร และโฮมโปร เอส ทุกสาขา หรือช้อปปิ้งออนไลน์ได้ที่
www.HomePro.co.th
สนใจสอบถามเกี่ยวกับบริการร้าว รั่ว ซึม และบริการปรับปรุงหลังคา Double Roof เพิ่มเติมได้ที่ Inbox เพจ Home Service by HomePro : m.me/Homeservicebyhomepro Line : https://lin.ee/uN8D4Zl หรือ @Homeproservice
Call Center 1284