ปลั๊กไฟ
ปลั๊กไฟ รางปลั๊กไฟ หรือ ปลั๊กพ่วง เป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่เชื่อว่าทุกคนคงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะไม่ว่าจะเป็นที่บ้าน ที่ทำงาน หรือตามสถานที่ต่างๆ ก็จะมีอุปกรณ์ไฟฟ้าประเภทนี้ไว้ใช้งานกันอยู่ทุกที่ เรียกได้ว่าเป็นสิ่งที่เรามักจะใช้งานกันอย่างเป็นประจำในชีวิตประจำวัน ไม้พ้นวันหยุดที่ไปเที่ยวพักผ่อน ยังต้องพกปลั๊กไฟไปใช้ในที่พักด้วยแถบจะเป็นสิ่งที่ติดตัวคุณตลอดเวลา ปลั๊กไฟหรือรางปลั๊กไฟ สามารถช่วยอำนวยความสะดวกสบายในการใช้งานไฟฟ้าได้อย่างทั่วถึง แต่การใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆก็จำเป็นต้องคำนึงถึงเรื่องของความปลอดภัยในการใช้งานประกอบด้วยเป็นหลัก เพราะปลั๊กไฟหรือปลั๊กพ่วงก็เป็นอีกสาเหตุหลักๆในการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรเลยทีเดียวเช่น ไฟช็อต หรือไฟไหม้อยู่บ่อยครั้ง เป็นเพราะเรามักจะใช้งานปลั๊กไฟพร้อมๆกัน บางครั้งหากเลือกปลั๊กไฟที่ไม่ได้มาตรฐานมาใช้งานก็อาจจะก่อให้เหตุการณ์ไม่คาดฝันได้เช่นกัน ดังนั้นการเลือก "ปลั๊กไฟ รางปลั๊กไฟ หรือปลั๊กพ่วง" จึงต้องพิจารณากันถึงเรื่องของความปลอดภัยมาเป็นอันดับต้น วิธีเลือกซื้อปลั๊กไฟ ให้เหมาะกับการใช้งานภายในบ้าน สิ่งสำคัญที่ทุกบ้านไม่ควรละเลยคือ การตรวจเช็คให้ดีก่อนว่าปลั๊กไฟที่เลือกซื้อไปใช้ภายในบ้านนั้น เหมาะกับเครื่องใช้ไฟฟ้าที่คุณใช้ด้วยหรือไม่ เพื่อป้องกันไม่ให้ใช้คู่กับปลั๊กไฟที่มีกำลังไฟที่ไม่พอเหมาะ ส่งผลให้สายไฟเกิดความร้อนสูงและเกิดกระแสไฟลัดวงจรได้
การเลือกปลั๊กไฟให้ปลอดภัย
- เลือกเต้ารับและม่านนิรภัยให้ปลอดภัย อีกหนึ่ง วิธีเลือกซื้อปลั๊กไฟ ที่ควรคำนึงถึงคือ การเลือกดูเต้ารับที่ดี โดยเลือกวัสดุคุณภาพที่ไม่ติดไฟ หรือคุณภาพสูง ทนความร้อนได้ ไม่ควรเลือกใช้ ปลั๊กไฟราคาถูก อีกทั้งยังควรพิจารณาในส่วนของม่านนิรภัย หรือม่านปลั๊กไฟ เพื่อช่วยป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นกับเด็ก ๆ ในบ้าน
- จำนวนเต้ารับ และสวิตซ์เปิด-ปิด จำนวนเต้ารับมาก ไม่ได้หมายความว่าจะได้กำลังไฟที่มากขึ้นเพราะหากเลือกซื้อปลั๊กไฟ 3 ช่อง ที่มีกำลังไฟ 2,300 วัตต์ กำลังไฟจะถูกเฉลี่ยในการใช้งานเมื่อมีการใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าหลายเครื่องในที่เดียว เช่น ปลั๊กไฟสามารถรองรับกำลังไฟ 2,300 วัตต์ ในขณะที่ใช้กับหม้อทอดไฟฟ้าที่ใช้กำลังไฟ 1,500 วัตต์และเครื่องปิ้งขนมปังที่ใช้กำลังไฟ 800 – 1,000 วัตต์ เมื่อลองคำนวณการใช้กำลังไฟฟ้าดูแล้ว อาจจะสูงกว่า 2,300 วัตต์ที่ปลั๊กไฟจะรองรับไว้
- ระบบตัดไฟ หรือ เซอร์กิตเบรกเกอร์ การเลือกซื้อปลั๊กไฟที่ได้คุณภาพ ไม่ใช่ ปลั๊กไฟราคาถูก นั้น จำเป็นต้องสังเกต หรือเช็คก่อนว่าปลั๊กไฟตัวนั้น มีเซอร์กิตเบรกเกอร์ หรือระบบตัดไฟให้หรือไม่ เพราะหากมีการใช้กระแสไฟฟ้าที่สูงเกินกว่าสายไฟจะรับไหว อาจทำให้เกิดความร้อนสะสมและสร้างความเสียหายต่อสายไฟได้ รวมไปถึงอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้าที่กำลังใช้งานอยู่อาจเกิดความเสียหายทันที ซึ่งหากตัวปลั๊กไฟมีเซอร์กิตเบรกเกอร์จะช่วยลดความกังวลใจเรื่องไฟไหม้ ไฟลัดวงจรลงได้
- การรับประกันสินค้า วิธีเลือกซื้อปลั๊กไฟ ที่ไม่ควรมองข้ามอีกหนึ่งเรื่อง คือ การรับประกันสินค้า เพราะหากวันหนึ่งปลั๊กเกิดใช้งานไม่ได้ ทุกบ้านสามารถแจ้ง เคลมสินค้าให้ทางบริษัทตรวจสอบถึงปัญหาที่เกิดขึ้นได้ทันที หรือสามารถเปลี่ยนหรือได้รับสินค้าตัวใหม่มาใช้งานทดแทนก็เป็นได้ ซึ่งในปัจจุบันระยะเวลาในการรับประกันปลั๊กไฟในแต่ละแบรนด์มีไม่เท่ากัน ระยะเวลาต่ำสุดจะอยู่ที่ 1 ปี หรือรับประกันสูงสุดถึง 10 ปี แล้วแต่รุ่น และแบรนด์ของปลั๊กไฟที่คุณเลือกใช้
- ฟังก์ชันเสริมพิเศษ ปัจจุบันได้มีการพัฒนาออกแบบปลั๊กให้สามารถรองรับการเสียบ usbเพิ่มขึ้นมาด้วย มีการเพิ่มช่องชาร์จไฟ USB ที่สามารถเสียบชาร์จโทรศัพท์มือถือได้เลย โดยไม่ต้องหาหัวปลั๊กไฟมาเสียบให้ยุ่งยาก ส่วนใหญ่แล้วจะสามารถเสียบโทรศัพท์ใช้งานได้ประมาณ 2-4 เครื่องกำลังดี
ปลั๊กไฟ Homepro
สามารถเลือกซื้อ ปลั๊กไฟ ที่มีคุณภาพในราคาพิเศษทุกชนิดแบบครบวงจรได้ที่ Homepro ทุกสาขาใกล้บ้านของคุณ หรือแวะเข้ามาเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ www.homepro.co.th ที่มาพร้อมกับบริการจัดส่งและติดตั้งสินค้าถึงบ้านของคุณ ทีมงานโฮมโปรพร้อมอำนวยความสะดวกและยินดีบริการลูกค้าทุกท่านด้วยใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Homepro Call Ceenter 1284