ฝักบัวอาบน้ำ อุปกรณ์สำคัญภายในห้องน้ำที่แม้จะเป็นอุปกรณ์ชิ้นเล็ก ๆ แต่มองข้ามไม่ได้เด็ดขาด! เพราะนอกจากเรื่องของความสวยงามและความสุนทรีย์ขณะอาบน้ำแล้ว ยังมีผลต่อเรื่องของระบบน้ำภายในบ้านอีกด้วย หลายคนอาจเริ่มสงสัยกันแล้วว่าแบบนี้ควรเลือกใช้ ฝักบัวอาบน้ำแบบไหนดี
HomeGuru จึงได้รวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ ฝักบัวอาบน้ำ มาเป็นตัวช่วยให้ทุกคนได้ลองชั่งน้ำหนักและตัดสินใจเลือกซื้อผ่านบทความนี้ครับ
• ทำความรู้จัก ฝักบัวอาบน้ำ แต่ละประเภท
1. Hand Shower : ฝักบัวอาบน้ำแบบถืออาบ 2. Head Shower : ฝักบัวอาบน้ำแบบก้านแข็ง 3. Side Shower : ฝักบัวข้าง หรือฝักบัวอาบน้ำแบบฝังกับผนัง 4. Up Head Shower หรือ Rain Shower : ฝักบัวเพดาน • เทคนิคเลือกซื้อฝักบัวอาบน้ำให้ตอบโจทย์การใช้งาน
1. เลือกประเภทของฝักบัวให้เหมาะกับการใช้งาน 2. เลือกรูปแบบและแรงดันน้ำให้เหมาะกับบ้าน 3. เลือกคุณภาพวัสดุและการผลิต 4. เลือกโดยการกำหนดงบประมาณ 
• ทำความรู้จักฝักบัวอาบน้ำแต่ละประเภท
1. Hand Shower : ฝักบัวอาบน้ำแบบถืออาบ
เป็น ฝักบัวติดผนัง แบบยอดนิยมที่ทุกคนคุ้นหน้าคุ้นตากันดี เพราะติดตั้งง่าย ใช้งานได้สะดวก เหมาะกับทุกพื้นที่ แม้แต่
ห้องน้ำขนาดเล็กที่มีพื้นที่จำกัด หรือบริเวณเหนืออ่างอาบน้ำ และหากฝักบัวอาบน้ำที่ใช้มีปัญหาหรือเกิดรู้สึกเบื่อขึ้นมาก็สามารถหา ฝักบัวอาบน้ำ ชุดใหม่มาติดตั้งแทนได้ทันที หรือจะเลือกเปลี่ยนอะไหล่เฉพาะหัวฝักบัวก็ได้เช่นกัน ฝักบัวอาบน้ำแบบถืออาบนี้จะมีสายที่สามารถถอดออกจากแท่นวางได้ มีหลากหลายดีไซน์และหลากหลายราคาให้เลือกซื้อ ตั้งแต่หลักร้อยไปจนถึงหลักพันครับ
2. Head Shower : ฝักบัวอาบน้ำแบบก้านแข็ง
ฝักบัวอาบน้ำแบบก้านแข็งจะมีจุดเด่นตรงที่ไม่มีสาย ลักษณะจะเป็นก้านต่อออกมาจากท่อประปาโดยตรง เหมือนเป็นท่อน้ำที่มีหัวฝักบัวสำหรับกระจายน้ำยื่นออกมาจากผนัง แต่สามารถปรับระดับเอียงซ้ายขวาหรือทำมุมได้เล็กน้อย ข้อดีคือหากเป็น ฝักบัวแรงดันสูง ก็สามารถติดตั้งและใช้งานได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องความแรงของน้ำที่อาจทำให้สายหลุดออกจากแท่น และด้วยความที่เป็นฝักบัวอาบน้ำแบบไร้สายจึงให้ความสวยงาม ไม่ดูรุงรัง ระโยงระยาง เหมาะกับบ้านที่ตกแต่งในสไตล์ลอฟท์ หรือสไตล์มินิมอลเป็นพิเศษ มีหลากหลายราคาตามคุณภาพของแต่ละแบรนด์ ซึ่งราคาส่วนใหญ่จะอยู่ที่หลักพันไปจนถึงหลักหมื่นบาทครับ
3. Side Shower : ฝักบัวข้าง หรือฝักบัวอาบน้ำแบบฝังกับผนัง
ฝักบัวข้าง เป็นฝักบัวอาบน้ำที่มีลักษณะคล้ายกับฝักบัวอาบน้ำแบบก้านแข็งตรงที่มีก้านต่อออกมาจาก
ท่อประปาโดยตรง และไม่มีสายระโยงระยาง แต่จะมักจะติดตั้งฝังไปกับผนังเลยที่ระดับความสูงประมาณตัวคนยืน และจะติดตั้งมากกว่า 1 จุด ส่วนใหญ่แล้วจะติดตั้งประมาณ 3 – 6 จุดรอบ ๆ บริเวณที่อาบน้ำเพื่อเป็นทางเลือกที่ช่วยให้การอาบน้ำสนุกมากขึ้นจากสายน้ำที่ทะลุทะลวงมาจากทุกทิศทาง จึงไม่เหมาะกับการติดตั้งเดี่ยว ๆ เพื่อใช้เป็นฝักบัวหลักในการอาบน้ำ แต่ควรติดตั้งร่วมกับฝักบัวประเภทอื่น ๆ ซึ่งส่วนใหญ่จะเป็นฝักบัวเพดาน และหากต้องการใช้ฝักบัวอาบน้ำประเภทนี้ก็ควรเลือกใช้ ฝักบัวแรงดันสูง เพื่อให้ได้สายน้ำที่แรงพอ นอกจากนี้ฝักบัวข้างจะใช้น้ำในปริมาณมาก มีผลกับเรื่องค่าน้ำโดยตรง จึงไม่ค่อยเห็นฝักบัวข้างตามอาคารบ้านเรือน แต่มักจะมีการติดตั้งตามโรงแรมหรือรีสอร์ทที่เน้นความหรูหรามากกว่าครับ
4. Up Head Shower หรือ Rain Shower : ฝักบัวเพดาน
เป็นฝักบัวอาบน้ำอีกประเภทที่ได้รับความนิยมสูงในปัจจุบัน มีทั้งแบบที่มี ฝักบัวติดผนัง ที่มีสายพร้อมหัวฝักบัวธรรมดาที่สามารถถอดออกจากแท่นได้เพิ่มขึ้นมา หรือแบบที่ติดตั้งด้านบนติดกับเพดานในตำแหน่งที่ตรงศีรษะผู้ใช้งานพอดี อยู่ในระยะความสูงที่พอเหมาะ จึงเรียกว่า Up Head Shower ซึ่งหัวฝักบัวจะมีขนาดใหญ่กว่าฝักบัวแบบอื่น ๆ ขณะใช้งานจะให้ความรู้สึกเหมือนได้อาบน้ำท่ามกลางสายฝน จึงเรียกกันว่า
Rain Shower นั่นเองครับ และนอกจากฝักบัวอาบน้ำทั้ง 4 แบบหลัก ๆ ที่กล่าวมานี้ ปัจจุบันยังมีฝักบัวอาบน้ำอีกหลายรูปแบบให้เลือกใช้งานกัน เช่น ฝักบัวอาบน้ำระบบไฟฟ้า , ฝักบัวอาบน้ำแบบประหยัดน้ำ หรือแม้แต่ฝักบัวอาบน้ำที่ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของเลือด ช่วยให้ความผ่อนคลายขณะอาบน้ำ เป็นต้น เวลาเลือกว่าจะใช้ ฝักบัวอาบน้ำแบบไหนดี จึงต้องพิจารณาหลาย ๆ อย่างประกอบกันครับ
• เทคนิคเลือกซื้อฝักบัวอาบน้ำให้ตอบโจทย์การใช้งาน
1. เลือกประเภทของฝักบัวให้เหมาะกับการใช้งาน
การเลือกใช้ ฝักบัวอาบน้ำ สิ่งแรกที่ต้องคำนึงถึงคือข้อจำกัดในการใช้งาน เช่น บางบ้านมีพื้นที่จำกัด บางบ้านต้องใช้ห้องน้ำเดียวกันทั้งครอบครัว เป็นต้น โดยปัจจัยเหล่านี้จะเป็นตัวแปรในการเลือกว่าจะใช้ ฝักบัวอาบน้ำแบบไหนดี หากห้องน้ำมีขนาดไม่กว้างนัก อาจเลือกติดตั้งฝักบัวอาบน้ำแบบถืออาบ หรือแบบติดเพดาน แต่หากระยะความสูงของ
ห้องน้ำมีไม่มากพอก็ไม่สามารถติดตั้งฝักบัวเพดานได้เช่นกัน จึงต้องพิจารณาว่าจะสามารถใช้ฝักบัวอาบน้ำแบบไหนได้บ้าง พอดีกับขนาดห้องน้ำหรือไม่ รวมทั้งดีไซน์โดยรวมเข้ากันกับการตกแต่งห้องน้ำหรือไม่ครับ ในกรณีที่ไม่ใช่ห้องน้ำส่วนตัว ต้องใช้งานร่วมกันกับสมาชิกในครอบครัวก็จำเป็นต้องคำนึงถึงเรื่องความชอบและความสะดวกในการใช้งานของสมาชิกคนอื่น ๆ ด้วย ควรเลือกใช้ฝักบัวที่สามารถใช้งานได้อย่างยืดหยุ่น เพราะแต่ละคนมีช่วงอายุแตกต่างกัน หรือมีความสูงไม่เท่ากัน เด็ก ๆ และผู้สูงอายุอาจเหมาะกับการใช้ ฝักบัวติดผนัง แบบถืออาบที่สามารถปรับระดับความสูงต่ำของฝักบัวได้มากกว่าฝักบัวอาบน้ำประเภทอื่น ๆ และอีกสิ่งหนึ่งที่ต้องคำนึงถึงคือเรื่องของความปลอดภัยในการใช้งาน โดยเฉพาะบ้านที่มีผู้สูงอายุ ควรเลือกใช้ฝักบัวอาบน้ำที่มีด้ามจับ ทั้งนี้ก็เพื่อความสะดวกสบายในการใช้งาน และช่วยป้องกันอุบัติเหตุด้วยครับ
2. เลือกรูปแบบและแรงดันน้ำให้เหมาะกับบ้าน
เรื่องแรงดันน้ำในบ้านเป็นอีกหนึ่งข้อจำกัดที่ต้องนำมาพิจารณาเพื่อเลือกซื้อ ฝักบัวอาบน้ำ ครับ เพราะยิ่งฝักบัวอาบน้ำมีขนาดใหญ่ ยิ่งต้องใช้แรงดันน้ำมากเช่นกัน โดยเฉพาะฝักบัวเพดาน หรือ Rain Shower ที่ต้องใช้น้ำประมาณ 20 ลิตร ต่อนาที ยิ่งหากติดตั้งบริเวณชั้นบนของบ้านประกอบกับปั๊มน้ำที่บ้านเป็นแบบขนาดวัตต์ต่ำ ก็จะส่งผลให้ไม่สามารถจ่ายน้ำได้ทันต่อการใช้งานครับ หากต้องการใช้งานจริง ๆ อาจต้องติดตั้งปั๊มน้ำที่มีจำนวนวัตต์มากเพียงพอควบคู่เพิ่มไปด้วยครับ ปัจจุบันฝักบัวอาบน้ำหลาย ๆ รุ่น มีการออกแบบรูน้ำให้เล็กลง เพื่อช่วยให้น้ำไหลแรงขึ้น และเป็นการช่วยประหยัดน้ำไปด้วยในตัว โดยสามารถปรับรูปแบบของน้ำได้หลากหลาย ทั้งแบบฉีด แบบกระจายตัว หรือแบบนวดให้เลือกได้ตามความต้องการเพื่อให้การอาบน้ำรู้สึกเพลิดเพลินและผ่อนคลายยิ่งขึ้น กรณี้นี้ควรเลือกใช้ ฝักบัวแรงดันสูง เพื่อให้ได้สายน้ำที่แรงเพียงพอต่อการใช้งานครับ
3. เลือกคุณภาพวัสดุและการผลิต
เมื่อเลือกประเภทและรูปแบบของฝักบัวอาบน้ำที่เหมาะกับการใช้งานได้แล้ว ก็ต้องพิจารณาต่อในเรื่องของคุณภาพวัสดุและคุณภาพการผลิตฝักบัวอาบน้ำ เพราะนอกจากความคงทนแข็งแรงแล้ว วัสดุที่เลือกใช้งานจะมีผลต่อความสวยงามของห้องน้ำในภาพรวมด้วยครับ โดยควรเลือกวัสดุที่เข้ากันกับสไตล์การ
ตกแต่งห้องน้ำซึ่งก็มีให้เลือกหลากหลายแบบ หากต้องการความหรูหราเป็นเอกลักษณ์ อาจเลือกใช้ฝักบัวอาบน้ำแบบโลหะผสมดีบุก หากต้องการตกแต่งห้องน้ำให้เป็นแนววินเทจ ย้อนยุค ก็สามารถเลือกใช้ฝักบัวอาบน้ำแบบทองแดงได้ ส่วนฝักบัวอาบน้ำที่ผลิตจากโครเมียมหรือสเตนเลสก็จะเหมาะกับการตกแต่ง
ห้องน้ำโมเดิร์นแบบสมัยใหม่ครับ วัสดุในการผลิตฝักบัวอาบน้ำแต่ละแบบนั้นมีจุดเด่นแตกต่างกัน เช่น ฝักบัวอาบน้ำสเตนเลสจะสามารถทนการกัดกร่อนได้ดี ในขณะที่ฝักบัวอาบน้ำแบบชุบโครเมียมคุณภาพสูงที่ได้มาตรฐานนอกจากจะทนการกัดกร่อนได้ดีไม่แพ้สเตนเลสแล้ว ยังมีความเงางาม ทนต่อสารเคมีและรอยขีดข่วน ทำความสะอาดง่ายเมื่อเกิดคราบน้ำด้วยครับ ส่วนฝักบัวอาบน้ำที่ผลิตจากพลาสติกจะมีราคาถูกกว่าแบบอื่น ๆ หน้าฝักบัวอุดตันได้ยากกว่าแบบโลหะ แต่อายุการใช้งานอาจจะไม่ยาวนานนักครับ และนอกจากเรื่องของตัววัสดุแล้ว ฝักบัวอาบน้ำที่ดีควรถอดแยกชิ้นส่วนเพื่อทำความสะอาดได้ มีซีลยางและแหวนยางในส่วนข้อต่อต่าง ๆ เพื่อป้องกันการรั่วซึม รวมถึงบริเวณหัว
ฝักบัวควรมีการป้องกันการบิดงอของสายได้ดีด้วยครับ
4. เลือกโดยการกำหนดงบประมาณ
อีกเรื่องสำคัญในการช่วยตัดสินใจว่าจะเลือกใช้ ฝักบัวอาบน้ำแบบไหนดี ได้ง่ายขึ้นก็คือการกำหนดงบประมาณไว้ก่อนเลยครับ เพราะฝักบัวอาบน้ำนั้นมีช่วงราคาที่กว้างมาก ตั้งแต่ ฝักบัวติดผนัง ราคาหลักร้อยไปจนถึงฝักบัวเพดานราคาหลักแสน การกำหนดงบประมาณไว้ก่อนจะช่วยให้งบประมาณไม่บานปลาย หรือไปรบกวนงบประมาณในส่วนอื่น ๆ ที่ตั้งใจไว้ครับ
จะเห็นได้ว่า
ฝักบัวอาบน้ำ ที่เราเห็นว่าเป็นอุปกรณ์ชิ้นเล็ก ๆ ในห้องน้ำนั้น แท้จริงแล้วมีรายละเอียดมากมายซ่อนอยู่ ซึ่ง
HomeGuru ก็หวังว่าใครที่กำลังลังเลว่าจะเลือกใช้ ฝักบัวอาบน้ำแบบไหนดี จะได้คำตอบกันแล้วนะครับ และสำหรับใครที่กำลังมองหาอุปกรณ์ระบบน้ำภายในห้องน้ำแบบคุ้มค่าและครบวงจร อย่าลืมมาเลือกซื้อได้ที่โฮมโปรออนไลน์
www.homepro.co.th หรือที่โฮมโปรทุกสาขา ติดต่อสอบถามได้ทาง Call Center : 1284 ครับ
สนใจติดตั้งชุดฝักบัว หรืออุปกรณ์ในห้องน้ำ สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Home Service by HomePro : m.me/Homeservicebyhomepro Line : https://lin.ee/uN8D4Zl หรือ @Homeproservice
Call Center : 1284 Mobile app : https://bit.ly/372RTMT
โฮมการ์ด
สมัครเป็นผู้ขาย
ศูนย์ช่วยเหลือ
เลือกสาขา
ตำแหน่งของคุณ
