การเลือกซื้อ เครื่องเติมอากาศในบ้าน เป็นเรื่องสำคัญที่ช่วยให้บรรยากาศภายในบ้านสะอาดและสุขภาพดี ด้วยคุณสมบัติที่สามารถกรองอากาศจากฝุ่นละออง มลพิษ และสารก่อภูมิแพ้ รวมทั้งช่วยลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ เครื่องเติมอากาศจึงกลายเป็นอุปกรณ์ที่หลายบ้านขาดไม่ได้ วันนี้เราจะมาอธิบายถึงคุณสมบัติที่ต้องพิจารณาเมื่อเลือกซื้อเครื่องเติมอากาศในบ้าน และเสนอแนวทางการเลือกซื้อที่เหมาะสมเพื่อให้คุณได้เครื่องที่ดีที่สุดสำหรับครอบครัวของคุณ
เครื่องเติมอากาศ (หรือบางครั้งเรียกว่าเครื่องฟอกอากาศ) เป็นอุปกรณ์ที่ออกแบบมาเพื่อปรับปรุงคุณภาพอากาศภายในบ้าน โดยมีหน้าที่หลักในการกรองฝุ่นละออง เชื้อโรค กลิ่น และมลพิษต่าง ๆ ที่อาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณ
บ้านเป็นพื้นที่ปิดที่มลพิษจากภายนอกอาจเข้าไปสะสมได้ เช่น ควันบุหรี่ ฝุ่น และสารก่อภูมิแพ้ต่าง ๆ เมื่อเราอยู่ในบ้านนาน ๆ คุณภาพของอากาศภายในจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่มีผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพของทุกคนในครอบครัว โดยเฉพาะผู้ที่มีโรคระบบทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ และผู้สูงอายุ
เครื่องเติมอากาศแบบ HEPA Filter (High-Efficiency Particulate Air) เป็นเทคโนโลยีที่สามารถกรองอนุภาคขนาดเล็กได้ถึง 0.3 ไมครอน ซึ่งสามารถดักจับฝุ่น ละอองเกสร แบคทีเรีย และไวรัสขนาดเล็กได้ เครื่องเติมอากาศประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่มีภูมิแพ้ หรือบ้านที่มีเด็กเล็กและผู้สูงอายุ
เครื่องเติมอากาศแบบคาร์บอน เครื่องเติมอากาศที่มี คาร์บอนกรอง (Activated Carbon Filter) มีความสามารถในการดูดซับกลิ่นและสารเคมีในอากาศ เช่น ควันบุหรี่ กลิ่นอาหาร และสารระเหย เครื่องเติมอากาศประเภทนี้เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการลดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในบ้าน
เครื่องเติมอากาศแบบ UV เครื่องเติมอากาศที่ใช้แสง UV (Ultraviolet) เพื่อฆ่าเชื้อโรค เช่น แบคทีเรียและไวรัส เหมาะสำหรับบ้านที่มีผู้ป่วยหรือผู้ที่ต้องการลดความเสี่ยงในการแพร่เชื้อโรคภายในบ้าน
เครื่องเติมอากาศแบบ Ionizer เครื่องเติมอากาศประเภทนี้จะปล่อย ประจุไอออนลบ ออกมาในอากาศ ซึ่งจะไปจับกับฝุ่นละอองและอนุภาคในอากาศ ทำให้อนุภาคเหล่านี้หนักขึ้นและตกลงสู่พื้น ทำให้คุณสามารถทำความสะอาดออกไปได้ง่ายขึ้น
การเลือกซื้อเครื่องเติมอากาศในบ้านจำเป็นต้องพิจารณาหลายปัจจัย ซึ่งจะช่วยให้คุณเลือกเครื่องที่เหมาะสมกับความต้องการและขนาดพื้นที่ของบ้าน
ขนาดพื้นที่ที่ต้องการฟอกอากาศ เลือกเครื่องเติมอากาศที่มีความสามารถในการฟอกอากาศตามขนาดพื้นที่ที่คุณต้องการ ตัวอย่างเช่น ถ้าคุณต้องการใช้ในห้องนอนที่มีพื้นที่ 30 ตารางเมตร ควรเลือกเครื่องเติมอากาศที่มีค่า CADR (Clean Air Delivery Rate) เหมาะสมกับขนาดห้อง เช่น 200 ลูกบาศก์เมตรต่อชั่วโมงขึ้นไป
ประสิทธิภาพของไส้กรอง ตรวจสอบชนิดของ ไส้กรอง ที่เครื่องเติมอากาศใช้ เช่น ไส้กรอง HEPA หรือคาร์บอน ไส้กรองแต่ละประเภทมีความสามารถในการกรองมลพิษและสารพิษแตกต่างกัน ดังนั้นควรเลือกตามความต้องการ เช่น ถ้าคุณกังวลเรื่องฝุ่นและสารก่อภูมิแพ้ ควรเลือกเครื่องที่มีไส้กรอง HEPA
ระดับเสียงการทำงาน เครื่องเติมอากาศบางรุ่นอาจมีเสียงดังในระหว่างการทำงาน โดยเฉพาะในโหมดการทำงานที่มีความเร็วสูง หากคุณต้องการใช้ในห้องนอนหรือห้องที่ต้องการความเงียบ ควรเลือกเครื่องที่มีระดับเสียงต่ำกว่า 50 เดซิเบล
ความสะดวกในการบำรุงรักษา การทำความสะอาดและเปลี่ยนไส้กรองเป็นสิ่งสำคัญในการดูแลเครื่องเติมอากาศ ควรเลือกเครื่องที่สามารถถอดและทำความสะอาดไส้กรองได้ง่าย และตรวจสอบว่าไส้กรองมีอายุการใช้งานนานแค่ไหน
ฟังก์ชันเพิ่มเติม ปัจจุบันมีเครื่องเติมอากาศหลายรุ่นที่มาพร้อมกับฟังก์ชันพิเศษ เช่น การควบคุมผ่านสมาร์ทโฟน การแสดงผลคุณภาพอากาศในบ้าน หรือการตั้งเวลาทำงาน การเลือกเครื่องที่มีฟังก์ชันเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถควบคุมและติดตามคุณภาพอากาศได้ง่ายขึ้น
เครื่องเติมอากาศจะทำงานได้ดีเท่าที่ไส้กรองของมันสะอาดและยังคงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ ดังนั้นการบำรุงรักษาเครื่องเติมอากาศจึงเป็นสิ่งที่คุณควรใส่ใจ
การทำความสะอาดไส้กรอง ไส้กรองในเครื่องเติมอากาศควรได้รับการทำความสะอาดหรือเปลี่ยนอย่างสม่ำเสมอ โดยแนะนำให้ทำความสะอาดทุก ๆ 2-3 เดือน ขึ้นอยู่กับปริมาณฝุ่นในบ้านของคุณ
สามารถเลือกซื้อ เครื่องเติมอากาศ ที่มีคุณภาพในราคาพิเศษทุกชนิดแบบครบวงจรได้ที่ Homepro ทุกสาขาใกล้บ้านของคุณ หรือแวะเข้ามาเลือกซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์ Homepro Online ที่มาพร้อมกับบริการจัดส่งและติดตั้งสินค้าถึงบ้านของคุณ ทีมงานโฮมโปรพร้อมอำนวยความสะดวกและยินดีบริการลูกค้าทุกท่านด้วยใจติดต่อสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ Homepro Call Center 1284
กรุณาเข้าสู่ระบบหรือสมัครสมาชิก
เพื่อเพิ่มรายการโปรดของคุณ